บทที่ 6
แต่ดูเหมือนเจ้าของห้องยังอยากเล่นอะไรสนุกๆ อีกสักหน่อย ภูเมฆจึงแกล้งทำผ้าขนหนูผืนเดียวบนตัวหลุดนั่นจึงเผยให้เห็นทุกอย่างบนร่างกายเขาโดยเฉพาะจุดยุทธศาสตร์สำคัญตรงกลางลำตัว
เภตราร้องกรี๊ดก่อนจะหลับหูหลับตาคว้าทุกอย่างที่ใกล้มือแล้วขว้างใส่อีกฝ่าย ถูกบ้างไม่ถูกบ้างและคนก่อเรื่องก็หัวเราะชอบใจก่อนจะเดินเข้าไปแต่งตัว ผิวปากฮัมเพลงที่เขาชอบซึ่งมันคือเพลงที่เภตราเองก็คุ้นหูเช่นเดียวกัน
หลังจากแต่งตัวเสร็จภูเมฆก็ออกไป นั่นก็เพื่อปล่อยให้เภตราได้จัดการตัวเองอย่างเป็นส่วนตัว โดยชายหนุ่มตั้งใจจะลงไปจิบกาแฟอ่านข่าวสารรอบโลกรอเธอที่โต๊ะอาหาร
ซึ่งทันทีที่ประตูห้องปิดลงเภตราก็ปล่อยโฮออกมา น้ำตาที่มันไหลย้อนกลับค่อยๆ ไหลอาบแก้มจนเป็นสาย เธอยังสบสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่รู้จริงๆ ว่าจะจัดการกับอารมณ์รวมถึงความรู้สึกของตัวเองเวลานี้ยังไง ความตกใจ ความไม่รู้รวมถึงคำถามมากมายผุดเข้ามาในหัวไม่หยุด
พอตั้งสติได้ก็รีบจัดการอาบน้ำชำระร่างกาย แต่พอเห็นหน้าตัวเองผ่านกระจกก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง รู้สึกทั้งสงสารและสมเพชตัวเองในเวลาเดียวกัน เภตราร้องไห้จนคิดว่าพอแล้วหลังจากปาดน้ำให้แห้งจึงอาบน้ำแต่งตัว จากนั้นจึงลงไปข้างล่างเพื่อรับฟังความจริงทั้งหมดจากปากของภูเมฆ
แต่การเจอกันเวลานี้เภตรากลับไม่กล้าสบตาอีกฝ่ายเท่าไหร่นัก เธอพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองเพื่อเอาชนะมันและก้าวผ่านไปให้ได้ เธอจะทำให้เขารู้และเข้าใจว่าเรื่องเมื่อคืนทำลายศักดิ์ศรีของเธอไม่ได้
“นี่อะไร” ทันทีที่เภตราหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวตรงข้ามชายหนุ่ม ภูเมฆที่ดื่มกาแฟดำไปได้ครึ่งแก้วก็ยื่นเอกสารบางอย่างมาให้เธอ
“หนังสือสัญญาร่วมลงทุน”
“แล้วเอามาให้ฉันทำไมคะ”
“อ่านดูสิ แล้วคุณจะเข้าใจเองว่าทำไม” เสียงทุ้มเอ่ยบอกแล้วจิบกาแฟด้วยท่าทีสบายๆ เภตราจึงเปิดเอกสารนั่นออกดูจากนั้นก็ไล่สายตาอ่านและนั่นมันก็ยิ่งทำให้เธอช็อค นี่ถ้าป่วยเป็นโรคหัวใจเธออาจตายไปแล้ว
“คู่หมั้นของคุณเสนอโปรเจกต์ลงทุนร่วมกับผม แต่พอได้เงินไปเขากลับเฉไฉไม่ทำอะไรมาเป็นปีๆ จนกลายเป็นผิดสัญญา”
“แล้วหน้าสุดท้ายที่มันเป็นลายมือคุณ…หมายความว่ายังไง” สัญญาการลงทุนอะไรนั่นไม่สำคัญเท่ากับข้อความบนกระดาษแผ่นในมือ นี่มันวันมหาวิปโยคของชีวิตเธอใช่ไหม
“หมายความว่าคนที่คุณรักเอาตัวคุณมาประเคนให้ผมถึงที่นี่เพื่อจะได้ตัดเงินต้น ซึ่งตัวคุณมีค่าตั้งห้าสิบล้าน”
“ต่อให้จะกี่สิบกี่ร้อยกี่พันล้าน เขาก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับฉัน” เภตราขยำเอกสารในมือจนยับ คิดไม่ถึงว่าณดลจะกล้าทำแบบนี้กับเธอ ทำไมเธอถึงได้ตาบอดไปรักไปรับหมั้นคนแบบนั้นแถมยังมองว่าดีว่าอยากแต่งงานด้วย
“คนเราเป็นหนี้ก็ต้องจ่าย” คำพูดของภูเมฆทำให้เภตราเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มทันที
“แต่หนี้พวกนี้ฉันไม่ได้ก่อ”
“แต่คนรักของคุณก่อไว้ หนำซ้ำยังใช้เอกสารส่วนตัวของคุณค้ำประกันอีกด้วย” อย่างแรกณดลทำไว้จริงๆ ซึ่งตรงข้ามกับอย่างหลังเพราะภูเมฆกุเรื่องขึ้นมาเพื่อผูกมัดเภตรา
ทั้งๆ ที่เลิกรากันแล้ว
ทั้งๆ ที่เธอมีคนรักที่กำลังจะแต่งงาน
ทั้งๆ ที่มีหลายเหตุผลให้เขาปล่อยมือ
แต่สุดท้ายความต้องการบางอย่างก็ชัดเจนกว่า ทั้งๆ ที่เธอทำให้เขาเจ็บแต่เวลานี้ทุกอย่างจะไม่มีวันเหมือนเดิม
“นั่นโทรศัพท์คุณ เลือกเอาว่าจะโทรแจ้งตำรวจหรือโทรกลับไปหาครอบครัวแล้วอ้างเหตุผลอะไรก็ได้เพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นห่วง เพราะคุณคงต้องไปทำงานใช้หนี้ให้ผมพักใหญ่ๆ”
“อะไรนะคะ!” ความตกใจเกิดขึ้นกับเภตราซ้ำๆ จนไม่รู้ว่าเธอควรตกใจกับเรื่องอะไรก่อนหลัง
“ผมมั่นใจว่าคุณได้ยินชัดเจนทุกคำ”
“ถ้าฉันต้องไปทำงานใช้หนี้ให้คุณแล้วงานของฉันล่ะคะ ใครจะรับผิดชอบ” เภตรายกเรื่องงานของเธอมาอ้างเช่นกัน เพราะเธอไม่ใช่นักศึกษาเหมือนตอนนั้นที่ไม่มีการมีงานที่ไหนทำ
“เวิร์คฟอร์มโฮมอะไรก็ว่าไปสิ”
“งั้นฉันจะทำงานใช้หนี้คุณแบบเวิร์คฟอร์มโฮมแล้วกัน” คำตอบของเภตราทำเอาภูเมฆกัดฟันกรอดๆ ไม่เจอกันแค่สี่ปีแต่สกิลต่อปากต่อคำเก่งขึ้นไม่เบา
“ไม่ได้!” เสียงห้วนปฏิเสธทันที
“ทำไมถึงไม่ได้ค่ะ”
“เพราะลูกหนี้แบบคุณไม่มีสิทธิ์ต่อรอง” คำตอบของภูเมฆทำให้เภตรากัดฟันกรอดๆ สี่ปีที่ไม่ได้เจอกันเขากลายเป็นคนไร้เหตุผลไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วสิ่งที่เขาช่วงชิงไปจากเธอเมื่อคืนมันไม่มีค่าเลยหรือไง
“งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ”
“เชิญครับ เพราะทันทีที่เรื่องนี้มีบุคคลที่สามรู้ ภาพตอนที่เราอยู่บนเตียงด้วยกันก็จะหลุดว่อนในโลกอินเตอร์เน็ตทันที”
“คุณ!” เภตราอึ้งจนพูดไม่ออก ตื่นมาพบว่าตัวเองนอนเปลือยอยู่บนเตียงของภูเมฆก็ว่าเลวร้ายแล้ว ยังถูกคนรักอย่างณดลหักหลังหนำซ้ำยังถูกภูเมฆถ่ายรูปไว้แบล็คเมล์อีกอย่างนั้นเหรอ
“ผมไม่ได้ขู่” เสียงทุ้มเอ่ยบอกพร้อมกับสบตาเธอ
“ฉันต้องไปทำงานใช้หนี้ให้คุณนานแค่ไหน”
“ตอนนี้คุณได้เงินเดือนเท่าไหร่”
“สองแสน”
“เอาห้าสิบล้านหารสองแสนก็น่าจะได้จำนวนวันที่คุณต้องไปทำงานกับผม”
“ฉันคงตายก่อนพอดีถึงจะใช้หนี้คุณหมด เอาเป็นว่าฉันพอมีเงินอยู่…”
“นี่คุณจะใจดีจ่ายหนี้แทนณดลอย่างนั้นเหรอ” เพราะไม่พอใจกับการตัดสินใจของเภตราทำให้เสียงของภูเมฆนั้นห้วนไม่น่าฟัง
“ฉันจ่ายเพื่อซื้ออิสรภาพของตัวเองต่างหากแล้วค่อยไปเอาคืนผู้ชายห่วยๆ นั่น คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” มีหรือที่เภตราจะจ่ายหนี้ให้ณดลกลับกันเธอจะเอาคืนอีกฝ่ายให้สาสมต่างหาก
“ผมไม่รับเงินสดไม่รับเช็คหรืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือแรงและเวลา ถ้าคุณทำตัวดีๆ สามสี่ปีก็น่าจะใช้หนี้ผมได้หมด”
“แล้วสิ่งที่คุณทำกับฉันเมื่อคืนมันมีค่าเท่าไหร่ ไม่พอใช้หนี้เลยหรือไง” เภตราเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภูเมฆสบตาที่แดงก่ำของเธอแล้วเอ่ยขึ้น
