3
“ค่ะ งั้นแก้วสั่งเลยนะคะ”
“เอาสิ”
“แก้วขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบก็รีบเดินจากมา เรือนร่างแข็งแกร่งของเขาทำให้เธอใจสั่น เธอได้เห็นอกกว้างและซิกซ์แพ็กเป็นลอนสวยแล้วจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
อาจเพราะเคยคิดเกินเลยกับเขามาก่อน จึงทำให้เธอหวั่นไหวเช่นนี้
แก้วใสพยายามเรียกสติของตัวเองคืนมา เตือนตัวเองว่าเขาคือผู้มีพระคุณ และเป็นเพื่อนพี่ชายเท่านั้น อย่าไปคิดอะไรมากไปกว่านั้น
คนแบบฟ้าครามมีผู้หญิงเข้าหามากมาย ผู้หญิงที่ดีสมฐานะ มีการศึกษา และชาติตระกูลที่ดีเท่านั้น ถึงจะเหมาะสมคู่ควรกับเขา เธอเป็นแค่เด็กกะโปโลที่ไม่มีอะไรเลย ไม่เหมาะกับคนเพียงพร้อมอย่างเขาเลยสักนิด
สั่งอาหารเพียงไม่นาน อาหารก็ถูกส่งมาถึงบ้าน เธอรีบจัดอาหารใส่จานเพื่อจัดโต๊ะรอคนที่กำลังจะลงมาจากบนห้อง
“น่ากินเชียว”
“อุ๊ย!” แก้วใสอุทานเมื่อฟ้าครามมายืนอยู่ทางด้านหลัง เขาใช้มือเท้าไปกับโต๊ะที่เธอยืนอยู่ ทำให้เธอตกอยู่ในอ้อมแขนของเขาแบบไม่ได้ตั้งตัว ใบหน้าของเขาชะโงกเข้ามาดูอาหารในจานที่เธอกำลังจัดอยู่ คล้ายกับว่าใบหน้าของเขาแนบชิดกับใบหน้าของเธอ
เธอรับรู้ได้ถึงกลิ่นกายหอมกรุ่น ร่างกายแสนอบอุ่น และลมหายใจร้อนเร่าที่เป่ารดอยู่ข้างแก้มเนียน
“มีกุ้งอบวุ้นเส้นของโปรดด้วยนี่ครับ”
“ค่ะ อุ๊ย!” เธอหันไปตอบแต่เหมือนหันแก้มไปชนกับปากของเขา กลายเป็นให้เขาจุ๊บแก้มเนียนแบบไม่ได้ตั้งใจ
“สะ... เสร็จแล้วค่ะ เฮียหิวหรือยังคะ” แก้วใสเอ่ยเสียงสั่น เบี่ยงหน้าหนีเล็กน้อย แต่ยังตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ท่าทีของเธออยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา เขายังไม่ยอมปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน แต่กลับตอบเสียงนุ่มทุ้มตรงหูแทน
“หิวแล้วครับ” ประโยคของเขาทำให้เธอท้องไส้ปั่นป่วนโดยไม่ทราบสาเหตุ
“จัดโต๊ะอาหารเสร็จพอดีเลยค่ะ” เธอรีบบอกอย่างกระตือรือร้นพร้อมทั้งผ่อนลมหายใจออกมา เมื่อเขาถอยห่างออกไป ทำให้เธอหลุดออกจากอ้อมแขนของเขา
แก้วใสเหลือบมองร่างสูงที่ทรุดตัวนั่งลงใกล้ ๆ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ดูดีไปเสียหมด อาจเพราะเธอมีใจให้เขานั่นเอง
“อยู่บ้านคนเดียวเหงาไหม” เขาเอ่ยถามอย่างใส่ใจ
