ตอนที่ 4 คืนเข้าหอ
พิธีงานเลี้ยงช่วงค่ำได้ดำเนินผ่านไปจนใกล้จะเลิกงาน บ่าวสาวเดินเคียงคู่พูดคุยกับแขกที่มาร่วมงาน แต่พอจบหน้าที่ก็แยกย้ายไปยืนกับกลุ่มเพื่อนตัวเอง
“ไอ้ณิน กูเชื่อแล้วว่าเขาจำใจแต่งกับมึงจริง ๆ” จากการสังเกตอาการน่านนที องศาเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น
“เออดิ ทีนี้สบายใจยังว่าฉันไม่มีทางโดนเคลมคืนเข้าหอ” ณินทิราจิ้มคุกกี้เข้าปากไปพลางพูดไปพลาง ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านว่าแต่งกับคนที่เขาไม่รักเรา
“เออ มึงไม่คิดอะไรกูก็ดี แต่ถ้าไม่ได้หย่ากันเร็ว ๆ นี้ก็ระวังตัวไว้บ้าง กูไปสืบมาล่ะ...”
“หึ ถึงขนาดสืบเลย” ขนาดเธอเป็นคนแต่งยังไม่คิดจะสืบอะไรเลย คงเพราะไม่คาดหวังกับงานแต่งครั้งนี้มั้ง
“เผื่อ ๆ ไว้”
“แล้วได้ข้อมูลไรบ้าง?” ขณะที่ถาม ณินทิราก็ยังไม่เลิกกิน ไม่สนด้วยว่าแขกในงานจะมองเธอยังไง เพราะเธอไม่ใช่คนรักษาภาพลักษณ์อยู่แล้ว”
“มึงหยุดกินก่อนดิ เพื่อนเจ้าบ่าวลอบมองมึงตลอด รู้ตัวบ้างไหม?”
“เล่า ๆ” ณินทิรากระแทกแขนองศาให้กลับมาเรื่องที่คุยค้างไว้
“คืองี้ กูไปสืบจากพวกวงใน เจ้าบ่าวมึงน่ะ เป็นประเภทกินเงียบ...” องศามีเพื่อนหลายกลุ่ม ซึ่งหนึ่งในกลุ่มที่สืบเรื่องนี้ได้คือพวกเที่ยวกลางคืนเหมือนกัน
“แล้ว?” เธอเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
“ก็ระหว่างนี้ มึงควรตกลงกับพี่เขาว่าควรหยุดกินนอกบ้านก่อน ไม่งั้นมึงจะโดนสาว ๆ เขาสบประมาทได้ว่าเอาสามีไม่อยู่”
“ก็เรื่องของพี่เขา”
“ทำเป็นไม่สนใจ อย่ามาร้องไห้แล้ววิ่งมาให้กูปลอบแล้วกัน”
“ฉันจะร้องไห้ทำไม?” ณินทิราไม่เข้าใจ ถ้าเธอหวั่นไหวหรือมีใจก็ว่าไปอย่าง
“จะรอดู”
“มึงรอดูหลายเรื่องแล้วนะ” เธอย้อนทันที ตั้งแต่รอดูเรื่องเข้าหอ นี่ยังจะมารอดูเธอพลาดท่าอีก
“ว่าแต่ ทำไมเขาไม่แนะนำมึงกับเพื่อน ๆ เขาเลยวะ” องศาสังเกตอีกอย่าง คือ น่านนทีจะพาเพื่อนของเขาแนะนำแขกผู้ใหญ่ในงาน ยกเว้นก็แต่กลุ่มเพื่อนเท่านั้นที่ไม่คิดจะควงไปแนะนำ
