บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5

ความจริงแล้วมัสยาต้องการจะหางานที่อื่นทำ เพื่อดูแลตัวเองไม่เป็นภาระให้คุณนวลแขต้องกังวลกับชีวิตเธออีกต่อไป ไม่คิดว่าจะออกมาเป็นแบบนี้ ซึ่งตามมารยาทเธอก็ไม่ควรปฏิเสธ

“ถ้างั้นก็ตามนี้ครับคุณแม่ ผมพร้อมเริ่มงาน” ตรัยเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

“เอาตามที่พ่อตรัยว่า ก็ดีเหมือนกัน ป้าจะไม่ได้ไม่ต้องห่วงว่าหนูมัสจะไปทำงานที่ไหน อีกอย่างไปด้วยกันกลับด้วยกันก็ดี เดี๋ยวเรื่องเสื้อผ้าชุดไปทำงานเราไปเลือกซื้อกันพรุ่งนี้เลยดีไหม หนูมัส” คุณนวลแขเห็นดีเห็นงามด้วยอีกคน

“ค่ะ คุณป้า” มัสยารับคำเสียงแผ่ว

เธออยากจะบอกคุณนวลแขเหลือเกินว่า การทำงานกับตรัยนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่งถ้าเทียบกับการไปเป็นลูกจ้างในบริษัทอื่น และมัสยาก็มั่นใจว่าการทำงานกับตรัยคงไม่ธรรมดา ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่รุ่มร่ามทำอะไรในที่สาธารณะให้เสื่อมเสีย และที่แน่ๆ มัสยาจะไม่มีวันยอมให้เขาเอาเปรียบหรือทำอะไรตามอำเภอใจอีกเป็นอันขาด

หลังจากที่คุณนวลแขตกลงให้มัสยาไปทำหน้าที่เป็นเลขาของตรัยแล้ว นางก็เป็นธุระเรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวที่จะต้องไปทำงานที่บริษัทให้ พรุ่งนี้จะเป็นวันแรกที่มัสยาจะไปทำงาน

“ลองดูชุดนี้ดีไหม หนูมัส ป้าว่าชุดนี้ก็สวยนะ ไหนลองไปเปลี่ยนมาให้ป้าดูหน่อย” คุณนวลแขหยิบเดรสสีน้ำทะเลขึ้นมาทาบบนตัวหญิงสาว

“น่าจะมีเครื่องประดับที่คอซะหน่อยนะ จะได้ดูไม่โล่งไปนัก” นางพิจารณาแล้วว่าควรจะเตรียมสิ่งใดเพิ่มให้มัสยาดี

“เดี๋ยวมัสไปลองชุดมาให้คุณป้าดูนะคะ” หญิงสาวรับชุดมาถือไว้แล้วหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนออกมาให้คุณนวลแขดู

มัสยาผิวขาวรูปร่างอ้อนแอ้นหน้าท้องแบนราบไร้ส่วนเกิน ทำให้ไม่ว่าจะใส่ชุดอะไรก็ดูดีไปหมด คุณนวลแขมองแล้วก็ชอบทุกชุดที่เจ้าตัวลองให้ชม

“ป้าว่าหนูมัสใส่ชุดไหนก็สวย หุ่นดีแบบนี้ใส่อะไรก็เหมาะ” นางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ไม่หรอกค่ะ มัสว่า ยังอ้วนไปด้วยซ้ำ” หญิงสาวออกตัวด้วยความเขิน

“อ้วนเอิ้นอะไรที่ไหนกัน แบบนี้แหละกำลังดีแล้ว”

คุณนวลแขลุกขึ้นยืนมองอีกครั้ง ก่อนจะให้มัสยาไปเปลี่ยนชุดแล้วรีบเข้านอนเพื่อเตรียมไปทำงานในวันแรกแต่เช้า นางตั้งใจจะกลับไปที่ห้องแล้วแวะเอาเครื่องประดับที่เข้าชุดกับชุดทำงานที่มัสยาจะสวมใส่

“หนูมัสไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้านอนเถอะ เดี๋ยวป้าไปเอากล่องเครื่องประดับมาให้”

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้า มัสว่าไม่ต้องก็ได้” มัสยาไม่อยากรบกวนมากไปกว่านี้

