บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

แม้เรื่องของภูเมฆจะทำให้รกสมองแต่ทันทีที่เห็นหน้าณดล เภตราก็สลัดเรื่องคนรักเก่าออกไปจากหัวชั่วคราวเธอส่งยิ้มให้เขาแล้วออกไปดินเนอร์ด้วยกัน ทุกอย่างดูปกติกระทั่งเภตรารู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเสียดื้อๆ

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณขิม”

“เวียนหัวค่ะ” เภตราเอ่ยบอกอาการในเวลานี้ของตัวเองออกไป นั่นทำให้ณดลรีบเช็คบิลก่อนจะพาเธอออกไปจากร้านอาหาร

“แวะโรงพยาบาลก่อนดีไหมครับ” เมื่อเข้ามานั่งอยู่ในรถณดลก็เอ่ยถามเภตราด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทั้งยังใช้หลังมือสัมผัสหน้าผากของเธอออย่างอบอุ่นอีกด้วย

“ไม่เป็นไรค่ะ ขิมอยากกลับบ้านมากกว่า”

“ได้ครับเดี๋ยวผมไปส่ง แต่ถ้าคุณขิมไม่ไหวจริงๆ นอนพักสายตาก่อนก็ได้ ถึงบ้านแล้วผมจะปลุก”

“ขอบคุณมากค่ะ” เภตราพยักหน้ารับแล้วเอนหลังพิงเบาะพร้อมกับหลับตาลง ในขณะที่ณดลก็ค่อยๆ เคลื่อนรถออกไปอย่างช้าๆ นั่นก็เพื่อให้มั่นใจว่ายานอนหลับที่เขาได้แอบผสมลงไปในแก้วไวน์ของเภตรากำลังออกฤทธิ์

“คุณขิมครับ คุณขิม” ณดลเขย่าตัวเภตราแรงๆ เพื่อดูอาการตอบสนองแต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวหลับสนิทจึงยิ้มกริ่มออกมาจากนั้นก็เปลี่ยนเป้าหมายในการพาตัวเภตราไปส่ง โดยระหว่างทางนั้นณดลผิวปากฮัมเพลงตลอดเวลากระทั่งถึงจุดนัดพบ

“อุ้มเธอไปวางบนเตียงในห้องนอนฉัน”

“ครับคุณบีม” ลูกน้องคนสนิทของภูเมฆเอ่ยบอก ส่วนณดลกลับไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับภาพตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย แม้ลึกๆ จะเสียดายเภตราอยู่บ้างเพราะตั้งแต่คบหากันมาเขาไม่เคยได้ล่วงเกินตีตราจองเป็นเจ้าของ พอจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มทีไรเธอก็มักจะปัดป้องพลอยทำให้อารมณ์เขากระเจิดกระเจิง

“เสร็จงานแล้วเชิญคุณกลับไปได้”

“จะไม่ให้อะไรปิดปากผมสักก้อนหรือครับ” แทนที่จะรีบกลับณดลที่ดื่มไวน์ไปมากพอสมควรก็ใจกล้าในสิ่งที่ไม่ควรกล้าขึ้นมา

ภูเมฆเพ่งสายตามองชายตรงหน้าที่ขายได้แม้กระทั่งคนที่บอกว่ารักสุดหัวใจด้วยความระอา ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในชายเสื้อเชิ้ตแล้วคว้าบางสิ่งบางอย่างออกมา

“อยากได้สักก้อนหรือสักนัดดีครับ” สิ่งที่อยู่ในมือของภูเมฆเวลานี้ไม่ใช่เงินสดตามที่ณดลอยากได้แต่มันคือปืน

“ไม่ครับไม่ ผมไม่อยากได้อะไรแล้ว” ณดลแทบจะสร่างเมาทันทีพร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น

“ปิดปากคุณให้เงียบจนกว่าผมจะสั่งให้ทำอะไร”

“ครับ”

“ถ้ากล้าขัดคำสั่ง ผมจะเป็นคนปิดปากคุณด้วยตัวเอง เข้าใจใช่ไหมครับ” ขณะบอกปลายกระบอกปืนในมือของภูเมฆก็ยังคงจ่อมาที่ใบหน้าของณดล

“เข้าใจครับ เข้าใจ”

“กลับไปได้แล้ว” สิ้นคำพูดของภูเมฆ ณดลก็ลนลานมาที่รถก่อนจะขับออกไปด้วยความเร็วเท่าที่จะทำได้ ส่วนเจ้าของบ้านก็ได้ทีถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วเดินเข้าไปดูอดีตคนรักที่เวลานี้นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงแล้วพึมพำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

“อ่อนแอแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ภูเมฆส่ายหน้าไปมาแล้วจัดการถอดเสื้อผ้าบนตัวออก จากนั้นก็โยนมันไปมุมนั้นมุมนี้ทั่วทั้งห้อง ชายหนุ่มยืนมองคนบนเตียงด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ความเจ็บปวดที่ถูกบอกเลิกเมื่อสี่ปีก่อนยังคงตามหลอกหลอนเขามาจนถึงตอนนี้

เธอทำให้เขาเหมือนผู้ชายโง่ไร้หัวใจ เพราะแบบนั้นเธอจึงต้องชดใช้

เภตราค่อยๆ รู้สึกตัวตื่น หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องแล้วสะดุ้งสุดตัวจากท่านอนจึงเปลี่ยนมาเป็นท่านั่ง นั่นพลอยทำให้ผ้าห่มที่คลุมร่างกายเปลือยเปล่าของเธออยู่เลื่อนลงต่ำเผยให้เห็นหน้าอกคู่สวย เภตราจึงรีบคว้าผ้าห่มผืนเดิมขึ้นมาคลุมร่างกายไว้ทันที

เวลานี้หัวใจของเธอเต้นโครมครามด้วยความตกใจกลัวสุดขีด ก่อนจะค่อยๆ กวาดสายตาที่น้ำตากำลังเอ่อเพื่อมองไปรอบๆ ห้องที่ไม่คุ้นเคย รวมถึงพยายามคิดทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เพราะคนสุดท้ายที่เธออยู่ด้วยคือณดลหรือว่า…

ความรู้สึกเย็นวาบไล่มาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เภตรายังคงนั่งช็อคทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าคนที่เธอไว้ใจที่สุดจะทำร้ายเธอได้มากถึงขนาดนี้ ต่อให้เขาจะได้ชื่อว่าคนรักแต่ทำไมถึงต้องหักหาญน้ำใจเพื่อให้ได้ครอบครองร่างกายเธอ ความเจ็บปวดเวลานี้เหมือนกับมีคนเอามีดมากรีดใจ น้ำตาที่มันเอ่อพร้อมจะอาบแก้มจู่ๆ ก็ไหลย้อนกลับเข้าไปในหัวใจ เภตราเจ็บปวดผิดหวังเสียใจจนพูดไม่ออก

ก่อนที่เธอสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก เภตราหันไปมองยังประตูทว่าคนที่เธอพบกลับไม่ใช่ณดลแต่คือ

“คุณบีม”

“ตกใจเหรอที่เป็นผม” ภูเมฆที่เวลานี้พึ่งอาบน้ำเสร็จแล้วนุ่งเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวส่ายหน้าให้เภตราพร้อมกับเช็ดผมให้หมาดไปด้วย

“คุณทำอะไรฉัน” เภตราอยากตบปากตัวเองที่ถามอะไรโง่ๆ ออกไปแบบนั้น ทั้งๆ ที่หลักฐานก็ชัดเจนขนาดนี้

“อะไรๆ ที่ตอนนั้นเรายังไม่ได้ทำกันให้ลุล่วง” รอยยิ้มที่แสนร้ายกาจผุดขึ้นบนใบหน้าของภูเมฆ เภตราจ้องตาเขากลับไปอย่างโกรธเคืองจนถึงก้นบึ้งของหัวใจ ก่อนจะด่าทออีกฝ่ายด้วยคำที่สมองพอจะคิดออกในเวลานี้

“คุณมันคนทุเรศ”

“ก็คุณนอนเปลือยยั่วผมอยู่บนเตียงแบบนั้น ผู้ชายที่ไหนจะอดใจไหว” ภูเมฆยักคิ้วให้อดีตคนรักสาวที่เวลานี้มองเขากลับมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง ถ้าเจ้าหล่อนกระโดดกัดคอเขาได้คงทำอย่างไม่ลังเล

“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” นั่นคือสิ่งที่ยังค้างคาอยู่ในใจของเภตราเพราะคนสุดท้ายที่เธออยู่ด้วยคือณดลหรือว่าภูเมฆไปลักตัวเธอมาจากเขา

“อาบน้ำแต่งตัวก่อนแล้วผมจะเล่าให้ฟัง” นั่นเพราะถ้าขืนเภตรายังอยู่ในสภาพนี้เขาอาจอดใจไม่อยู่แล้วทำอะไรที่ไม่ควรทำเข้า

“ไม่ ฉันอยากรู้ตอนนี้”

“ถ้าคุณดื้อ ผมจะไม่ให้คุณได้ถามแต่จะทำให้คุณครางเรียกชื่อผมซ้ำๆ เหมือนเมื่อคืน”

“ชะ…ฉัน” เภตราแย้งไม่ออก เธอขบเม้มริมฝีปากแน่นรวมทั้งใบหน้าสวยก็กำลังเห่อร้อนทั้งๆ ที่มันไม่ควรเป็นเช่นนี้ แม้จะจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างทว่าแววตารวมไปถึงคำพูดของภูเมฆก็ทำให้เภตราประหม่าและเลือกที่จะเชื่อฟังอีกฝ่ายไปก่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel