อุบัติรักใต้เงาอสูร / ตอนที่ 6
พจีจำเรียงไปถึงท่าเรือก่อนเวลาเรือออกครึ่งชั่วโมง
หลังจากติดต่อซื้อตั๋ว ก็จัดการฝากกระเป๋า เพื่อที่จะไม่ต้องหิ้วพะรุงพะรังขณะเดินดูร้านลวงรอบๆ บริเวณท่าเรือฆ่าเวลา
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ คนจึงค่อนข้างมาก ลักษณะเป็นนักท่องเที่ยว มีทั้งคนเอเชีย ผมดำตาดำ (หรืออาจน้ำตาล) และฝรั่งตะวันตก ผมและนัยน์ตาหลายเฉดสีตามเชื้อชาติ
หญิงสาวเดินเข้าไปที่ร้านขายโปสการ์ด และของที่ระลึกร้านหนึ่ง เลือกรูปที่ถูกใจมาได้สองใบก็ถอยห่างออกมา เพราะรู้สึกว่ามีคนมายืนรออยู่เบื้องหลัง คงจะอยากเลือกซื้อบ้าง
แต่คงกะระยะพลาดไปนิดหนึ่ง คิดว่าคนมารอคิวจะเลือกซื้อโปสการ์ดจะอยู่ห่างออกไปพอสมควร ซึ่งไม่ใช่ แค่ถอยหลังมาก้าวเดียว แผ่นหลังของหล่อนก็ชนเข้ากับอกแข็งๆ ชนิดไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าเป็นอกผู้ชาย
หล่อนไม่กล้าหันขวับ กลัวว่าศีรษะของตนอาจจะชนเข้ากับปลายคางเจ้าของแผ่นอก จึงรออยู่นิดหนึ่ง ให้โอกาสเขาถอยห่างไปก่อน ถึงได้กลับตัว เพื่อกล่าวขอโทษ
คำพูดเตรียมขอโทษของหล่อนหายลงคอ กลายเป็นว่ายืนปากเผยอค้าง พร้อมดวงตาเบิกกว้างขึ้น
“คุณ...”
หล่อนหลุดเสียงออกมาอีกคำหนึ่งแล้วหุบปากดังฉับ
อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้?
หล่อนรู้ว่าโลกกลม แต่ไม่คิดว่าจะกลมบ๋อง
“สวัสดีครับ”
เสียงมีกังวานทุ้มลึกพูดขึ้นในลักษณะทักทาย
“ผมคิดว่า... เราเคยเจอกันมาแล้ว”
“เอ่อ...”
หล่อนอยากคิดว่า เหตุเมื่อสักครู่ เกิดจากความตั้งใจ เพื่อที่เขาจะได้ทำความรู้จักกับหล่อน ตามประสาผู้ชายเจ้าชู้ แต่ลักษณะท่าทีเขา เมื่อเห็นใกล้ๆในระยะแค่เอื้อมถึง ไม่ส่อแววเจ้าชู้ประตูดิน เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้ ต้องรี่เข้าใส่ แม้สักนิด
ดวงตาคมล้อมกรอบขนตาดกหนาเป็นแพ มองออกมาจากกรอบหน้าคมสัน นอกจากไม่ดูหลุกหลิก ยังคมกล้าแน่วแน่มั่นคงเสียจน... ทำเอาหล่อนเกิดอาการสะทกสะท้านขึ้นมาในบัดใจ
พจีจำเรียงไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ นอกจากที่เห็นผ่านๆ แค่สองครั้ง แต่ละครั้งก็อยู่ห่างออกไปหลายเมตร จึงรู้สึกแปลก ที่จู่ๆ ก็นึกเปรียบเขากับปราการที่มั่นคง
หรือจะเป็นเพราะรูปร่างของเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
ความสูงที่ได้สัดได้ส่วนกับความกว้างของเรือนร่าง ทำให้เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างดีอย่างนักกีฬา
เขาดูล่ำสันกว่าที่มองไกลๆ ที่ดูจะเพรียวกว่านี้
เขาไม่เพียงแต่รูปร่างดี แต่หน้าตายังดีมากด้วย
เขามีใบหน้าเรียว แก้มตอบเล็กน้อย ปลายคางแข็งแรง บอกลักษณะเป็นคนใจคอหนักแน่น มั่นคง และเป็นลูกผู้ชายตัวจริงคนหนึ่ง จมูกโด่งขึ้นสัน ปากเต็มแต่ไม่หนา ไม่กว้างจนดูน่าเกลียด แต่ก็ไม่แคบจนส่อนิสัยความเป็นคนใจแคบ
