อุบัติรักใต้เงาอสูร / ตอนที่ 5
“อันที่จริง ฉันก็บอกเจ้าหน้าที่ของคุณไปทีหนึ่งแล้ว แต่คงต้องบอกคุณซ้ำ...ฉันไม่คิดจะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ เผื่อทางโรงแรมจะคิดว่าฉันสร้างสถานการณ์ หรือก่อเรื่องขึ้นเอง เพื่อให้ทางโรงแรมรับผิดชอบ และขอบอกอีกครั้ง กระเป๋าของฉันใบนี้ ราคาไม่ถูกนัก ถ้าคุณจะพอดูเป็นก็คงรู้ว่าเป็นของแบรนด์เนม ของแท้ ไม่ใช่ของทำเทียมที่ซื้อมาจากแถวโบ๊เบ๊ ที่สำคัญ ฉันชอบมาก ใช้เป็นประจำ ฉะนั้น ฉันคงไม่ทำลาย แล้วฉันก็ไม่เคยมีประวัติเป็นคนสองบุคลิกอย่างมิสเตอร์ไฮด์ ที่มีทั้งภาคคนดี คนร้าย ในตัวคนเดียว และนี่... นามบัตรของฉัน คุณเช็คได้เลย แล้วจะรู้ว่า ฉันไม่ทำอะไรบ้าๆ แบบนี้”
“ผมยังไม่...”
“ธุรกิจที่ฉันทำอยู่ ก็เป็นธุรกิจคนละประเภท เรื่องว่าฉันจะสร้างเรื่อง เพื่อก่อความเสียหายให้ทางโรงแรมคุณ เพื่อทำลายคู่แข่งจึงเป็นไปไม่ได้เลย”
“ผมก็ไม่คิดว่าคุณจะ...”
“คุณไม่คิด แต่คุณพูดให้ฉันคิด”
พจีจำเรียงขัดขึ้น ไม่รอฟังว่าผู้จัดการโรงแรมจะแก้ตัวยังไง
“คุณบอกว่า ทางโรงแรมของคุณไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ ไม่เคยมีเรื่องลูกค้าโวยว่าของหาย หรือถูกขโมยของ และยังยืนยันอีกว่าระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่ไม่เคยมีปัญหา ก็เอาละ... ฉันเชื่อคุณ แต่ทีนี้ ฉันอยากให้คุณช่วยตรวจสอบให้หน่อย... โรงแรมระดับนี้ จะต้องติดกล้องวงจรปิดไว้ตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะตามทางเดิน คุณช่วยไปที่ห้องบันทึกภาพ ช่วยดูการบันทึกภาพช่วงระยะเวลา นับแต่ที่ฉันเดินเข้าโรงแรม เอากระเป๋าขึ้นมาไว้บนห้อง กลับลงไป ออกไปข้างนอก กระทั่งกลับเข้มาอีกรอบ หยุดแวะรับกุญแจที่ฝากไว้ที่เคาน์เตอร์แล้วขึ้นมาบนนี้ เดี๋ยว...ฉันขอไปด้วยดีกว่า จะได้ดูพร้อมกันให้สิ้นสงสัยไปเลย”
ผู้จัดการโรงแรมทำหน้าอย่างหนึ่ง แต่ก็ไม่มีทางอื่น ต้องพาหญิงสาวไปห้องติดตั้งบันทึกเทปกล้องวงจรปิด ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบการรักษาความปลอดภัยของโรงแรมใหญ่ระดับนี้ ที่จะต้องมี
เครื่องโทรทัศน์วงจรปิด เปิดหน้าจอเอาไว้แค่เครื่องเดียวเท่านั้น จากที่มีอยู่ทั้งหมดสี่เครื่องด้วยกัน และภาพที่ปรากฏก็เป็นภาพในลิฟต์ตัวหนึ่ง จากจำนวนลิฟต์ที่มีอยู่สองตัว คือลิฟต์โดยสาร และลิฟต์ขนของ
หลังจากได้รับคำสั่งให้ช่วยเปิดเทปบันทึก จากกล้องที่ติดตั้งเอาไว้ยังมุมบนตัวหนึ่ง ที่จะสามารถจับภาพบริเวณหน้าห้องพักที่พจีจำเรียงเข้าพักได้ ทั้งผู้จัดการ และเจ้าหน้าที่ควบคุมห้องบันทึกเทป ก็ต้องหน้าเสีย หรืออาจจะพูดได้ตรงกว่านั้นคือ เสียหน้า โดยเฉพาะผู้จัดการที่ยืนยันหนักแน่นในระบบรักษาความปลอดภัยของทางโรงแรมของตน ทั้งนี้เนื่องจาก กล้องตัวที่ติดไว้ โดยจะสามารถจับภาพบริเวณหน้าห้องพักที่เกิดปัญหาได้นั้น เสีย จึงไม่ปรากฏภาพใดๆ