“ไม่ค่ะ” เธอส่ายหน้าไปมา แม้ในทุกวันจะคิดถึงเขา แต่จะบอกว่าเหงาไม่ได้ เธอไม่อยากให้เขาเป็นห่วงหรือเป็นภาระทางใจให้เขาต้องกังวลเวลาต้องไปทำงานที่อื่น
“อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก แก้วย้ายมาอยู่กับเฮียแล้ว ถ้าอยากไปเที่ยวที่ไหนก็บอกได้นะ”
“เฮียว่างเหรอคะ” เธอเอ่ยถามอย่างเกรงใจ เพราะว่าเขาดูงานยุ่งตลอดเวลา จะรบเร้าให้เขาพาไปเที่ยวก็กระไรอยู่ ถ้าพี่ชายอยู่ก็ว่าไป ปิดเทอมเช่นนี้พี่ชายจะพาเธอไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่เพื่อเปิดหูเปิดตา
“ถ้าอยากไปก็หาเวลาได้นะ” ธุรกิจของเขาอยู่ตัวแล้ว แต่ก็ยังต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
เขามีแค่บิดา ส่วนมารดานั้นตายจากไปตั้งแต่เขายังเล็ก ชีวิตของเขาจึงขาดแม่แต่เด็ก แต่บิดาก็ไม่ยอมแต่งงานใหม่ เพราะไม่อยากให้เขามีปัญหาแม่เลี้ยงลูกเลี้ยง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือท่านรักมารดาของเขามาก จนไม่สามารถให้ผู้หญิงคนอื่นมาแทนที่ได้
“ขอบคุณเฮียมากนะคะ” เธอยิ้มให้เขา แต่เมื่อเขายิ้มตอบกลับมา ก็ทำให้เธอใจสั่นสะท้าน
“เอ่อ... อาหารร้านนี้อร่อยนะคะ” เธอรีบพูดเรื่องอื่น เพราะรู้สึกขัดเขิน
“อร่อย แต่แก้วทำอร่อยกว่า” เธอถือว่าเป็นคำชม ทำเอาหัวใจเบิกบานอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าเขาจะชอบอะไรที่เธอทำ แม้เพียงน้อยนิด เธอก็หัวใจฟูฟ่องทุกครั้งที่เขาเอ่ยชม
การทำให้เขาพึงพอใจคือความฝันสูงสุดในชีวิต ณ เวลานี้
“เฮียทำอะไรอยู่คะ” หลังมื้ออาหารเธอก็เห็นว่าเขานั่งดูกราฟอะไรสักอย่างอยู่
“ดูหุ้นน่ะ”
“เฮียเล่นหุ้นด้วยเหรอคะ”
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ”
“เคยได้ยินว่าคนเล่นหุ้นเจ๊ง พอหมดตัวแล้วก็คิดสั้นน่ะค่ะ”
“อันนั้นเรียกเทรดหุ้นครับ เฮียไม่ได้เทรด แค่เก็บหุ้นตัวดี ๆ ในตลาดเอาไว้ เพื่อรับผลตอบแทนในระยะยาวครับ”
“มันต่างกันยังไงเหรอคะ”
“ต่างกันครับ การเทรดคือต้องนั่งดูราคา ซื้อตอนถูกขายตอนแพง ซึ่งต้องมีความรู้พอสมควร จะซื้อมั่ว ๆ ขาย มั่ว ๆ ไม่ได้ แต่ถ้าออมหุ้นหรือซื้อหุ้นตัวดี ๆ เอาไว้ในราคาถูก และเก็บไว้นาน ๆ ไม่ต้องนั่งดูกราฟหรือซื้อ ๆ ขาย ๆ ทั้งวันครับ เดือนนึงเข้ามาดูบ้างไม่ใช่ทิ้งไปเลย แต่ไม่ต้องซื้อขายบ่อย ๆ ให้ต้องปวดหัว”
“ดีจังเลยค่ะ แบบนั้นก็ได้กำไรสิคะ”
“ใช่ครับ แต่ต้องใช้เวลาในการถือหุ้นตัวนั้นนะครับ”
“แก้วเล่นไม่เป็นเลยค่ะ”
“ไม่ยากครับ นึกถึงทรัพย์สินดี ๆ แล้วเราก็ซื้อหุ้นตัวนั้นเอาไว้ครับ เข้าไปดูว่าเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ซื้อตอนราคาถูกครับ เราจะได้ของดีราคาถูก แก้วนึกภาพออกไหม” เขาตบที่นั่งใกล้ ๆ ให้เธอมานั่งด้วยกัน เธอก็เดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ กับเขา กลิ่นกายและเรือนร่างอบอุ่นทำเอาเธอหัวใจเต้นระทึก พยายามตั้งสติฟังในสิ่งที่เขาอธิบาย มากกว่าคิดฟุ้งซ่านไปเรื่องอื่น
“เหมือนตอนที่เราลงหุ้นที่สหกรณ์โรงเรียนแล้วได้ปันผลน่ะเหรอคะ” เธอเอ่ยถาม เพราะนึกภาพตามที่เขาอธิบาย
“ใช่ครับ หุ้นมีสองอย่าง ปันผลกับไม่ปันผลครับ”
“แล้วมันแตกต่างกันยังไงคะ”
“หุ้นปันผลเราก็จะได้กระแสเงินสดระหว่างทางครับ แต่ถ้าไม่ปันผล ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นเติบโต รอขายทำกำไรระยะยาวครับ”
“ดีจังค่ะ”
“อยากซื้อไหม” เขาเลิกคิ้วพลางเอ่ยถามอย่างเอ็นดู
“แก้วไม่มีเงินหรอกค่ะ”
“มันไม่ได้แพงอะไรครับ ถ้าตัวไหนดีแต่เราอยากได้ซื้อพวกเศษหุ้นก็ได้ ออมแบบ DCA ไปเรื่อย ๆ” เขาพยายามให้เธอหัดเริ่มลงทุนน้อยๆ ก่อน พอเก่งขึ้นค่อยพัฒนาการลงทุนไปเรื่อย ๆ ทุกอย่างต้องลองผิดลองถูก ดังนั้นประสบการณ์สำคัญมากๆ เพราะถ้าเกิดข้อผิดพลาดขึ้น เราจะได้นำมาพัฒนาตัวเองต่อไปในอนาคต เขาไม่เคยมองว่าความผิดพลาดคือความล้มเหลว แต่มองว่ามันคือโอกาสที่จะทำให้เราพัฒนาไปมากกว่าเดิม
“แสดงว่าแก้วก็ซื้อได้เหรอคะ”
“ซื้อได้ครับ ทุกคนสามารถซื้อหุ้นตัวไหนที่ชอบได้หมด เราก็จะได้เป็นเจ้าของกิจการนั้น ๆ ด้วย”
“แล้วเราจะซื้อหุ้นตัวไหนดีคะ”
“ง่ายมากครับ” ฟ้าครามเอ่ยแล้วโอบร่างน้อยให้มาดูหน้าจอ สัมผัสของเขาทำให้เธออมยิ้ม อบอุ่น อ่อนโยน ทำไมเขาถึงได้น่ารักแบบนี้นะ
“หุ้นที่เราควรซื้อคือหุ้นที่เราเห็นและใช้ในชีวิตประจำวันครับ ลองตอบเฮียมาสิ ว่าในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นนอนเราใช้อะไรบ้าง เห็นอะไรบ้าง”
“ตื่นมาก็ล้างหน้าแปรงฟัน อาบน้ำสระผมค่ะ”
“ก็ซื้อหุ้นสินค้าพวกนั้นเลยครับ”
“มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“สินค้าพวกนี้เราต้องใช้กันทุกคน คนอื่นก็ต้องใช้ และต้องใช้ไปตลอดชีวิต ดังนั้นเป็นหุ้นที่น่าซื้อเก็บครับ”
“จริงด้วยค่ะ อาบน้ำเสร็จก็อาจจะหยิบโทรศัพท์มาเล่น หรือใช้คอมพิวเตอร์ค่ะ”
