บท
ตั้งค่า

บทที่ 12 สวยเหมือนนางฟ้า

อาโปทานอาหารเสร็จก็คิดอยากจะเรียนทำอาหารกับน้ำมนต์แบบจริงจัง

“เอาจริงเหรอ?” น้ำมนต์มองตาค้าง

“จริงสิ ฉันอยากเรียนทำอาหารกับพี่จริงๆ” อาโปยืนยัน “ฉันพูดจริงนะพี่” เธอกลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ

ธันวาเคยบอกไว้แล้วว่าต้องทำอาหารไว้รอเขาทุกวันแม้ว่าเขาจะไม่กลับมากินก็ตาม อีกอย่าง เมื่อวานนี้เธอหรอกเขาไปว่าอาหารมื้อเย็นเมื่อวานเธอเป็นคนทำเอง หากวันนี้ไม่ทำเหมือนเดิม มีหวังต้องถูกขอหย่าอีกแน่เลย

“เธอเริ่มคิดอะไรกับนายธันวาแล้วใช่ไหม? อาโป” น้ำมนต์จ้อง

“ใช่ที่ไหนล่ะพี่!” อาโปรีบตอบ “ที่ฉันยอมทำตามคำสั่งของเขาก็เพราะอยากทำดีเพื่อตัวเองเท่านั้น หากฉันทำให้เขาพอใจ เขาก็จะยกเลิกการทำงานบ้านให้ฉันก็เท่านั้นเอง ฉันไม่มีวันชอบหมอนั่นเด็ดขาด” เธอยืนยัน

น้ำมนต์คิดว่าอาโปนั้นเริ่มมีนิสัยเปลี่ยนไปแล้ว นี่แค่สองวันเท่านั้น ธันวาสามารถเปลี่ยนอาโปได้แล้วจริงๆ

“เธอยังเป็นมือใหม่ งั้นก็ฝึกทำอาหารง่ายๆ ก่อนก็แล้วกัน”

วันนี่ทั้งวัน อาโปใช้เวลาทั้งหมดไปกับการฝึกทำอาหาร เธอมีความตั้งใจมาก แม้ว่าทำออกมาแล้วมันจะกินไม่ได้ก็ตาม เธอแค่เอาทิ้งแล้วเริ่มทำใหม่ไปเรื่อยๆ

จนถึงตอนเย็น เมื่อธันวากลับมาถึงคอนโด เพียงแค่เธอได้ยินเสียงเขาเปิดประตูห้องเข้ามาก็รีบเดินไปรับเขาแล้ว

“กลับมาแล้วเหรอ? ทานน้ำก่อนค่ะ” เธอยื่นน้ำให้เขาแล้วช่วยเขาถือของในมือ “เอามาให้ฉันค่ะ เดี๋ยวฉันจะเอาไปเก็บให้”

ธันวาส่งเอกสารให้เธอโดยที่ยังคงสับสนอยู่ ‘ผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้ทานยาผิดใช่ไหม? หรือเป็นแผลที่เท้าแล้วมันลามขึ้นไปที่สมอง?’ เขาคิดในใจ

“ถุงนี้เป็นของเธอ” เขายื่นถุงให้

“อะไรเหรอ?” เธอมองถุงอย่างสงสัย อยู่ดีๆ ก็มีของให้เธอด้วย

“ชุดราตรีที่ต้องใส่วันพรุ่งนี้”

“อ้อ” เธอคิดได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปงานหมั้นของคนรักเขานั่นเอง

อาโปหยิบชุดออกมาดู ดวงตาก็เปล่งประกาย “โห….ชุดสวยมากเลยค่ะ” เธอถูกใจมาก

“แน่นอน เพราะฉันอยากให้เธอดูดีและสวยจนนาราต้องอิจฉา”

“อิจฉา?” เธอทำหน้างง

“ใช่ ฉันอยากให้นาราเห็นเธอแล้วรู้สึกเสียใจ”

“ทำไมเธอต้องเสียใจ? ในเมื่อเธอก็มีคนรักใหม่แล้ว”

“ฉันเชื่อว่าทั้งสองคนนั้นไม่ได้รักกัน นาราต้องรักฉันอยู่แน่นอน ที่เธอต้องหมั้นเพราะอาจจะถูกบังคับก็ได้”

“นายนี่หลงตัวเองชะมัด” อาโปส่ายหัว

“ชุดนี้ฉันสั่งตัดพิเศษเลยนะ หากเธอใส่ชุดนี้แล้วก็คงจะเด่นในงานไม่น้อย”

“เพราะอะไร? ทำไมฉันต้องเด่นในงานด้วย? ฉันไม่อยากสวยเกินหน้าเกินตาเจ้าของงานหรอกนะ” อาโปไม่โอเค เธอไม่อยากเป็นจุดเด่นให้ใครมามองหรือพูดถึงเธอ

“เธอจะเด่นได้ก็แค่ชุดเท่านั้นแหละ แต่ความสวยของเธอสู้นาราไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ฉันถึงต้องสั่งตัดชุดนี้เพื่อกู้หน้าตาให้ฉันไงล่ะ”

“นาย! นายบูลลี่ฉันหลายครั้งแล้วนะ” น้ำเสียงเธอเกรี้ยวกราด

“พรุ่งนี้ถ้าเธอเห็นนาราแล้วก็จะยอมรับเองว่าเธอสวยสู้เขาไม่ได้เลยแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว”

อาโปอ้าปากค้าง เถียงไม่ออก เธอเก็บชุดใส่ถุงเหมือนเดิมแล้วเดินเข้าห้องนอน ‘นายมันตาไม่ถึง พรุ่งนี้ฉันจะทำให้นายกลับคำพูดให้ได้’

โต๊ะอาหาร

ธันวาตักอาหารคำแรกเข้าปากก็ขมวดคิ้ว

“อาหารนี่เธอทำเองเหรอ?” เขาถามอย่างสงสัย

“ไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นใครล่ะ” อาโปตอบด้วยแล้วตักอาหารอีกจานให้เขาชิม “ลองชิมจานนี้ดูสิ”

ธันวาตักชิมแล้วขมวดคิ้วแน่น “ทำไมรสชาติไม่เห็นเหมือนเมื่อวานเลย”

“ก็วันนี้ฉันลงมือทำเองนิ” เธอตอบด้วยรอยยิ้มที่สดใส

“แล้วเมื่อวานล่ะ?”

อาโปยิ้มเจื่อน “เมื่อวานเป็นฝีมือของพี่น้ำมนต์น่ะ แต่อาหารพวกนี้พี่น้ำมนต์ก็เป็นคนสอนนะ ทำไม? ไม่อร่อยเหรอ? เป็นอาหารจานแรกที่ฉันทำเลยนะ”

“ก็พอกินได้แหละ แต่ถ้าเทียบกับนาราแล้ว อาหารของเธอสู้ไม่ได้เลย”

“จ้าาา ให้มันอร่อยแค่นาราของนายเถอะ ฉันไม่ใช่นาราของนายนิ” อาโปกัดฟันพูด

ธันวาแอบยิ้มที่ได้แกล้งอาโปให้อารมณ์เสีย เขาชอบเห็นเธอเป็นแบบนี้ที่ไม่อาจเอาชนะเขาได้

วันต่อมา

ธันวาโทรสั่งอาโปให้แต่งตัวและเตรียมความพร้อม โดยให้น้ำมนต์เป็นคนพาเธอไปที่งาน เนื่องจากว่าเขายังติดงานประชุมสำคัญอยู่ แล้วค่อยไปเจอกันที่งานเลย

อาโปมองตัวเองในกระจกแล้วยิ้มอย่างพอใจ ‘ฉันสวยขนาดนี้ นายมันตาไม่ถึงเองธันวา วันนี้ฉันจะทำให้นายตะลึงเลยคอยดู’

น้ำมนต์ส่งข้อความถึงอาโปว่าเขานั้นขับรถมารออยู่หน้าคอนโดแล้ว เธอจึงหยิบกระเป๋าแล้วออกจากห้องทันที

เมื่ออาโปเปิดประตูรถ น้ำมนต์หันมามองเธอตาค้าง จนอาโปต้องกระแอมเสียง น้ำมนต์ถึงได้รู้ตัว

“มองตาค้างเลยนะพี่ เป็นไงบ้าง? ฉันใส่ชุดนี้แล้วสวยไหม?”

“นายธันวาให้เธอใส่ชุดนี้เพื่อไปแย่งซีนเจ้าของงานหรือไง?”

“ใช่ เขาอยากให้คนรักของเขาเสียใจ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ตั้งใจพาฉันไปประชดแฟนเก่านั่นแหละ”

“ฉะนั้น แค่แต่งตัวสวยยังไม่พอ เธอต้องเดินให้สง่าด้วย” น้ำมนต์แนะนำ

“อยู่แล้วล่ะ ฉันไม่ทำให้ตัวเองขายหน้าแน่นอน” อาโปยิ้ม

เมื่อมาถึงที่งาน ก่อนจะลงรถน้ำมนต์ก็ถามอาโป “เธอไม่รู้สึกอะไรเหรอ? ที่มางานหมั้นของคนรักเก่าสามีตัวเอง”

“ทำไมต้องรู้สึกอะไรด้วยล่ะ? ฉันกับเขาแค่เป็นสามีภรรยาในนาม ฉันไม่ได้รักเขาเสียหน่อย” อาโปตอบอย่างมั่นใจ เธอไม่คิดอะไรเลยจริงๆ

“ไม่คิดเหรอว่านายธันวาไม่ให้เกียรติเธอน่ะ พาภรรยาตัวเองมางานหมั้นของคนรักตัวเอง ไม่รู้สึกว่าถูกหยามหน้าเหรอ?”

“ไม่นิ มันกลับเหมือนว่าเขาพาฉันมาเปิดตัวด้วยซ้ำ และที่นายนั่นพาฉันมาก็เพื่ออยากให้คนอื่นรู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว และไม่ได้คิดอะไรกับนาราอีก ถึงได้พาฉันมางานหมั้นแบบนี้”

“ใช้เธอเป็นฉากบังหน้าว่างั้นเถอะ”

“ก็ประมาณนั้น” อาโปพยักหน้า “ลงรถเถอะ นายธันวาส่งข้อความมาว่าเขาถึงงานแล้ว ตอนนี้อยู่ที่หน้างานรอ”

ธันวามองดูนาฬิกาหลายครั้ง ‘ทำไมผู้หญิงคนนั้นยังไม่ถึงอีกนะ’ เขาบ่น

“เฮ้เพื่อน! นายก็มาด้วยเหรอ? ไม่คิดว่าจะได้เจอนายในงานนี้เลย” เจอาร์ เพื่อนสมัยเรียนคนหนึ่งเข้ามาทัก

ธันวายิ้มเพื่อปกปิดไม่ให้เพื่อนเห็นว่าที่จริงแล้วเขานั้นเสียใจ เขาต้องทำให้เพื่อนเห็นว่าเขานั้นลืมนาราได้แล้ว

“วันนี้เป็นวันที่นารามีความสุขนิ ฉันต้องมาแสดงความยินดีให้เธอแน่นอน”

“นายตัดใจจากนาราได้แล้วจริงเหรอ?” เจอาร์ถาม

ก่อนที่ธันวาจะได้ตอบ คนที่เขารออยู่ก็มาถึงพอดี ธันวาและเจอาร์หันไปมองร่างของหญิงสาวที่ก้าวขาลงจากรถ

“ว้าวววว นางฟ้าเหรอเนี่ย” เจอาร์เอ่ย ตะลึงกับความสวยของผู้หญิงที่พึ่งลงจากรถ

ธันวายืนจ้องมองผู้หญิงที่กำลังเดินตรงเข้ามาหา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel