บทที่ 1.1 เหตุร้าย
ย่านตลาดในชุมชนที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทยจีน ตึกรามบ้านช่องเก่าแก่หลายยุค หลายสมัยแออัดไปด้วยผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อของกินในเวลาเย็น ถนนแคบจนรถไม่สามารถส่วนทางกันได้ เสียงเรียกลูกค้าดังสลับกันตามประสาคนค้าขาย อาคารไม้สองชั้นหลังเก่าที่สีทาบ้านลอกล่อนซีดจางเดิมเคยเปิดเป็นร้านอาหารจีน แต่พอเปลี่ยนมือเจ้าของก็หันมาเปิดเป็นร้านขายขนมจีบ ซาลาเปา เดือนเมษากำลังกุลีกุจอยกลังถึงขึ้นมาตั้งบนเตา แล้วหันไปจัดการตักขนมจีบใส่กล่องให้ลูกค้าเจ้าประจำ
“เจ้เอาเหมือนเดิมใช่ไหม๊จ๊ะ”
“จ้า...ขยันจริงๆ นะเมษาเนี่ย เสียดายไม่ใช่ลูกคนจีน ไม่อย่างนั้นเจ้จะทาบทามให้มาเป็นดองกัน” เดือนเมษายิ้มหน้าเจื่อน คำพูดแสดงให้เห็นว่ายังดูถูกในสายเลือดของเธออยู่
เดือนเมษาเป็นลูกติดของบุหงาสาวใต้พลัดถิ่นที่ถูกผัวทิ้งจนต้องร่อนเร่มาหางานทำเพื่อเลี้ยงลูก เถ้าแก่เอ็นดูแม่ของเดือนเมษาจึงรับมาเป็นเมียคนที่ 3 จากบรรดาเมีย 4 คน แต่ละเมียได้รับมรดกตามสัดส่วน แม่ของเธอได้ร้านนี้กับเงินอีกนิดหน่อยเพื่อลงทุน แต่ก็ถูกเมียหลวงตามมีจิกเอาไปเสียบางส่วนแล้ว หญิงสาวสงสารแม่ที่ต้องสู้อดทนเพื่อเธอและน้องชาย สายเลือดแท้ของเถ้าแก่
“เมษาเอ๊ย เร่งมือหน่อยลูก...อย่าปล่อยให้ลูกค้ารอนาน เดี๋ยวจะเสียลูกค้า”
“แม่จ๋า หนูรีบจนมือจะหักแล้วเนี่ย...ไม่รู้ไอ้ธันวามันหายหัวไปไหน ไม่มาช่วยกันบ้างเลย” หญิงสาวบ่นพลางปาดเหงื่อที่เกิดจากไอร้อนของเตา “รับขนมจีบหรือซาลาเปาดีคะ ร้านเรามีหลายไส้ มีทั้งกุ้ง หมูสับ หมูสาหร่าย” หญิงสาว รู้ซึ้งเลยว่าแม่ต้องทำงานหนักแค่ไหนกว่าจะส่งเธอเรียนจนจบมัธยม “แม่ไม่ต้องลุกมาเลยนะ พักผ่อนให้หายก่อน เดี๋ยวหนูขายของเอง”
กว่าลูกค้าจะซาก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน บุหงากับเดือนเมษาช่วยกันเก็บของปิดร้าน หญิงสาวชะเง้อมองหาน้องชายที่หายไปทั้งวันโดยไม่บอก ในใจโมโหที่ทำให้คนอื่นเป็นห่วง แต่ก็มิวายกังวลกลัวจะเกิดอันตรายกับน้องชายวัย 16 ปี
“แม่เดี๋ยวหนูออกไปดูธันวามันหน่อยนะ ไม่รู้อยู่ร้านเกมหรือเปล่า ถ้าเจอตัวจะลากกลับมาให้แม่บ่นมันบ้าง”
“มันดึกแล้วนะลูก น้องมันเป็นผู้ชาย มันเอาตัวรอดได้น่า”
“หนูไปเดี๋ยวเดียว...จะรีบกลับนะแม่ ไม่ต้องรอ ปิดร้านแล้วเข้านอนก่อนได้เลย อ่อ อย่าลืมกินยานะแม่” บุหงารู้ว่าห้ามไม่ได้ ลูกสาวของเธอแสนดื้อรั้น
ในตรอกแคบๆ ห้องแถว 2 คูหา เปิดเป็นที่ชุมนุมให้เด็กหนุ่มสาวนักเล่นเกมออนไลน์ ความจริงมันก็คงมีมากกว่าเกมออนไลน์ ไม่อย่างงั้นจะดึงดูดเด็กๆ ได้ยังไง เดือนเมษายืนลังเลอยู่หน้าร้านไม่กล้าเข้าไป กังวลอะไรบางอย่าง หญิงสาวสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่เพื่อความกล้า เธอก้าวเท้าได้เพียงก้าวเดียว เด็กในร้านเกมก็หวีดร้องพร้อมวิ่งกรูกันออกมา
ผู้ชายร่างสูงวิ่งออกมาพร้อมกับลูกน้องอีก 2 คน เขารีบร้อนจนชนเข้ากับเดือนเมษาที่ยืนอยู่หน้าร้าน หญิงสาวซวนเซเสียหลัก เกือบจะตะโกนด่าเขาไปแล้ว ถ้าไม่ได้เห็นหน้าตาที่เต็มไปด้วยรอยสักของเขาก่อน ใบหน้าข้างหนึ่งเป็นรอยสักรูปกระทิงสีแดง เขาไม่สนใจว่าใครจะล้ม เขารีบวิ่งออกไปพร้อมลูกน้องตรงไปหน้าซอย
“เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น...ไอ้ซ้ง เกิดอะไร” เด็กหนุ่มหน้าตาละล่ำละลักดูตกใจหวาดกลัว
“มีคนถูกฆ่าตาย”
“ห๊า ใครตาย...ธันวาอยู่ที่ไหน ฉันถามว่าธันวาอยู่ที่ไหน” ซ้งไม่ได้ตอบแต่ชี้ไปในร้านแทน ใจคอไม่ค่อยจะดี เดือนเมษารีบวิ่งเข้าไปในร้าน เธอมองหาน้องชายไปตามเก้าอี้นวมตัวใหญ่ แต่ไม่เจอ “ธันวา ไอ้ธันวา แกอยู่ที่ไหน” หญิงสาวสะดุดสิ่งที่วางอยู่ที่พื้น มันไม่ใช่สิ่งของแต่เป็นขาคน ข้างตัวนองไปด้วยเลือดแดงฉานสดๆ “กรี๊ดๆ คะ คนตาย...ไอ้ธันวาแกอยู่ที่ไหน”
“เจ้ ชะ ช่วยผมด้วย” เสียงสั่นๆ ดังมาจากซอกหนึ่งระหว่างตู้เหล็กกับโต๊ะ ยังไม่ทันจะเดินไปหาน้องชาย เสียงไซเรนดังมาแต่ไกลตำรวจจอดรถที่หน้าร้าน เดือนเมษารู้ทันทีว่าจะต้องรีบพาน้องชายออกจากร้านให้เร็วที่สุด
