บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

“คงไม่ได้ครับ เพราะที่ผ่านมาผมให้เวลาคุณณดลมามากพอแล้ว” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ณดลขอผลัดผ่อน ที่ผ่านมาภูเมฆเชื่อใจเสมอว่าอีกฝ่ายจะทำตามสัญญากระทั่งณดลค่อยๆ ทำลายความเชื่อใจนั่นของเขาจนไม่เหลืออีกต่อไป

เขาไม่ใช่เจ้าพ่อเงินกู้แต่ที่ยอมเพราะตอนนั้นณดลมีความน่าเชื่อถือรวมถึงมีแผนและโครงการชัดเจนว่าจะทำอะไร แต่พอได้เงินไปแล้วทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด เขาให้ลูกน้องตามสืบจนรู้ว่าณดลทุ่มเงินไปกับการพยุงธุรกิจของตัวเองให้รอดรวมทั้งยังปั่นหุ้นและทำธุรกรรมสีเทาอีกหลายอย่าง

ลุคภายนอกของณดลคือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแต่เบื้องลึกเบื้องหลังที่เขารู้มานั้นแทบจะหาดีไม่ได้ คนแบบนี้เหรอที่เภตราจะแต่งงานด้วย

“แต่ว่าผมยังรวบรวมเงินไม่ได้จริงๆ”

“ในสัญญาก็ไม่ได้บอกนี่ครับว่าผมจะรับเฉพาะเงินสด รถ บ้าน ที่ดิน ทองคำหรือทุกอย่างที่คุณนำมาค้ำประกันกับผมตอนนั้น ผมคงต้องเริ่มทยอยยึดเพื่อนำมาใช้หนี้”

“ผู้หญิงด้วยไหมครับ ถ้าได้ผมมีข้อเสนอ” จู่ๆ ณดลก็โพล่งขึ้นเพราะคิดหาทางรอดให้ตัวเองออกแล้วนั่นเอง ผู้ชายที่ไหนจะปฏิเสธข้อเสนอดีๆ แบบนี้

“ข้อเสนออะไร”

“คุณภูเมฆสนใจหรืออยากได้ผู้หญิงแบบไหนแค่เอ่ยปากบอก ผมคนนี้จะจัดการหามาให้ไม่ว่าจะเป็นดารา นางแบบ นางงามหรือนักร้อง ขอแค่คุณภูเมฆชี้นิ้วผมจะพาเธอคนนั้นมาให้ทันที”

“ง่ายขนาดนั้นเชียว”

“สำหรับคุณภูเมฆต่อให้ยากผมก็จะทำให้มันเป็นเรื่องง่ายเองครับ” ณดลเอ่ยเอาใจเจ้าหนี้รายใหญ่นั่นเพราะอยากซื้อเวลาให้ตัวเองโดยไม่สนใจเรื่องผิดหรือถูก

“โอเค ถ้าอย่างนั้นคุณก็ช่วยพาผู้หญิงคนหนึ่งมาให้ผมหน่อย” คำพูดของภูเมฆทำให้ณดลยิ้มพอใจออกมาที่อีกฝ่ายคล้อยตาม รู้แบบนี้เอาเรื่องผู้หญิงมาต่อรองตั้งแต่แรกก็คงดี

“เธอชื่อเภตรา วงศ์พีรกานต์” ชื่อได้ยินจากปากของภูเมฆดังก้องอยู่ในหัวของณดล นั่นเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินชื่อนี้

“เภตรา วงศ์พีรกานต์ ขิมคู่หมั้นผมนะเหรอครับ”

“ใช่ ผมต้องการผู้หญิงที่ชื่อเภตรา วงศ์พีรกานต์”

“ทำไมต้องเป็นเธอ”

“ผมไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลว่าไหมครับ ถ้าคุณกล้าส่งคู่หมั้นมาจริงๆ ผมจะยืดเวลาชำระหนี้งวดแรกออกไปให้อีกหนึ่งปี”

“น้อยไปครับ” คำพูดของณดลทำให้ภูเมฆคิ้วขมวด เพราะแทนที่จะปฏิเสธแต่ณดลกลับต่อรองเขากลับมาอย่างนั้นเหรอ

“อยากได้เงื่อนไขอะไรเพิ่มก็ว่ามา”

“ผมขอลดเงินต้นจากร้อยห้าสิบล้านเหลือร้อยล้านถ้วนรวมถึงขอคืนหลักค้ำประกันทุกอย่าง” สำหรับภูเมฆประโยคเดียวที่อยู่ในหัวเขาตอนนี้คือ ได้คืบจะเอาศอก

“พึ่งรู้ว่าคู่หมั้นของคุณมีค่าสู้เงินห้าสิบล้านและทรัพย์ที่คุณเอามาค้ำประกันไม่ได้” ภูเมฆประชดเล็กๆ แต่ดูเหมือนเวลานี้ณดลจะไม่สนใจอะไรด้วยซ้ำ

“เธอก็แค่คู่หมั้นไม่ใช่เจ้าชีวิตผม”

“ผมลดหนี้ให้แต่หลักทรัพย์ที่คุณเอามาค้ำประกันพวกนั้นผมคงคืนให้ไม่ได้ ถ้าคุณไม่รับเงื่อนไขนี้ก็ถือเสียว่าเราไม่เคยคุยกัน”

