ตอนที่ 3 อ้อมกอดของชายแปลกหน้า
3
อ้อมกอดของชายแปลกหน้า
ไม่ว่าจะพยายามเปิดประตูรถแค่ไหนสุดปรารถนาก็ไม่สามารถทำได้ดั่งใจนึก ประตูทุกด้านถูกล็อกจากฝั่งคนขับ ถ้าเขาไม่ปลดล็อกเธอก็เปิดมันไม่ได้
“คุณจะพาฉันไปไหนคะ ถ้าคุณไม่บอกฉันสักทีว่ารู้จักฉันได้ยังไงก็เปิดประตูรถเถอะนะคะ ปล่อยฉันไปเถอะ”
“กว่าฉันจะเจอตัวเธอ คิดว่าฉันต้องรอมานานแค่ไหนกันล่ะดอกรัก ฉันเจอเธอแล้วและไม่มีวันจะปล่อยเธอไป”
“ถ้างั้นคุณก็บอกฉันมาสิคะว่าเราเจอกันที่ไหน”
เพราะสุดปรารถนาไม่เคยเห็นหน้าเขา แต่หากจะคิดว่าเขาเป็นผู้ชายในเงามืดคืนนั้น ถ้าในเมื่อเธอมองไม่เห็นใบหน้าของเขาแล้วเขาจะเห็นใบหน้าของเธอได้อย่างไร ไม่ใช่แน่ ผู้ชายคนนี้ต้องไม่ใช่คนที่พรากพรหมจารีย์ไปจากเธอ
“บอกแน่ แต่รอให้ถึงไร่ก่อนเถอะ”
“ไร่?”
“ใช่ ไร่ของฉัน”
“ฉันไม่ไป คุณจะโดนข้อหาลักพาตัวนะคะถ้าไม่ปล่อยฉันลง” เธอขู่เมื่อเห็นว่าผู้ชายคนนี้ไม่คิดจะปล่อยเธอไป แต่สุดปรารถนาคิดผิด คำขู่ของเธอไม่เป็นผลแน่โดยเฉพาะถ้าคิดจะขู่คนอย่างสีหนาถล่ะก็ เธออ่อนด้อยทั้งความคิด วัยวุฒิ และประสบการณ์
“กลัวตายล่ะ จะบอกอะไรให้นะ กฎหมายไม่เคยทำอะไรฉันได้”
เสียงทุ้มของเขาสำหรับเธอแล้วยามเอ่ยประโยคนั้นมันช่างเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหดเสียจนเธอกลัวจนต้องหุบปาก กลัวว่าจะเอาชีวิตมาทิ้งในรถคันนี้ และความกลัวก็ไม่ทำให้เธอคิดอะไรนอกจากลนลานจิตตก
ข้อนิ้วของเธอเกร็งจนงอ เหงื่อผุดออกมาเต็มหน้าผากไรผมเปียกชื้น น้ำตาพาลจะหยดแหมะหากไม่มีมือใหญ่กระด้างจับมือบางของเธอไว้ ตากลมตวัดขึ้นมองเขาด้วยความฉงนระคนหวาดกลัว แต่พอปลายนิ้วเล็กๆ ของเธอสัมผัสริมฝีปากของเขา หัวใจของสุดปรารถนาก็แทบหยุดเต้น
สีหนาถบรรจงจูบปลายนิ้วทีละนิ้วหวังจะให้เธอคลายความหวาดกลัว ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะไร้ตัวตนอยู่ในความทรงจำของเธอ ทั้งที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนลืมบทรักของเขาได้ แล้วนี่กระไรขนาดตั้งท้องลูกของเขา เอ่อ...หรือจะเป็นลูกคนอื่นก็เถอะ เธอก็ยังลืมรสสัมผัสของเขาในค่ำคืนนั้น เสียเชิงชายชะมัด และคงทำอะไรไม่ได้นอกจากจะรื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆ ให้เธอด้วยตัวเอง
สุดปรารถนามองปลายนิ้วของตนที่หายเข้าไปในริมฝีปากสีเข้มทีละนิ้ว รู้สึกจี๊ดที่ปลายนิ้วคล้ายเส้นประสาทสั่งการก่อนที่มันจะร้อนวูบวาบ เธอหลับตาอย่างช้าๆ เมื่อเห็นปลายลิ้นตวัดไปทั่วปลายนิ้วของตน มันทำให้นิ้วเล็กๆ เปียกชื้นไปหมด
“หยุดเถอะ” เธอขอร้องด้วยเกรงว่าหัวใจจะหลุดออกจากทรวงอก มันเต้นเร็วเกินไป เร็วจนต้องเผยอปากหอบหายใจ
ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ สีหนาถกระตุกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วกดมือเล็กสั่นๆ วางลงกลางเป้ากางเกงของตน
“อุ๊ย! อย่าค่ะ” เธอกระตุกมือทันที ซึ่งคนอย่างสีหนาถหรือจะยอมปล่อย เขากดมือเธอหนักๆ ให้รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของท่อนเนื้อใต้กางเกงยีนสีเข้ม
“คุณ!! มันกำลัง...”
“ตื่นตัว” เขาต่อให้เมื่อเธออายจนแก้มแดงและไม่ยอมพูดต่อ ทว่ามือน้อยๆ ในอุ้งมือเขากลับขยับเหมือนอยากรู้เรื่องราวใต้เป้ากางเกง นั่นทำให้สีหนาถอยากทำเรื่องสั้นๆ ให้ยาวขึ้น สายตาจึงสอดส่องมองหาและฉุกคิดขึ้นมาว่า ไหนๆ ก็อยู่ในรถมิดชิดแล้วจะต้องมองหาสถานที่อื่นไปทำไม
รถเคลื่อนที่เร็วขึ้นจนหญิงสาวตกใจ มือของสุดปรารถนายังคงกดคลึงอยู่กับส่วนสัดที่มันตุงใหญ่ ลักษณะและขนาดของมันทำเอาเธอตาลุกวาว คิดถึงสัมผัสเก่าๆ ในคืนแห่งความทรงจำขึ้นมา เธอสัมผัสมันแบบนี้แต่ตอนที่มันเปลือยเปล่า
อากัปกิริยาของเธอเปลี่ยนเป็นกดหนัก สีหนาถหลุบตาลงมองมือเล็ก ก่อนจะเห็นสีหน้าตื่นเต้นเหมือนเด็กตัวน้อยๆ คงคิดว่าความเป็นชายคือของเล่นกระมัง หรือว่า...เธออาจจะจำอะไรขึ้นมาได้
“เคยทำแบบนี้กับใครหรือเปล่าดอกรัก”
“ไม่ค่ะ” เธอปฏิเสธ
“ไม่? แล้วเธอจะท้องได้ยังไงกัน”
พอได้ยินคำถามนี้เธอก็ผละมือออกขยับไปพิงเบาะนิ่งและแทบจะซุกหน้าเข้ากับกระจกรถ
“ถ้าเธอไม่เคยสัมผัสเนื้อตัวผู้ชาย เธอคงท้องไม่ได้แน่”
หญิงสาวไม่ตอบ
“ไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าฉันชอบให้เธอลูบไล้มัน ฉันต้องการเธอดอกรัก ต้องการมือ ต้องการปาก ต้องการปลดปล่อยในตัวเธอได้ยินมั้ย”
“นี่คือสาเหตุที่คุณลักพาตัวฉันมาแบบนี้ใช่หรือเปล่าคะ คุณต้องการให้ฉันช่วยหรือคะ”
“ฉันต้องการเธอ เธอเข้าใจไหมดอกรัก”
“ถ้าฉันเรียกค่าตัวล่ะคะ ฉันท้องอยู่ด้วย ค่าตัวต้องเบิ้ลเป็นสองเท่า พร้อมที่จะจ่ายหรือเปล่าล่ะคะ” เธอประชดประชัน ไม่คิดว่าอยากจะนอนกับผู้ชายที่ไหนอีก นอกจาก...ชายคนนั้น
“งั้นคิดมาเลย ตลอดชีวิตน่ะเท่าไหร่”
“คุณว่าอะไรนะคะ?” เธอมองเขาตั้งใบหน้าจรดต้นขา คือหยุดมองได้แค่นั้นจริงๆ เพราะสิ่งสุดท้ายที่เห็นกลางหน้าขาเขาในตอนนี้ยังมีลักษณะเดิมไม่เปลี่ยน เธอถอนสายตาไม่ขึ้นแถมยังกลืนน้ำลายไม่ลงคออีกด้วย