“หวงพื้นที่ส่วนตัวมั้ง” จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ เขาจะหวงพื้นที่ส่วนตัว จะเปิดเผยเฉพาะบางเรื่องเท่านั้น ถึงจะเป็นคนใจเย็น สุขุม พูดเพราะ แต่ก็จำกัดเฉพาะที่คิดอยากจะเปิดเผย ต่างจากน้องชายที่เป็นคนใจร้อน พูดหยาบโลน แต่ลึก ๆ กลับเป็นคนใจดี เข้าถึงง่ายกว่า
“มึงไม่คิดมากเหรอวะ”
“โอ๊ยย! จะคิดมากเพราะมึงเสี้ยมนี่แหละ”
“ฮ่า ๆ อย่างกับมึงเชื่อคนง่ายนั่นแหละ” องศาส่ายหน้าหัวเราะแล้วยื่นมือมาวางบนหัวณินทิรา ก่อนที่มันจะหันมาค้อนใส่ “ปากเปื้อน”
“ไม่หวงเหรอวะ” สิงห์พูดขึ้นระหว่างเหลือบมองเจ้าสาวเพื่อนที่กำลังยืนหัวเราะกับผู้ชายวัยเดียวกัน แถมผู้ชายคนนั้นยังจับแขน ลูบหัว เช็ดปากให้อีกด้วย ดูสนิทสนมกันเกินไป ยิ่งดูยิ่งแปลก แต่ที่แปลกกว่าคือเพื่อนเขานี่แหละเพราะน่านนทีขึ้นชื่อเรื่องความขี้หึง ขี้หวง ทว่ากลับนั่งดื่มไม่ยักกะสนใจเจ้าสาวเลย
“เออ หน้าตาโคตรน่ารัก ยิ้มทีตาหยีเลย” เอ็มเห็นด้วย
“นั่นดิเฮีย ไม่ไปพาน้องณินมานั่งด้วยกันล่ะ” ศักดานนท์ก็รีบพูดเช่นกัน
“ปล่อยเขาไปเหอะ แต่งงานนะเว้ย จำเป็นต้องตัวติดกันตลอดหรือไง?”
เจ้าบ่าวหันไปมองเจ้าสาวแป๊บหนึ่งก็หันมาสนใจแก้วในมือต่อ เขาจำได้ว่าผู้ชายคนนั้นคือคนเดียวกันกับที่เจอออฟฟิศณินทิราวันนั้น คงจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันมากมั้ง
“ไม่เจอกันนานมึงเปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะ”
“เออ แล้วไม่คิดจะแนะนำจริง ๆ เหรอวะ”
“ก็รู้อยู่แล้วนี่...ชื่อน้องณิน ณินทิรา”
“ถ้ามึงจะแนะนำแค่นี้ ไม่ต้อง!! กูอ่านชื่อบนเวทีได้” สิงห์ส่ายหน้าอย่างเอือม ๆ
“ไอ้นนท์ ยังไงวะ” เอ็มหันไปกระซิบถามน้องชายเพื่อน สัมผัสถึงความแปลก ๆ
“ไม่มีอะไรหรอก หวงมากเลยไม่อยากแนะนำพวกเฮีย ๆ”
“หึ พวกกูมีเมียแล้วนะ แล้วนั้นก็เมียเพื่อน!!”
“นั่นแหละ เขาหวงของเขาน่ะ” ศักดานนท์ส่งสายตายิ้มเจื่อน ๆ ให้พี่ชาย ประมาณว่าช่วยได้เท่านี้นะ ที่เหลือจัดการเอง “ผมขอตัวก่อนนะ คิดถึงเมียแล้ว”
จากนั้นศักดานนท์ก็ลุกไปนั่งโต๊ะเดียวกับพราวฟ้า
“อีกไม่กี่นาทีเข้าหอแล้วนะมึง ค่อยไปหวงในห้องหอต่อสิเนอะ!!”
“หึ” น่านนทีกระดกไวน์แล้วส่งเสียงผ่านลำคออย่างไร้ควาหมาย
ชีวิตนี้เขาไม่คิดจะหวง หึง ผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว!!