“ได้ยังไงจ๊ะ หลานสาวคุณนวลแขไปทำงานทั้งทีมันก็ต้องให้สม ศักดิ์ศรีหน่อย รอแป๊ป เดี๋ยวป้าไปเอามาให้” นางรีบกลับไปห้องเพื่อเตรียมจัดเครื่องประดับมาให้ทันที

มัสยาได้แต่ถอนหายใจไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไรดี ยิ่งคุณนวลแขเมตตาตนมากเท่าไรก็ยิ่งเจียมตัวมากเท่านั้น และตั้งใจว่าจะไม่ทำให้ผู้มีพระคุณผิดหวังไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม

เสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้น มัสยาที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จยังไม่ทันเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ยินเสียงที่หน้าห้อง จึงรีบวิ่งไปเปิดประตูเพราะเกรงว่าคุณนวลแขจะรอนาน

“มาแล้วค่ะ คุณป้า” มัสยาเปิดประตูห้องออก แต่แล้วก็พบว่าไม่ใช่คุณนวลแขที่ยืนอยู่หน้าห้อง แต่เป็น...

“คุณตรัย” หญิงสาวพยายามจะดันประตูปิด แต่ตรัยแทรกตัวเข้ามาในห้องเสียก่อน

“เดี๋ยวคุณป้าจะมาที่นี่ คุณตรัยกลับไปก่อนดีกว่า” หญิงสาวอ้างคุณนวลแขเพื่อไล่ให้เขากลับไป

“คุณแม่ไม่มาแล้ว ท่านฝากมาให้” ชายหนุ่มยื่นกล่องกำมะหยี่สีแดงให้สองสามกล่อง

มัสยารับมาถือไว้แล้วเปิดออกดู ข้างในเป็นเครื่องเพชรชุดตุ้มหูกับสร้อยคอพร้อมจี้เล็กๆ เข้าชุดกัน หญิงสาวรีบปิดแล้วยื่นกล่องส่งคืนให้ชายหนุ่มทันที

“ฝากคืนคุณป้าด้วยค่ะ มัสว่าไม่ใส่ดีกว่า” เครื่องประดับในกล่องมีราคาไม่ใช่น้อยๆ และมันคงไม่จำเป็นสำหรับการใส่ไปทำงานของเธอ

“ทำไมไม่รับ ไม่ชอบหรือไง มันน่าจะทำให้เธอดูดีนะ” ตรัยแกล้งถามเมื่อรับกล่องเครื่องประดับคืนมาจากมือสาวน้อย

“แค่ไปทำงานไม่ต้องแต่งอะไรมากหรอกค่ะ อีกอย่างเครื่องประดับพวกนี้ราคาแพงเกินกว่าที่จะรับไว้ได้ ฝากคุณตรัยคืนให้คุณป้าด้วย แล้วไว้มัสจะเรียนท่านเองทีหลัง”

“แน่ใจนะว่าไม่อยากได้”

“ค่ะ รบกวนคุณตรัยด้วย” มัสยายืนยันคำเดิมอีกครา ตรัยพยักหน้ารับแล้วยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน จนเธอทนไม่ได้ต้องเอ่ยขึ้นมาว่า

“มัสอยากพักผ่อน พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า” เธอพูดแต่ไม่กล้ามองหน้าเขา จะให้มองได้อย่างไรกันเล่าก็ในเมื่อตอนนี้ดวงตาคู่คมนั้นเป็นประกายเจิดจ้า มัสยาไม่อยากเดาว่าตรัยกำลังคิดจะทำอะไรต่อจากนี้

“ฉันจะบอกคุณแม่ให้ ถ้าเธอไม่อยากได้ของพวกนี้งั้นก็เอานี่ไป” ตรัยเดินเข้ามาประชิดอย่างรวดเร็ว มัสยาจะถอยหลังแต่เขารู้ทันรั้งเอวสวยเข้ามาแนบตัวไม่ให้ไปไหน

ตรัยแทบคลั่งเมื่อรู้ว่าผิวกายสัมผัสเนื้อเนียนมีเพียงชุดคลุมบิดบัง ช่างถูกที่ถูกเวลาจริงๆ พ่อคุณเอ๋ย ความงามที่เคยได้ครอบครอง กลิ่นกายสาวกระตุ้นความปรารถนาให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง คิดถึงเหลือเกิน

“ใส่สร้อยของฉันแทนแล้วกัน” เขากระซิบข้างหู สวมสร้อยคอที่เตรียมมาให้อย่างเบามือ ก่อนจะก้มลงจูบแก้มสาวฟอดใหญ่ ชื่นใจเสียจริง

“อย่าค่ะคุณตรัย เดี๋ยวคุณป้า...”