สิ่งที่ได้เป็นคำตอบนั้นคือรอยยิ้มบางๆ กับแววตาไหวระริก ไม่มีคำตอบและเขาก็จับมือเธอมาวางบนที่เดิม
“ห้ามเอามือออก นี่คือคำสั่ง ถ้าทำตัวดีน่ารัก ฉันจะพาเธอกลับไปเยี่ยมบ้าน ส่วนเรื่องน้องชายคงไม่มีอะไรน่าห่วงกระมัง โตแล้วนี่ไม่ใช่เด็กๆ ประสบการณ์ก็โชกโชน”
“คุณรู้จักสุดเขตด้วยหรือคะ คุณเป็นใครกันแน่”
“ไว้ถึงไร่แล้วเธอจะรู้เอง”
“กรี๊ดดด ทำไมพี่สิงห์ไม่กลับมาซะที”
เสียงหวานที่บัดนี้แหลมเล็กกรีดร้องลั่นจนคนงานบริเวณชะงักมือที่กำลังทำงานแล้วมองณัฐชาอย่างตกใจ แม้ครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่หลายคนได้ยินเสียงกรีดร้องแหลมบาดแก้วหู แต่ทุกครั้งเสียงแปดหลอดของณัฐชาก็สร้างความตื่นตะลึงพึงเพริศได้เสมอ
สาเหตุนั้นทุกคนรู้ดี เมื่อใดที่นายสิงห์หายตัวไปไหนโดยที่น้องสาวอย่างณัฐชาไม่รู้ เมื่อนั้นเสียงแปดหลอดก็ดังลั่น เป็นที่รู้กันดีว่าน้องสาวนั้นหวงพี่ชายมากขนาดไหน ไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้พี่ชายสุดที่รักคนนี้ของเธอเด็ดขาด แต่ก็ยังมีหลุดเข้ามาวนเวียนใกล้ชิดบ่อยๆ เพราะสีหนาถเป็นผู้ชายที่เหมือนสนามแม่เหล็กดึงดูดทั้งสาวใหญ่สาวรุ่นเข้าหา และทุกคนต้องกลับไปพร้อมกับความผิดหวัง
เมื่อน้องสาวไม่ต้องการพี่สะใภ้ ก็อย่าหวังว่าใครจะเข้ามาเป็นพี่สะใภ้ให้เธอ!
“ใจเย็นๆ ก่อนค่ะคุณหนู ประเดี๋ยวนายสิงห์ก็กลับค่ะ คงไม่ได้ไปไหนไกล”
“จะใกล้หรือไกลพี่สิงห์ก็ควรบอกนุ่นทุกครั้ง น่าจะรู้ว่านุ่นไม่พอใจถ้าไม่เจอหน้าพี่สิงห์”
“นายสิงห์คงไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะคุณหนูขา คงคิดว่าไปประเดี๋ยวก็กลับแล้ว” ป้าจิตพยายามปลอบใจ รู้ดีว่าทำได้เพียงแค่นั้นและผลจะออกมายังไงแต่ก็ยังต้องทำ
“พี่สิงห์ทำแบบนี้ไม่เกรงใจนุ่นเลย ทั้งๆ ที่นุ่นเป็น...”
“นุ่น” ณัฐชาหันไปตามเสียงเรียกสีหน้างอหงิก ณิชาผู้เป็นมารดาส่ายหัว รู้ดีว่าณัฐชารักชอบสีหนาถมากเกินกว่าความเป็นพี่น้อง อีกฝ่ายก็พูดไม่ออกด้วยความรักน้อง แต่ก็เป็นรักแบบพี่น้องไม่คิดอะไรเกินกว่านั้น แต่ลูกสาวของเธอสิไม่หยุดที่จะคิดซ้ำยังพยายามทำทุกอย่างเพื่อได้ครอบครองสีหนาถอย่างที่ใครๆ ก็รู้กันทั่ว
“มายืนตากแดดอะไรที่นี่ เดี๋ยวก็ได้ล้มหมอนนอนเสื่อไปอีก เข้าบ้านเถอะลูก”
“นุ่นจะรอพี่สิงห์ค่ะ คุณแม่เข้าบ้านไปก่อนเถอะค่ะ”
“แต่นุ่นไม่ค่อยแข็งแรง แม่เป็นห่วง”
“นุ่นไม่เป็นอะไรหรอกค่ะคุณแม่ แต่ถ้านุ่นจะตายเพราะรอพี่สิงห์ก็ดีสิคะ พี่สิงห์จะได้เห็นค่าในตัวนุ่นเสียที”
สีหนาถเป็นลูกนอกสมรสที่คุณพ่อของเธอรักยิ่งกว่าลูกในไส้ คุณพ่อของเธอทิ้งทุกอย่างเอาไว้ให้เขาดูแลแทนก่อนจากไป รวมทั้งเธอกับแม่ ถ้าเป็นในละครน้ำเน่าพี่สิงห์ควรจะแต่งงานกับเธอเพื่อดูแลและคุ้มครองอย่างใกล้ชิด แต่นี่พี่สิงห์ของเธอสร้างกำแพงขวางกั้นตั้งแต่คุณพ่อยังอยู่ คุณพ่อเองก็กระไรไม่เข้าใจหัวอกเธอเสียบ้าง ไม่เคยส่งเสริมให้เธอเป็นคู่ครองของพี่สิงห์ คุณแม่ก็หัวอ่อน คุณพ่อว่าอะไรคุณแม่ไม่เคยขัดใจท่าน
ไม่มีใครเข้าข้างหรือเห็นใจในความรักของเธอเลยสักคน
“อย่าคิดแบบนั้นนุ่น อย่าคิดอะไรที่จะทำให้นายสิงห์เกลียดหนูมากขึ้น แม่อยากให้นุ่นเลิกหวัง พี่สิงห์ไม่ใช่คนใจร้ายเพราะถ้าเขาจะใจร้ายกับหนู เขาคงทำไปนานแล้ว” พูดจบณิชาก็เดินกลับเข้าบ้าน
ณัฐชาหน้าเสีย เธอรู้ดีว่ามันจริงขนาดไหน แต่พี่สิงห์คือรักแรกพบ รักตั้งแต่เด็กจนโตเป็นสาว ความรักของพี่น้องที่ถักทอกลายเป็นความรักระหว่างหนุ่มสาว แต่น่าเสียดายที่มันคือรักข้างเดียว รักแรกและเป็นรักข้างเดียวมาโดยตลอด
เมื่อคิดมากสีหน้าของณัฐชาก็ยิ่งซีดเผือดก่อนที่ร่างจะเริ่มสั่นจนป้าจิตรู้สึกได้
“เข้าบ้านเถอะนะคะคุณหนู เดี๋ยวถ้านายสิงห์กลับมาป้าจะตามนายสิงห์ให้เข้าไปหาคุณหนูเอง เกิดตากแดดตากลมนานๆ เป็นลมไปอีกจะอดเจอหน้านายสิงห์นะคะ”
เพราะชื่อคนที่เธอรักเท่านั้น ที่ทำให้ณัฐชายอมกลับเข้าบ้านหลังจากชะเง้อคอมองถนนลูกรังสีแดงอยู่นานสองนาน
รถคันใหญ่ที่แล่นมานานนับชั่วโมงหยุดลงที่ตรงปากทางเข้าไร่เพลินตะวัน จากที่มาอาศัยอย่างคิดจะลงหลักปักฐานอยู่ที่จังหวัดนี้ สุดปรารถนาก็พอจะได้ยินชื่อเพลินตะวันมาบ้าง ‘เพลินตะวัน’ นอกจากจะเป็นชื่อของไร่ที่ปลูกพืชล้มลุกหลายชนิดแล้วยังมีการแบ่งฝั่งไว้ปลูกผลไม้มากมาย ซ้ำยังเป็นชื่อของรีสอร์ตที่อยู่บนเกาะกลางทะเล ไม่แปลกใจเลยถ้าคนข้างๆ เธอจะเป็นเจ้าของเกาะและเจ้าของไร่เพลินตะวัน ฐานะของเขาคงไม่ต้องพูดถึง ผู้ชายคนนี้คงไม่ใช่แค่คนงานในไร่เท่านั้น
ในระหว่างที่สุดปรารถนากำลังมองไปนอกกระจกรถชื่นชมกับธรรมชาติสีเขียวปูลาดเป็นเส้นทางสัญจรด้วยสีน้ำตาลแดง มือใหญ่ของคนขับก็ถือวิสาสะวางบนต้นขา เธอสะดุ้งเฮือกหันขวับหากทว่ามือยังไม่ทันปัดมือใหญ่ ลำคอเรียวระหงก็ถูกเขาคว้าแล้วดึงเข้าหาตัว
“อุ๊บ!!”
สีหนาถปล้นจูบด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ ลวนลามเธอด้วยการลูบไล้เรียวขาขาวๆ สูงขึ้นมาถึงใต้ฐานทรวง หญิงสาวกำลังตื่นเพริดกับรสจูบที่ตระหนักได้ว่ารู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยสัมผัสกันมาก่อน จูบหวานที่เต็มไปด้วยอาการเรียกร้องซาบซ่านไปถึงทรวงอก
คุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก!
“จำกันได้หรือยังแม่ดอกรักของฉัน”
“คุณ...คุณคือ...” เธอนึกออกเพราะรสจูบของเขาจริงๆ ผู้ชายคนนี้ก็คือ... “คุณคนนั้น”
“คุณคนนั้น?” สีหนาถสั่นหัว “ฉันจำได้ว่าเคยบอกให้เธอจดจำชื่อของฉันให้ขึ้นใจยังไงเล่าดอกรัก นี่ฉันไม่น่าจดจำถึงเพียงนี้เชียวหรือนางฟ้าในคืนแรม”
“ปล่อยค่ะ” แต่แล้วเธอกลับปัดป้องแถมยังถอยห่างจนเบียดประตูรถแทบจะกลืนกันเป็นชิ้นเดียว
“อะไร? อย่ามาทำท่าทางรังเกียจกันแบบนี้สิ”
“เปล่าค่ะ แต่หนูไม่คิดว่าจะได้เจอคุณอีก” เธอก้มหน้าคางจรดอกตอบเขาอ้อมแอ้ม เธอกำลังท้องลูกของเขา ลูกของผู้ชายที่ไม่น่าจะมาเจอกันอีก แม้เด็กในท้องคือลูกของเขาแต่ทว่าสุดปรารถนาก็เตรียมใจไว้แล้วที่จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว
“เธอไม่อยากเจอฉันอย่างนั้นหรือดอกรัก”
การเจอกันอีกครั้งเป็นทั้งเรื่องดีและเรื่องที่น่าหนักใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะเขาไม่น่าจะรับผิดชอบเธอ ส่วนเธอก็อับอายเกินกว่าจะสบตาเขาได้เต็มๆ ไม่คิดจะย้อนกลับไปทำอาชีพนั้น และไม่คิดว่าจะได้เจอกับลูกค้าคนแรกคนเดียวในวันที่ทำอาชีพอันน่ายกย่องกว่า
“คุณเป็นคนแรกที่หนูไม่อยากเจอ”
ขอให้เขาปล่อยเธอไป!
ขอให้เราต่างคนต่างอยู่!
“ถึงเธอจะไล่ฉันยิ่งกว่านี้ก็อย่าหวังว่าจะได้ไปจากฉันดอกรัก”
ปากนุ่มนิ่มแทบจะบวมช้ำจากการปล้นจูบครั้งนี้ ร่างกายอ่อนยวบเบียดเข้าหาร่างหนาๆ อย่างลืมตัว สัมผัสที่ห่างร้างมานานหลายเดือนและนี่คือครั้งที่สอง มันทำให้สุดปรารถนาอ่อนไปทั้งตัวและหัวใจ ความเกรงกลัวสายตาของคนในสังคมที่เธออยู่มันมีน้ำหนักตั้งแต่เธอเริ่มเข้าทำงานที่ใหม่ สถานที่ทำงานมีผู้คนมากหน้าหลายตา ในไลน์ของเธอรู้เกือบทุกคนว่าเธอยังไม่แต่งงาน แล้วตอนนี้ถ้าพวกเขารู้อีกว่าเธอกำลังท้อง สายตาอยากรู้อยากเห็นจะมากมายขนาดไหน
แล้วถ้าจะยอมรับเขา คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูกในท้องจะผิดอะไร ขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมสั่งให้ต้องเป็นอย่างนั้น
แต่...คนที่เคยนอนกอด จูบ และมอบเซ็กซ์อันดื่มด่ำคืนเดียวคนนี้จะมีหัวใจให้เธอด้วยหรือเปล่า
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าลูกของเธอควรจะมีพ่อ แม่อย่างเธอควรจะปล่อยวางหากถูกสังคมประณาม เรียวขาของสุดปรารถนาก็แยกออกจากกันจนกว้าง มือใหญ่ที่รออยู่แล้วก็ไต่ลึกเข้าไปกลางซอกขา กางเกงขาสามส่วนรัดรูปเน้นส่วนสัดความเป็นสาว มันไม่ต่างจากเปลือยเปล่าเท่าไหร่ สิ่งที่โหนกนูนอยู่ใต้ฝ่ามือทำให้สีหนาถต้องถอนหายใจยาว
“ให้ตายสินางฟ้า จับเป้านูนๆ ของเธอแล้วทำให้ฉันอยากควักตัวเองออกมามั่ง”
หญิงสาวบังคับมือสั่นๆ ผลักร่างหนาออกห่างนิดเดียว
“ทำไมคุณถึงอยากเจอหนูล่ะคะ”
“เพราะฉันคิดถึงเซ็กซ์ของเรายังไงล่ะ คืนนั้นเธอจำได้ไหมว่าเราสุขสมกันมากขนาดไหน ฉันยังเสียดายไม่หายที่ตื่นมาแล้วไม่เจอเธอ”
“หนูมีความจำเป็นเร่งด่วนค่ะ”
“เรื่องอะไรที่มันดึงเธอออกจากอกฉันได้”
ปลายนิ้วของเขายังไม่หยุด ยังขยับไปมาอยู่กลางซอกขา เนินนูนอวบใหญ่ขนาดฝ่ามือปิดกลั้นแทบไม่มิดกำลังทำให้ลมหายใจของสีหนาถติดขัด เขาจะทำให้เธอหอบหายใจไปพร้อมกันด้วยการขยับเกลี่ยปลายนิ้วกับส่วนโหนกนูนส่วนนั้น
“น้องชายของหนูถูกจับค่ะ หนะ...หนู...ต้องรีบเอาเงินไปประกันตัวก่อนที่...ทะ...ที่ตะ...ตำรวจจะส่งตัวสุดเขตไป...ฝากขังที่อื่น อ๊ะ!”
เธอแทบจะลืมคำพูดทั้งหมดเพราะมันถูกทำลายจากเกลียวคลื่นกลางซอกขา ปลายนิ้วแตะแต้มนวดคลึงเหมือนทะลุเข้าไปถึงเนื้อใน เนื้อแท้ๆ ที่อยู่ภายในนั้นเริ่มฉ่ำชุ่ม
“น่าจะบอกกันก่อน ที่จริงเธอควรถูกปรับโทษฐานที่บริการลูกค้าไม่ถึงใจ”
“เอ๊ะ!”
“ถ้าทำแบบเธอปิดการขายไม่ได้หรอกนะ จะต้องบริการจนกว่าลูกค้าจะพอใจที่สุดแล้วเลิกไปเอง”
สีหนาถยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างๆ หูเล็ก ตวัดลิ้นเลียวนในซอกหูแล้วกดปากงับผิวเนื้อที่ลำคอเรียวระหง
“คุณจะ...จะ...” กลายเป็นคนติดอ่างไปแล้วสุดปรารถนาเอ๋ย
“ฉันจะ...” ซิปกางเกงรัดรูปขาสามส่วนถูกกระตุกพร้อมกับการรอคอยในบางอย่างก็เกือบจะสิ้นสุดลง ซับในตัวจิ๋วถูกแหวกหลังจากนั้น
ปลายนิ้วใหญ่ทว่าซุกซนก็ลอดเข้าไปในขอบซับในเพื่อสัมผัสกับเนื้อแท้
“อื้อออ”