ผลออกมาเช่นนี้ ทางโรงแรมก็ขอโทษขอโพยตามระเบียบ และให้พจีจำเรียงย้ายห้องพัก ไปอยู่ห้องใหม่ ที่อยู่ในโซลกล้องวงจรปิดทำงานเป็นปกติ และยังขอรับผิดชอบ โดยยินดีชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
พจีจำเรียงหลับไปในคืนนั้น ด้วยความคิดที่ออกจะสับสน และหมกมุ่น ทำให้หล่อนฝันวุ่นวาย เมื่อตื่นขึ้นมา หน้าตาจึงออกเซียว
หล่อนโทรสั่งอาหารขึ้นมารับประทานบนห้อง เพื่อที่จะลงไปข้างล่างทีเดียว คือตอนเช็คเอาท์
ประมาณแปดนาฬิกา หล่อนก็หิ้วกระเป๋าออกจากโรงแรม เพื่อไปยังท่าเรือที่อยู่ห่างออกไปประมาณสิบสองกิโลเมตร โดยใช้บริการรถของทางโรงแรม เพื่อความสะดวก และไม่ต้องรอนาน
ลีมูซีนติดป้ายโรงแรม แล่นเข้ามาเทียบบันใดหน้าโรงแรม พร้อมกับที่หล่อนก้าวออกประตู ที่มีพนักงานคอยเปิดให้
ก่อนขึ้นรถ สีอะไรแดงๆ สะดุดตาจากทางเท้าฝั่งตรงข้าม หล่อนหยุดมอง พบว่าเป็นสีเครื่องแต่งกายของหญิงสาวร่างระหง ผิวขาวราวกับสีนมสดตัดกับสีผมดำสนิทดูเป็นระยับ หล่อนคงเพิ่งออกมาจากโรงแรมฝั่งตรงข้ามนั้นเอง
พจีจำเรียงเบิกตาขึ้นเล็กน้อย เมื่อพบว่า ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หญิงสาวในชุดแดง กำลังจะขึ้นรถแท็กซี่ป้ายดำ ลักษณะแค่ออกมาส่ง ไม่ได้จะไปด้วยกัน ก็คือหนุ่มคนเดียวกับที่เห็นเดินอยู่บนถนนเมื่อวานนี้ แต่ตอนนั้น มีหญิงสาวผมแดงเดินเกาะแขน
ช่างเสน่ห์แรงจริงนะพ่อคุณ!
นึกหมั่นไส้ ทั้งที่ก็ไม่ได้รู้จักมักจี่เขาสักนิด
เปลี่ยนวันทีเปลี่ยนผู้หญิงคน ยิ่งกว่าพระเอกจอมเพลย์บอย ที่หล่อนเคยอ่านในเรื่องรักหวานแหววเสียอีก นายพระเอกในเรื่องอ่านเล่นนั่น แค่เปลี่ยนคู่ควงทุกฤดูกาล นับตามฤดูกาลของไทย ก็แค่ปีละสามคนเท่านั้นเอง ทว่าคนที่ยังยืนอยู่ริมทางเท้าฝั่งตรงข้าม แม้แท็กซี่ป้ายดำจะพาหญิงสาวที่เขาออกมาส่งขึ้นรถ เคลื่อนออกไปไกลแล้ว คนนี้ เล่นเปลี่ยนผู้หญิงวันละคน
แต่ยังไง พจีจำเรียงก็รู้รสนิยมของเขาอย่างหนึ่งละ คือ ชอบสีแดง
ผู้หญิงคนที่หล่อนเห็นเขาควงเมื่อวาน ผมแดง มาเช้านี้ ผู้หญิงที่เขาออกมาส่งขึ้นรถใส่ชุดแดง
พจีจำเรียงกำลังจะดึงสายตากลับ เมื่อชายหนุ่มที่ตกเป็นเป้าสายตาของหล่อน เงยหน้าขึ้นนิดหนึ่ง มองตรงมา เหมือนจะรู้ตัวว่ามีคนจับจ้อง
ไม่น่าเชื่อ และไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว สายตาคู่นั้น ของชายหนุ่มร่างสูงตรง แปลกหน้า ก่อความรู้สึกหนาวสลับร้อนวูบวาบขึ้นกับหล่อน ทั้งๆ ที่เขาก็มองมาจากระยะไกลพอสมควร พูดได้ว่าคนละฟากถนนนั่นแหละ
หล่อนลุกลนก้าวขึ้นรถที่จอดรอ และคนขับยังลงมาเปิดประตูรออยู่ ถึงอย่างนั้น ก็เกือบจะแน่ใจว่าเห็นรอยยิ้มจุดวาบขึ้นที่ริมฝีปากชายหนุ่ม
ประตูรถปิดเบาๆ เมื่อเห็นว่าหล่อนนั่งเรียบร้อย พจีจำเรียงหันกลับไปมอง ขณะรถเคลื่อนออกช้าๆ ปรากฏว่า ชายหนุ่มที่สะดุดตาหล่อนคนนั้น หายตัวไปแล้ว คงเดินกลับเข้าโรงแรม ไม่ใช่จู่ๆ หายแวบไปในอากาศ เพราะล่องหนหายตัวได้