ฟันเขาขาวเรียงเรียบ เมื่อเปิดยิ้ม และยิ้มของเขาก็... ออกจะทำให้พจีจำเรียงใจคอสั่นชอบกล
“ผมพอจะผ่านพิจารณามั้ยครับ... สำหรับให้คุณรับไว้เป็นเพื่อนอีกสักคน”
เขารีบพูดต่อ คงจะเห็นแววตาของหล่อนเริ่มจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวหน่อยๆ นั้นเอง
“ฉันต้องการพักผ่อนตามลำพังเงียบๆ ค่ะ ไม่ได้คิดจะมาหาเพื่อนเพิ่มจากที่มีอยู่”
หล่อนตอบเสียงห้วนเล็กน้อย กลบเกลื่อนอาการพิลึกๆ ในใจตน
“คบผมไว้ไม่เสียหลายนะครับ ถึงผมจะคาบตะกร้าวิ่งตามคุณไม่ได้อย่างเจ้าหมาน่ารักในหนังตัวนั้น ที่ผมจำไม่ได้ทั้งชื่อหมาและชื่อหนัง”
เสียงประจบ ขณะตีหน้าโศกของเขานั้นเอง ทำให้พจีจำเรียงอดหัวเราะออกมาได้
“คุณพูดอะไรก็ไม่รู้”
เขายิ้มกว้าง
“นั่นสิครับ อย่างผมนี่ ถ้าเป็นหมาก็คงเป็นพันธุ์ตัวโต เจ้าของคงให้เฝ้าบ้าน มากกว่าจะให้คาบตะกร้าตามนายไปตลาด ... ทรงพิชิต ธันยธร ครับ”
หล่อนมองตาค้าง เมื่อชายหนุ่มยื่นมือขวามาข้างหน้า
“แหม... กลับตัวไม่ทันเลย” หล่อนต่อว่า แต่ก็ยอมสัมผัสมือกับเขา และบอกชื่อตัวเองกลับไป
“พจีจำเรียง สุทธิภาคย์ค่ะ”
“พจีจำเรียง...”
เขาทวนชื่อหล่อน ขณะเขย่ามือกับหล่อนในลักษณะทักทายสามทีไม่ขาดไม่เกิน แต่เมื่อจะปล่อยมือนั้น หล่อนอดรู้สึกไม่ได้ว่า เขาปล่อยช้าไปนิด แม้จะดูไม่มีเจตนาฉวยโอกาส แต่ก็อ้อยอิ่ง เหมือนเสียดาย
“เรียกพจี หรือจี ก็ได้ค่ะ”
รีบบอก ก่อนเขาจะทันรู้สึกว่าชื่อหล่อนนั้นฟังเชย ไม่โก้เก๋กะทัดรัดเหมือนชื่อสาวๆ สมัยนี้ ซึ่งบางคนเดาะชื่อฝรั่ง ทั้งที่หน้าตาไม่ให้ ก็มี
“เพราะทั้งพจีจำเรียง และพจีเฉยๆ เลยละครับ ฟังอ่อนหวานสมเป็นผู้หญิง และสมตัวคุณ”
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิง... หวานหรอกนะคะ ต้องขอบอกก่อนคุณจะเข้าใจผิด”
“ครับ”
เขาอมยิ้ม ทำให้หน้าคมสันชวนมองยิ่งขึ้น
“ผมทราบ คือ... พอจะดูออกครับว่า อย่างคุณนี่ คงไม่เอาแต่นั่งยิ้มหวาน ทำหวานกับคนนั้นคนนี้ ไปวันๆ เป็นประเภทพูดแล้วทำมากกว่า และลงว่าตั้งใจจะทำอะไรต้องทำจนได้ แต่ก็ยังไม่เข้าขั้นผู้หญิงแกร่ง ห่างไกลคำว่ากร้าน คุณมีทั้งความตั้งใจจริงที่ทำออกมาได้ และความฝันที่หล่อเลี้ยงหัวใจให้มีความหวังที่จะก้าวต่อไป คุณไม่ใช่ทั้งคนมองโลกในแง่เป็นจริงเป็นจังไปเสียหมด แต่ก็ไม่ได้มองทุกอย่างผ่านแว่นสีชมพู คุณเป็นคนสวย น่ารัก มีเสน่ห์ แต่ไม่เคยหว่านเสน่ห์...”
“โอย... พอ ! พอแล้ว”
หล่อนรีบร้องห้ามเขาพร้อมกับเสียงหัวเราะ
“ฉันไม่รู้ว่าคุณมีอาชีพอะไร แต่หวังว่าจะไม่ใช่หมอดู ทำนายทายทักโชคชาตาราศีจากลักษณะท่าทาง เท่าที่มองเห็นภายนอกของแต่ละคนหรอกนะคะ?”
“ไม่ใช่หรอกครับ” เขาพลอยหัวเราะ
“และหวังว่าจะไม่ใช่จิตแพทย์” หล่อนพยายามจะให้เขาบอกอาชีพของเขา
“ผมเป็นครูครับ”
“คะ?”
พจีจำเรียงมองหน้าเขาอย่างไม่เชื่อ ก่อนจะกวาดมองตลอดร่างสูง หุ่นนายแบบของเขาในเครื่องแต่งกาย... สมตัว ดูทันสมัย แต่ไม่ถึงกับนำแฟชั่น