“ไม่ครับไม่ ผมรับ” ณดลตอบรับทันทีเพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องปฏิเสธข้อเสนอที่ภูเมฆยื่นให้ถึงแม้จะไม่เป็นไปอย่างที่หวังทุกอย่างก็ตามที

ภูเมฆหยิบกระดาษเอสี่ขึ้นมาร่างสัญญาเพิ่มเติมแบบง่ายๆ แต่ก็ชัดเจนในทุกประโยคพร้อมกับเซ็นชื่อลงไปจากนั้นก็ส่งมันให้ณดล ชายหนุ่มอ่านคร่าวๆ แล้วจรดปลายปากกาเซ็นทันทีเช่นกัน

ข้อตกลงที่มีเภตรา วงศ์พีรกานต์เป็นของแลกเปลี่ยนได้เกิดขึ้นทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่ได้ยินยอมแม้แต่น้อย ภูเมฆค่อนข้างกังวลแต่ณดลกลับรู้สึกโล่งอกที่สามารถปลดหนี้ได้ถึงห้าสิบล้าน ก่อนจะคิดหาทางพาคู่หมั้นสาวไปให้ภูเมฆ จากนั้นเขาก็จะหายตัวไปสักระยะ

เพราะมีเรื่องให้คิดไม่ตก ทำให้ตั้งแต่กลับเข้าบ้านมาเภตราจึงหมกตัวอยู่แต่ในห้อง กระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เชิญค่ะ” ทันทีที่ได้ยินเสียงอนุญาตจากเจ้าของห้องประตูก็ค่อยๆ ถูกแง้มออกและคนที่ก้าวเข้ามาคือพิงค์พลอยเพื่อสนิทของเภตรานั่นเอง

“กลับมาจากปารีสตั้งแต่เมื่อไหร่” เภตราเอ่ยถามก่อนจะหยัดตัวขึ้นจากท่านอนมานั่งแทน ส่วนพิงค์พลอยก็เดินมาหย่อนตัวลงนั่งบนเตียงนอนเพื่อนสนิท เพราะรู้จักกันมาหลายปีทั้งคู่จึงไปมาหาสู่และเข้าออกบ้านของอีกฝ่ายได้เสมอ

“เมื่อเช้า พอนอนอิ่มก็มาหาเธอนี่แหละ ตั้งใจเอาของฝากมาให้” พิงค์พลอยยื่นถุงของฝากที่เธอตั้งใจหอบหิ้วให้เภตราซึ่งเธอก็รับมันไปเช่นกัน

“ขอบใจนะ”

“เป็นอะไร หน้าตาดูมีเรื่องให้คิดไม่ตก คิ้วสวยๆ ผูกโบกันหมดแล้ว”

“ฉันบังเอิญเจอคุณบีม”

“เจอเมื่อไหร่แล้วเจอที่ไหน” พิงค์พลอยถามเป็นชุด เพราะเรื่องราวความรักของเภตราและภูเมฆนั้นเธอเองก็รับรู้มาตั้งแต่ต้น รู้ด้วยว่าทั้งคู่เลิกรากันอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“เจอวันนี้ที่โครงการบ้านจัดสรร พอดีคุณณดลพาเราไปดูบ้านที่จะใช้เป็นเรือนหอ” แม้จะพูดถึงเรือนหอทว่าเภตรากลับไม่ได้แสดงออกว่าดีใจแม้แต่น้อย เพราะในหัวมีแต่เรื่องของภูเมฆ

“บังเอิญไปหรือเปล่า เจอวันไหนไม่เจอดันมาเจอกันวันนี้แถมยังเจอในที่ที่ไม่ควรเจออีก ว่าแต่คุณบีมไปทำอะไรที่นั่น”

“เขาไปทำงาน”

“ไปทำงานที่นั่นนะเหรอ อย่าบอกนะว่า…”

“อือ…เขาเป็นเจ้าของโครงการบ้านที่ฉันแวะไปดูวันนี้” นั่นเพราะเภตราแอบถามกับเซลล์โครงการมาแล้วจึงมั่นใจว่าข้อมูลของภูเมฆที่เธอได้มานั้นคือความจริง

“โอ๊ย! ตายๆ” คนฟังถึงกับตีอกชกตัวเอง “แล้วตอนเจอหน้ากันสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง”

“ก็ทักทายกันปกติ แต่ฉันพลั้งปากถามไปว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงหายไป” เภตราไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าเพราะอะไรถึงถามออกไปแบบนั้น อาจเพราะนั่นคือคำถามที่อยู่ในใจเธอมาตลอดหลายปี พอเจอกันจึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกไป

“แล้วคุณบีมตอบว่าไง”

“เขาบอกว่าเพราะฉันบอกเลิกเขา”

“เธอเนี่ยเหรอบอกเลิกคุณบีม บอกตอนไหน” พิงค์พลอยกะพริบตาปริบๆ เพราะถ้ามีเหตุการณ์ที่ภูเมฆพูดจริงๆ เภตราก็ต้องบอกเธอแล้วสิ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel