ตอนที่หนึ่ง ครอบครัวท้องฟ้า 2
เมื่อเสิร์ฟน้ำแร่กับน้ำอัดลมให้ลูกค้าแล้ว ปานรพีก็เดินมาง่วนต่อที่เตาแก๊สขนาดสี่หัวที่มีถึงสองเตา ยามปกติหล่อนกับน้องครอบครองกันคนละเตา มือเล็กคว้าหม้อมารองน้ำจากเครื่องกรองน้ำต้มเตรียมทำต้มข่าไก่ กระทะก้นลึกอีกใบใส่น้ำมันปาล์มตั้งข้างๆ กันเพื่อรอทอดไก่และปลาดุก เตรียมเตาแล้วก็หันมาที่เคาน์เตอร์ครัวหยิบอกไก่ที่หั่นเตรียมไว้แต่เช้ามืดมาคลุกแป้ง เนื้อปลาดุก เม็ดมะม่วงหิมพานต์กับพริกแห้งเม็ดใหญ่ก็เข้าคิวรอทอดเช่นเดียวกัน
หญิงสาวทำอาหารอย่างคล่องมือ เพียงเวลาไม่นานอาหารหลายจานก็เสร็จ ดาวิกาที่ทานข้าวหมดจานก็เข้ามาช่วยเสิร์ฟให้ลูกค้า กลิ่นอาหารหอมฉุยพร้อมกับหน้าตาน่าทานในจานกระเบื้องหนักๆ แบบที่โรงแรมส่วนใหญ่ใช้วางอยู่บนโต๊ะที่มีผ้าปูโต๊ะสีเขียวเข้มประดับด้วยแจกันทรงสูงสีขาวปักดอกเบญจมาศดอกใหญ่ทำให้ดูไม่เหมือนร้านข้างทางที่ราคาแสนถูกสักนิด หนึ่งในลูกค้าร้องห้ามเพื่อนที่กำลังจะลงมือทานอาหารเพื่อที่จะถ่ายรูป ปานรพีที่กำลังทำผัดเปรี้ยวหวานกับไข่เจียวเป็นเมนูสุดท้ายอมยิ้มขันๆ นึกว่าจะมีแต่คนไทยเสียอีกที่บ้าถ่ายรูปอาหารก่อนทาน ฝรั่งก็เป็นเหมือนกันแฮะ
“มันอเมซิ่งมาก สุดยอดกว่าทุกร้านที่เคยกินมา” ลูกค้าเอ่ยชมเปาะหลังจากทานอาหาร เป็นเสียงที่ได้ยินบ่อยๆ เพราะร้านของหล่อนมีจุดยืนว่าจะทำอาหารรสไทยแท้ๆ ไม่ทำหวานทำจืดเหมือนตามโรงแรมส่วนใหญ่แต่อาจจะมีลดความเผ็ดลงบ้างเมื่อเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มรสชาติอาหารไทยแท้ๆ ที่แม้จะเป็นอาหารจานด่วนเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีของพวกเขาให้ได้ประทับใจจนไปบอกต่อ
“พวกคุณสั่งหลายเมนู เดี๋ยวฉันทำของหวานแถมให้ตบท้ายนะคะ เป็นแตงไทใส่นมสดค่ะ” เสียงร้องว้าวจากลูกค้าและคำขอบคุณที่น่ารักจากลูกค้าต่างชาติหลายคนที่มักพูดติดปากยามเมื่อทำอะไรให้ ปานรพีพอใจที่ลูกค้าพอใจในรสอาหารและการบริการซึ่งนั่นหมายถึงความไว้ใจและชื่นชอบและแขกกลุ่มนี้ต้องมาใช้บริการที่ร้านหล่อนอีกหากยังไม่กลับ คนตัวเล็กเดินไปเปิดตู้แช่หยิบแตงไทลูกลายพร้อยที่ตั้งใจจะเอามาทำให้น้องชายทานแบ่งมาหั่นใส่ในนมสดและน้ำหวานเติมน้ำแข็งก้อนในชามโตให้ลูกค้าทานเพื่อขอบคุณลูกค้าและยังมีเผื่อแผ่ไปถึงโต๊ะของดาวิกาด้วย
หนุ่มๆ พอใจกับอาหารและการบริการของปานรพีและให้ทิปหล่อนมาถึงหนึ่งพันบาทนอกเหนือจากราคาอาหาร นายเจฟที่ลองภูมิหล่อนในตอนแรกเพราะไม่เชื่อใจว่าจะทำอาหารได้ดีหรือเปล่ายอมเปิดเผยตัวออกมาว่าเป็นนักชิมที่เป็นเจ้าของเว็บบล็อกชื่อดังเกี่ยวกับอาการ เจฟขอข้อมูลของร้านหล่อนพร้อมถ่ายรูปเจ้าของร้านเพื่อเอาไปเขียนบล็อกแนะนำนักท่องอินเตอร์เน็ตทั้งหลายไม่ให้พลาดการมาเยี่ยมเยือนร้านอร่อยร้านนี้
ปานรพีขอบคุณหนุ่มๆ เป็นการใหญ่ที่ชื่นชอบอาหารไทยและชอบฝีมือของหล่อนแถมช่วยโปรโมตโดยไม่ต้องจ้างอีกต่างหาก
เช้าวันนี้ร้านแสนบเปอร์มีลูกค้าเรื่อยๆ และถือว่ามากกว่าที่คาดไว้ รายได้รวมทิปก็หลายพันบาททำให้ปานรพีไม่เหนื่อยเลย การเปิดร้านยามเช้าทำให้หญิงสาวได้รู้ว่าฐานลูกค้าบางกลุ่มจากโรงแรมเล็กๆ หลายแห่งที่ไม่รวมค่าอาหารเช้าทำให้แขกส่วนใหญ่ออกมาหาทานเองและถือโอกาสเดินเล่นชมวิวไปด้วย หญิงสาวได้ไอเดียว่าจะทำแผ่นใบปลิวโปรโมตในโรงแรมเหล่านั้นว่าร้านอาหารของหล่อนเปิดยามเช้าเพื่อรองรับพวกเขา และอาจจะขอให้โรงแรมแนะนำลูกค้าที่มองหาร้านอาหารยามเช้ามาที่ร้านของหล่อน แต่คิดถึงใบปลิวสวยๆ ความคิดของหล่อนก็สะดุดลงเมื่อนึกถึงว่าต้องใช้เงินไม่น้อยในการทำ หญิงสาวจึงถอนหายใจ คิดปลงๆ ว่ามันคงต้องเริ่มที่บอกหน้าฟรอนท์ของโรงแรมด้วยปากเปล่าเพื่อช่วยแนะนำให้ลูกค้ามาที่ร้านหล่อนบ้าง