“คุณแม่นอนแล้ว” ตรัยเอ่ยเสียงแหบพร่า ใช้ริมฝีปากจูบซ้ำลงที่แก้มข้างเดิมอีกครั้ง

มัสยาแทบยืนไม่ไหวเมื่อถูกรั้งเข้าไปหาตัวชายหนุ่มแนบแน่นขึ้น ริมฝีปากนุ่มเคลื่อนจากข้างแก้มเป็นพรมจูบไปทั่วหน้า ฝ่ามือลูบไล้มาที่แผ่นหลังและสะโพกสาว วินาทีนี้เธอพยายามประคองและตั้งสติเพื่อยับยั้งอารมณ์ที่กำลังเตลิดกู่ไม่กลับเพราะตรัย

“อย่า” มัสยาห้ามเสียงสั่นเมื่อริมฝีปากนั้นซุกไซ้มาที่ซอกคอสาว มือไม้สองข้างลูบไล้ไปมาที่แผ่นหลังพร้อมๆ กัน

“อย่าถอด อย่าให้ขาดและห้ามรับของใครมาใส่แทนเด็ดขาด เข้าใจไหม” เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตาพร้อมกำชับเสียงเข้ม

“ค่ะ” สาวน้อยพยักหน้ารับคำเบาๆ พยายามจะดันตัวเองออกห่าง

“ปล่อยได้หรือยังคะ มัสจะนอนแล้ว”

“ก็นอนไปสิ ใครว่าอะไร” เขาพูดหน้าตาเฉย

“คุณตรัยก็ปล่อยสิคะ”

“นอนสิ ฉันจะกล่อม” เขาเอ่ยเสียงพร่าอุ้มคนในอ้อมแขนมาวางที่เตียง ก่อนจะเอนตัวลงนอนเคียงข้าง

“อย่าทำแบบนี้ค่ะ” มัสยาพยายามขืนตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ตรัยไม่ยอมปล่อยอีกทั้งยังกอดเธอไว้อีกด้วย

“ง่วงก็นอนสิ” เขากระซิบ มัสยาร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งร่าง ยิ่งเมื่อตรัยก้มหน้าลงมาใกล้ๆ แล้วกระซิบถามเบาๆ ว่า

“เธอให้ใครมาซ้ำรอยฉันหรือเปล่า”

มัสยายังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา ตรัยก็แนบประกบริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็ว เขาจู่โจมโดยไม่ให้เธอปฏิเสธได้ ใช้ความร้อนแรงในเสน่หา หลอกล่อให้อีกฝ่ายอ่อนแรง ไม่เพียงแค่จูบที่กวาดต้อนเอาแรงต้านไปจนหมดสิ้น แต่มันยังปลุกเร้าแรงร้อนในธรรมชาติของตัวเธอขึ้นมาอีกด้วย

ตรัยโหยหาเหลือเกิน เขาอดทนรอคอยมายาวนานถึงสองปีเต็มกว่าจะได้กลับมา เมื่อได้กลับมาแล้วมัสยากลับหลบหลีกไม่ยอมให้ได้เข้าใกล้ สองวันก่อนเขามาหยุดยืนเคาะประตูที่หน้าห้อง แต่เจ้าตัวใจดำไม่ยอมเปิด กลางวันก็ออกตะลอนไปกับคุณนวลแขปล่อยให้อยู่บ้านเพียงลำพัง

ค่ำคืนนี้เป็นโอกาสดี โอกาสที่ตรัยจะได้เอาคืน ตักตวงและเชยชมให้สมความคิดถึงที่มีมายาวนาน แน่นอนว่ามัสยาจะต้องมีความสุขและอิ่มเอมไปกับเขา เหมือนเช่นที่เคยเป็นมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel