ตอนที่ 3 ฉันต้องรอด!?
ฉันจ้องตาไอ้มาเฟียหน้าหล่อที่นั่งไขว่ห้างอยู่ตรงหน้าอย่างหวาดระแวงสุดชีวิต…
“สรุปคือฉันต้องเป็นแฟนนาย… แค่เพราะหมาของนายติดฉัน!?”
“อืม”
เรย์จิ… นายแม่งตอบง่ายไปไหมฟะ!?
“ไม่เอาโว้ยยย!!” ฉันลุกพรวดขึ้นทันที
“ฉันไม่อยากเป็นแฟนมาเฟีย! ฉันแค่อยากกลับบ้านไปเล่นเกม!!”
“นั่งลง”
“ไม่!!”
หมับ!
เฮ้ยยย! อิบ้านี่มันดึงแขนฉันให้นั่งลงไปอีกแล้ว!!
“เธอกล้าปฏิเสธฉันต่อหน้าแบบนี้ตลอดเลยนะ” เขาพูดเสียงเรียบ สายตาคมกริบเหมือนจะกรีดวิญญาณฉันเป็นชิ้นๆ ได้
“เธอรู้ไหมว่าไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับฉันมาก่อน”
แล้วฉันต้องภูมิใจรึไงฟะ!?
“แต่ก็ดี” เรย์จิพยักหน้าเบาๆ
“ฉันชอบ”
ชอบพ่อง!!
ฉันอยากจะกรีดร้องลั่นร้าน! ทำไมหมอนี่ถึงเป็นคนที่ตรรกะพังขนาดนี้วะ!?
“ฟังนะ…” ฉันพยายามสูดลมหายใจเข้า อธิบายให้คนตรงหน้าฟังอย่างใจเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ถึงแม้ฉันอยากจะฟาดหน้าหล่อๆ นั่นสักทีมากกว่าก็ตาม!)
“นายเป็นมาเฟีย ฉันเป็นแค่เด็กเนิร์ดที่วันๆ นั่งเล่นเกมกับอ่านมังงะ ฉันไม่มีทางใช้ชีวิตร่วมกับนายได้แน่ๆ เข้าใจไหม!?”
เรย์จิเท้าคางมองฉัน ราวกับกำลังวิเคราะห์ข้อมูลอะไรบางอย่างอยู่
“ทำไมจะไม่ได้?”
“ก็นายยิงปืนเป็น ฟันดาบเป็น ส่วนฉันใช้แต่จอยเกมกับคีย์บอร์ด!” ฉันโวยวายสุดเสียง
“แค่นี้ก็ไปกันไม่รอดแล้ว!”
“งั้นก็ฝึกซะ”
“...หา!?” ฉันกะพริบตาปริบๆ
“ถ้าคิดว่าเข้ากับฉันไม่ได้เพราะใช้ปืนไม่เป็น ก็ฝึกซะ” เรย์จิพูดหน้าตาย
“ฉันจะสอนให้เธอยิงปืนเอง”
“ไม่เอาโว้ยยยย!!” ฉันแทบจะร้องไห้ออกมาแล้วนะ! ฉันแค่เด็กเนิร์ด ไม่ใช่นางเอกหนังแอ็กชันนะเว้ย!!
“ใจเย็น” เรย์จิยกมือขึ้นเหมือนจะปลอบ แต่สีหน้ามันดันนิ่งสนิทจนฉันไม่รู้เลยว่าหมอนี่กำลังคิดอะไรอยู่
“จะให้ใจเย็นได้ไงฟะ!!!”
…แล้วอยู่ดีๆ เขาก็หยิบมือถือออกมา กดโทรหาคนบางคน
“คิน จัดการเรื่องแฟนฉันให้เรียบร้อยที”
“เฮ้ยยย! เดี๋ยวๆๆๆ! นายจะให้ลูกน้องมาฆ่าฉันเรอะ!?” ฉันแทบจะกระโดดข้ามโต๊ะหนี!
เรย์จิเลิกคิ้ว “ใครว่า?”
“ฉันหมายถึงให้เตรียมห้องที่บ้านไว้ เธอจะย้ายมาอยู่กับฉัน”
“.....”
“ห้ะ!?!?!?!?!”
เสียงกรีดร้องในหัวฉันดังก้องเป็นล้านเดซิเบล!
เดี๋ยวๆๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ!? ฉันแค่เผลอไปช่วยหมาของมาเฟีย แล้วตอนนี้ฉันต้องย้ายไปอยู่บ้านมันเนี่ยนะ!?!?
ฉันจ้องเรย์จิด้วยสายตาเหลือเชื่อสุดชีวิต แต่เจ้าตัวกลับนั่งไขว่ห้างชิล ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มือข้างหนึ่งถือมือถือแนบหู ส่วนนิ้วอีกข้างเคาะโต๊ะเบาๆ อย่างใจเย็น ราวกับนี่เป็นแค่ธุรกรรมธุรกิจทั่วไป
แต่สำหรับฉัน… นี่มันคือการลักพาตัวชัด ๆ !!!!
“เดี๋ยวๆๆๆๆๆ!!!!” ฉันแทบจะพุ่งข้ามโต๊ะไปกระชากมือถือจากมือเขา
“นี่มันไม่ใช่เรื่องที่นายจะมาตัดสินใจเองนะโว้ยยย!!”
เรย์จิปรายตามองฉันเล็กน้อย ก่อนจะพูดลงโทรศัพท์ต่อด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจนขนลุก
“เอาห้องที่ติดกับฉันก็ได้”
“เห้ยยย!!!” ฉันแทบจะพ่นวิญญาณออกจากร่าง
“ไม่เอาโว้ยยย!! ใครบอกว่าฉันจะไปอยู่บ้านนายกันฟะ!?!”
เรย์จิวางสายโดยไม่พูดอะไรอีก จากนั้นก็กดล็อกหน้าจอมือถือวางลงบนโต๊ะอย่างใจเย็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น... ในขณะที่ฉันกำลังจะบ้าตายแล้ว!!!
“ทำไมฉันต้องย้ายไปอยู่บ้านนายฟะ!?” ฉันโวยวายสุดเสียง
“ฉันมีบ้านของฉันเองนะ!”
“ไม่ปลอดภัย” เขาตอบเรียบๆ
“ไม่ปลอดภัยพ่องงง!!” ฉันจะบ้าตายแล้วจริง ๆ นะ!
“ตอนนี้เธอเป็น ‘แฟน’ ของฉัน” เรย์จิพูดต่อเหมือนนี่เป็นเรื่องที่ทุกคนควรเข้าใจ
“พวกศัตรูของแก๊งฉันต้องเริ่มสืบแล้วว่าเธอเป็นใคร ถ้าเธออยู่ที่เดิม อาจมีพวกมันไปหาที่บ้าน”
“...เฮ้ยๆๆๆๆ เดี๋ยวนะ!!” ฉันเริ่มสติแตก
“ทำไมแค่แมตช์กันในแอปเดต ฉันต้องมาเสี่ยงตายกับแก๊งมาเฟียด้วยฟะ!? ฉันไม่ได้สมัครเข้าชิงตำแหน่ง ‘ราชินีแก๊งมาเฟีย’ นะโว้ยยย!!!”
“ก็ช่วยไม่ได้” เรย์จิยักไหล่
“เพราะเธอเป็นของฉันแล้ว”
“ไม่เป็นเว้ยยยยย!!!”
ฉันอยากจะกระโดดข่วนหน้าหมอนี่จริงๆ !!! ไอ้บ้านี่มันยึดติดกับตรรกะบ้าอะไรวะ!?
ให้ตายเถอะ!! นี่ฉันไปแมตช์กับตัวอะไรมาเนี่ย!?
หลังจากฉันเริ่มตั้งสติได้ รู้ตัวว่า ถึงสติแตกไป ไอ้หน้าหล่อนี่ก็ไม่มีวันสะทกสะท้าน ฉันต้องวางแผนใหม่
“นี่นาย ใครเขาย้ายไปอยู่บ้านแฟนตั้งแต่เดตแรกกันฟะ!?”
เรย์จิมองฉันนิ่งๆ เหมือนกำลังพิจารณาว่า ฉันกำลังประท้วงจริงๆ หรือแค่เล่นตัว ริมฝีปากบางยกยิ้มเล็กน้อย
“มีปัญหา?”
“มีโว้ยยยยย!!” ฉันกระแทกมือกับโต๊ะเสียงดังจนลูกน้องมาเฟียที่อยู่มุมร้านแอบขยับมือไปแตะปืนที่เอว
เฮ้ยๆ ใจเย็นนะทุกคนน!! ฉันแค่โวยวาย ไม่ได้จะก่ออาชญากรรมนะเฟ้ย!!!
ฉันกลืนน้ำลาย นี่มันอันตรายกว่าตอนเล่นเกม Battle Royale อีกนะเนี่ย…
ถ้าขืนเถียงกับไอ้บ้านี่ต่อ ฉันอาจได้ไปอยู่บ้านเขาแบบตัวเป็นๆ หรือไม่ก็ถูกแพ็กใส่กล่องไปเลยก็ได้!!
ต้องหาทางต่อรอง… ต้องเอาตัวรอดให้ได้!!
ฉันพยายามสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ขณะที่สมองกำลังประมวลผลหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์ ‘ถูกบังคับย้ายเข้าบ้านมาเฟีย’ นี่ให้ได้!
โอเค มินาเอะ… คิดสิ!
การเถียงกับผู้ชายคนนี้ดูจะไม่ได้ผล เพราะตรรกะเขาโคตรพังและ ดื้อเป็นควาย ดังนั้น—ฉันต้องใช้ ‘สกิลพูดโน้มน้าว’ ที่ได้มาจากการเล่นเกมจีบหนุ่มมาตลอดชีวิตให้เป็นประโยชน์!
ฉันสูดลมหายใจเข้า เปลี่ยนสีหน้าให้ดูอ่อนโยน (?) แล้วฝืนยิ้มแห้งๆ ออกมา
“อะ…เอางี้ดีไหม” ฉันกระแอมเบาๆ ก่อนจะพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน
“เราลอง… เอ่อ… คบกันไปก่อน แบบปกติ ไม่ต้องย้ายไปอยู่ด้วยกันก็ได้?”
เรย์จิเลิกคิ้วนิดๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร
เฮ้ย… หมอนี่กำลังพิจารณาข้อเสนอของฉันใช่มะ!?
ฉันรีบพูดต่อทันที
“แบบว่าค่อยๆ ศึกษากันไปไง! นายเองก็น่าจะอยากลองใช้ชีวิตแบบคู่รักทั่วไปบ้างใช่มะ?”
...
...
เวรแล้ว… ฉันพูดอะไรออกไปฟะเนี่ย!?
ไอ้มาเฟียหน้าหล่อทำหน้าเหมือนกำลังคิดตามจริงๆ! เขาแตะคางตัวเองเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาคมกริบฉายแววพิจารณา
โคตรเท่— เอ้ย! นี่ไม่ใช่เวลาชมพระเอกนะเว้ย!
“หืม…”
เรย์จิเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ
“อืม ก็น่าสนใจ”
เว้ยเฮ้ย! ดูเหมือนฉันจะรอดแล้วใช่มะ!?
“แปลว่า นายตกลงแล้วใช่ไหม!?” ฉันถามย้ำเสียงลุ้นสุดๆ ตื่นเต้นเหมือนเพิ่งผ่านด่านบอสใหญ่ได้สำเร็จ!
แต่ยังไม่ทันได้ดีใจครบสามวินาที…
เรย์จิปรายตามองฉันนิ่งๆ ก่อนจะพูด ข้อเสนอใหม่ ออกมา
“งั้นก็ดี” เขาพยักหน้าเบาๆ
“แต่มีข้อแลกเปลี่ยน”
...
ฉันรู้แล้วว่าแม่งต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล!!!
ฉันรีบขยับตัวออกห่างทันที “ข้อแลกเปลี่ยนอะไรฟะ!?”
เรย์จิเอนตัวพิงเก้าอี้ ก่อนจะพูดเรียบๆ ราวกับกำลังเสนอข้อตกลงทางธุรกิจ
“ถ้าเธอไม่ย้ายมาอยู่กับฉัน ก็ต้องมีลูกน้องของฉันตามอารักขาตลอด 24 ชั่วโมงแทน”
...
หา!?!?!?
“อะ อารักขาอะไร!? ฉันไม่ต้องการบอดี้การ์ดนะเว้ย!”
“แต่ฉันต้องการ”
“ทำไมฟะ!?”
เรย์จิจ้องตาฉันนิ่งๆ ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ
“เพราะเธอเป็นแฟนฉัน”
“.........”
โอ๊ยยยย!!! ไอ้บ้านี่มันจริงจังสุดๆ ไปเลย!!!
ฉันกัดริมฝีปากตัวเอง นี่ถ้าปฏิเสธไปอีก ฉันอาจโดนแบกไปคฤหาสน์มาเฟียเลยก็ได้…
ฉันชั่งใจอยู่สามวินาที ก่อนจะถอนหายใจยาว แล้วพยักหน้ารับข้อเสนอครึ่งทาง
“ก็ได้…” ฉันยอมแพ้
“แต่ห้ามเยอะเกินไปนะเว้ย! ฉันไม่อยากไปเรียนแบบมีมาเฟียใส่สูทเดินตามหลังเป็นสิบ!”
เรย์จิยกมุมปากขึ้นนิดๆ เหมือนพอใจกับการตกลงครั้งนี้
“หึ…”
เฮ้ย!? หมอนี่มันแอบยิ้ม!?!?!?
ฉันสะดุ้งเฮือก—ไม่ใช่ว่ากลัวนะ! (อาจจะนิดหน่อย) แต่มันเป็นรอยยิ้มที่…
โคตรหล่อ!
บรรยากาศรอบตัวหมอนี่ตอนปกติก็น่ากลัวอยู่แล้ว แต่พอเห็นรอยยิ้มมุมปากนั่น มันเหมือน…
‘แบดบอยสายอันตรายที่หลุดออกมาจากมังงะ’ ชัดๆ!!!
ให้ตายเถอะ!!! นี่ฉันต้องมานั่งหวั่นไหวกับมาเฟียเหรอฟะ!?
“ดีมาก” เรย์จิพูด ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดเบาๆ แล้วพูดเสียงราบเรียบ
“คิน เปลี่ยนแผน ไม่ต้องเตรียมห้องที่บ้านแล้ว แต่ให้จัดคนดูแลเธอแทน”
ฉันกลอกตา ให้ตายเถอะ… นี่ฉันได้แฟนหรือได้บอดี้การ์ดส่วนตัวกันแน่!?
แต่ยังไม่ทันได้โวยวายอะไรต่อ เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้น
[คุณได้รับคำขอเป็นเพื่อนจาก: คิน - หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของแก๊งคุโรซาวะ]
...
เห้ยยยย!!! นี่มันอะไรกันฟะ!?
