บทที่ 2.1 หมอหล่อหนูอยากได้
บ้านไม้ไผ่ยกพื้นสูงแค่พอให้พ้นจากพื้นดินเท่านั้น มีระเบียงยื่นออกไปเพื่อเป็นครัวหุงหาอาหาร กะรัตและเทียนหอมมองบ้านพักอย่างแปลกตา เธอเพิ่งเห็นว่าบ้านเรือนที่นี่ปลูกกันบนเนินนี้ และยังยกพื้นเหมือนกันหมด บ้านพักของทั้งสองหลังเล็กน่าเอ็นดู มีตุ่มน้ำตั้งอยู่หน้าบ้าน และหลังบ้านก็มีห้องน้ำที่สร้างเอาไว้นอกบ้าน ต้นไม้รอบบ้านต้นใหญ่ร่มรื่น
“ธรรมชาติสุดๆ แบบนี้สิบรรยากาศโรแมนติกเหมาะกับการมีผัว”
“ยายกะรัต ปากดีนักนะเธอเข้าไปข้างในบ้านเถอะ ฉันอยากจะจัดข้าวของเข้าที่ ไม่รู้ว่าจะมีโต๊ะตู้เตียงอะไรบ้าง”
สองสาวก้าวขึ้นไปบนบ้านไม้ไผ่ แม้จะเกรงกลัวว่ามันจะหักลงมาไหม เทียนหอมก้าวช้าๆ พอยืนเต็มตัวแล้วเธอก็รู้ว่ามันแข็งแรงที่จะรับน้ำหนักของเธอและเพื่อนได้ ภายในห้องเล็กไม่มีข้าวของเลยสักชิ้น หน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้
“โล่งสมใจไหมล่ะยายเทียน...จะนอนยังไงเนี่ย ไม่ได้เตรียมที่นอนมาด้วย ผ้าห่มซักผืนก็ยังไม่มีเลย ปวดหลังแย่เลย เธอน่าจะบอกฉันสักหน่อยนะว่าจะมากลางป่าแบบนี้จะได้เตรียมชุดสนามมาบ้างอย่างน้อยก็ไม่ต้องกลัวยุงกัดจนตัวลาย”
“อืม จริงด้วย ขอโทษที่พามาลำบากนะกะรัต ฉันแค่นึกอยากพาเธอมาพักสมองให้พ้นสายตาของป้า ไม่ทันได้นึกว่าจะลำบากแบบนี้ เอาไว้เราค่อยไปหาซื้อแถวๆ นี้ก็แล้วกันน่าจะพอมีขายบ้าง”
“เงียบเหงาไม่มีอะไรให้ดูเลย...นอกจากคุณหมอรูปหล่อน่าฟัดคนนั้น ซี้ด กล้ามแน่นๆ น่าฟัดจริงๆ โอ๊ยคิดแล้วหมั่นเขี้ยวอยากกัดซักคำ อ้ำๆ”
“ยายบ้า หื่นอะไรนักหนาจ๊ะ ถ้าจะหื่นขนาดนี้ทำไมต้องหนีการดูตัวด้วยล่ะ...อยากจะมีผัวต้องถ่อมาไกลเชียวนะแม่คุณ”
“ไม่เอาๆ หาเองดีกว่า...ถึงจะยากแค่ไหนฉันก็จะหาผัวให้ได้ด้วยตัวเอง ขืนให้ป้าหาให้ก็ได้ขายฉันกินแน่ๆ นิสัยป้าก็รู้จักกันดี”
“เอาเถอะ อดทนหน่อยนะ ที่นี่มันลำบากกว่าที่คิดไว้เยอะเลยบางทีอาจจะหาผัวยากด้วยเช่นกันนะจ๊ะยายกะรัต”
กะรัตยิ้มอย่างมั่นใจว่าเธอจะทำได้สำเร็จ เธอเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองเสมอ แต่เฉพาะเวลาไม่ถูกป้าและพี่สาวข่มขู่นะ หญิงสาวเป็นคนเก่งฉลาดและมีความรู้ไม่อายใคร
ช่วงบ่ายของวันนั้น หลานสาวของผู้ใหญ่บ้านเอาที่นอน หมอน ผ้าห่มและมุ้งมาให้สองสาวที่บ้าน เด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักจนกะรัตยิ้มชอบใจ ยิ่งเธอพูดภาษากลางได้ชัดถ้อยชัดคำ หญิงสาวก็ชอบใจมากขึ้น
“น่าเอ็นดูเชียว รู้จักเอาที่นอนมาให้ด้วย ขอบใจนะจ๊ะ”
“ฉันชื่อบัวไหล อายุสิบขวบเป็นหลานสาวผู้ใหญ่บ้าน...ที่นอนกับมุ้งนี้ซักสะอาดแล้ว พี่สาวใช้ได้เลยนะจ๊ะ”
“พูดจาฉะฉานน่าฟังเชียว ไม่คิดเลยว่าเด็กที่อยู่ในป่าในดอยจะฉลาดพูดขนาดนี้ ชื่อบัวไหล...แปลกหูดี พี่ชื่อกะรัต แล้วนั่นครูเทียนหอม”
“ดีใจจังที่มีครูมาสอนน้องๆ ที่นี่ เพราะว่านานแล้วไม่มีครู...มีแต่หมอโอฬารที่ช่วยสอนหนังสือพวกเราจ้ะ”
“ฮืม พ่อพระแท้ๆ เลยคุณหมอโอฬารเนี่ย ทั้งหล่อล่ำกล้ามโตแล้วยังใจดีมีเมตตาอีกด้วย...แล้วคุณหมอมีเมียหรือยัง”
“ยายกะรัตถามบ้าๆ อะไร บัวไหลยังเด็ก”
“เอ้าก็ฉันอยากรู้นี่นา ตกลงว่ามีหรือยังจ๊ะ บอกพี่หน่อยพี่อยากรู้”
“ยังจ้ะ...คุณหมอเป็นโสด สาวๆ ตามจีบกันทั้งหมู่บ้านแต่คุณหมอไม่เลือกซักคน”
“เกย์แน่นอน”
“อารมณ์เสีย พูดดีๆ หน่อยได้ไหมยายเทียน...ให้ความหวังเพื่อนหน่อย ขอบใจนะบัวไหล เอ่อ พาพี่ไปเดินเล่นแถวนี้หน่อยสิ”
“ได้สิจ๊ะ”
กะรัตเปลี่ยนรองเท้าส้นสูงออกแล้วใส่ผ้าใบที่เธอเตรียมมาด้วย ปกติเธอก็ไม่ใส่ส้นสูงเท้าไหร่หรอก ที่ยอมใส่มาก็เพราะว่าจะมาเที่ยวชิลๆ ไม่คิดว่าเพื่อนจะหลอกเข้าป่าแบบนี้ แถมโทรศัพท์รุ่นชั้นนำก็ไร้สัญญาณ จะโทรหาใครก็ไม่ได้ เธอเลยต้องให้บัวไหลพามาเดินเล่น เผื่อว่าคนสบายใจขึ้น
