บท
ตั้งค่า

เมียปรารถนา / ตอนที่ 2

“ผมอยากให้พี่เปลี่ยนใจ คุณตาของพี่จะใช้งานพี่หนักแค่ไหนก็ยังไม่รู้”

ผู้พูดยังอยู่ในวัยเด็กชาย ร่างผอมทิ้งตัวกลับลงนอนบนเตียงหลังจากลุกขึ้นกอดทักทายพี่สาว แทบไม่น่าเชื่อว่าอีกไม่ถึงปีก็จะอายุเต็มสิบสี่

“ถึงจะถูกใช้งานหนักแค่ไหนพี่ก็ยังเห็นว่าคุ้มอยู่ดีกับค่าจ้างที่ได้รับ”

อลิศา หรือ เอลิซ่า แบรดฟอร์ด- เทพฉัตร อลิซของเพื่อนๆ ‘ลิซ’ และ ‘ลิซซี่’ ของคนในครอบครัว มองใบหน้าซีดขาวบนหมอน ริมฝีปากบนและหน้าผากมีเหงื่อเป็นเม็ดๆเกาะอยู่ ก็อยากจะร้องไห้ แต่สิ่งที่ทำคือยิ้มและพูดเสียงอ่อนโยน

“เธอไม่ต้องห่วงพี่นะทอมมี่ พี่โตแล้วดูแลตัวเองได้ แล้วก็อย่าวิตกกังวลเป็นอันขาด จำที่คุณหมอบอกได้ใช่มั้ยจ๊ะ สภาพจิตใจมีความสำคัญและสัมพันธ์กับร่างกาย ใจสบายร่างกายก็จะแข็งแรงสามารถต้านโรคภัยได้ ที่ผ่านมาเธอเข้มแข็งมาได้ตลอด นี่อีกไม่นานทุกอย่างก็จะเรียบร้อย พี่เพิ่งไปพูดคุยกับคุณหมอมา ท่านให้ความมั่นใจว่าการรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกจะช่วยให้เธอหายจากโรคร้ายแน่ๆ”

“เพราะผมใช่มั้ยฮะ พี่ถึงยอมให้คุณตาของพี่บีบบังคับให้พี่ไปคอยรับใช้เป็นเวลาถึงหนึ่งปีเต็มๆ พี่ไม่เคยมีความคิดจะกลับไปเมืองไทย แต่พี่ก็ทำเพราะต้องการเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในรักษาผมให้หายจากโรคบ้าๆนี่”

ดวงตากลมสีฟ้าดูเด่นบนใบหน้าเรียวผอมฉายแววหม่นเมื่อมองหน้าซูบเซียวของพี่สาว

“ทอมมี่...ทอมมี่”

น้ำเสียงยามเรียกน้องชาย นอกจากฟังอ่อนโยนนุ่มนวล ยังประกอบไปด้วยแววปะเหลาะประโลมอย่างเอกอุ

“พี่บอกแล้วไงจ๊ะว่าอย่าคิดมาก เธอเป็นน้องชายของพี่นะ เป็นญาติสนิทคนเดียวที่พี่มีอยู่เวลานี้ การที่พี่จะช่วยดูแลเธอ ทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ ซึ่งพี่เองเต็มใจจะทำ ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องเก็บเอามากังวล เอาอย่างนี้... สมมุติว่าเป็นพี่ลงไปนอนแทนที่เธอ แล้วเธอจะทำเฉย ทั้งที่พอจะมีทางช่วยให้พี่หายเจ็บป่วยได้อย่างนั้นหรือ”

“ไม่!” เสียงปฏิเสธฟังเด็ดขาดแม้จะเบากว่าปกติ เพราะแค่การเปล่งเสียงสักประโยคสั้นๆ ก็ดูเหมือนว่าจะพรากเรี่ยวแรงไปจากร่างผอมบางได้ง่ายๆ

“ผมจะทำทุกวิธีเพื่อช่วยให้พี่กลับมามีชีวิตเป็นปกติได้อีกครั้ง และก็ไม่ใช่แค่เพราะผมสำนึกในบุญคุณ ที่พี่คอยดูแลผมเป็นเวลาหลายปี นับแต่พ่อของเรากับแม่ของผมจากเราไป แต่เพราะผมรักพี่ ต้องการมีพี่อยู่ในชีวิตไปอีกนานๆ ถ้าไม่มีพี่ผมก็คงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน” น้ำเสียงตอนท้ายฟังละห้อย

“นั่นละคำตอบ ว่าทำไมพี่ถึงตกลงใจที่จะทำงานให้กับคุณตาของพี่” ‘และเป็นงานที่พี่จะไม่มีวันบอกเธอเป็นอันขาดว่าแท้จริงแล้วเป็นงานอะไรแน่ เพราะมันจะทำให้เธอยิ่งรู้สึกผิด และเป็นทุกข์ใจมากขึ้น’ นั่นคือเสียงที่ได้แต่พูดกับตัวเองในใจ

“เมืองไทยอยู่ตั้งไกลนี่ฮะ”

“ก็ไม่ไกลเกินขนาดว่าพี่จะถูกพรากจากเธอตลอดกาลนี่จ๊ะ”

มีเสียงถอนใจอย่างยอมจำนน ร่างเล็ก ผอมบาง ยันกายจะลุกขึ้นอีกครั้งอย่างยากลำบาก

อลิศาพยายามด้วยความปวดใจ ที่จะไม่เข้าไปช่วยเหลือ เพราะรู้ว่าน้องชายไม่ชอบถูกปฏิบัติเหมือนเป็นคนป่วยหนัก

คุณหมอที่ดูแลอยู่บอกเธอว่า ที่เด็กชายอยู่มาได้ก็ด้วยกำลังใจสู้ไม่ถอย และมีความหวังว่าเขาจะต้องหายจากเจ้าโรคร้ายที่เป็นอยู่สักวัน

“ผมจะติดต่อกับพี่บ้างได้มั้ยฮะ”

“ได้สิ” เธอตอบ “แต่อาจไม่สะดวกนักเพราะ... เอาอย่างนี้ละกัน พี่จะเป็นฝ่ายโทรมาเอง อันทิแมเรียนสัญญากับพี่ว่าจะช่วยมาพี่ดูเธอแทนพี่ทุกวันที่มาได้ ถึงว่าเธอจะมีคุณหมอคุณพยาบาลคอยดูแลอยู่แล้วอย่างใกล้ชิด”

“อันทิแมเรียน”

เด็กชายทวนเสียงเบา เริ่มจะหอบน้อยๆ เขารู้จัก แมเรียน ไซด์ เพื่อนบ้านที่คอยให้ความช่วยเหลือเขากับพี่สาวเท่าที่จะทำได้มาตลอด

“พี่ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีกล่ะสิ”

“จริงๆ แล้วอันทิแมเรียนก็ไม่ได้ต้องการเงินทองของตอบแทนอะไรหรอก แต่พี่เห็นว่าสมควรให้บ้างเมื่อเราพอมีจะให้ได้ ที่ผ่านมาท่านมีน้ำใจกับเรามาตลอด แต่เราก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้ตอบแทนน้ำใจนั้น เพราะเราเองก็...ไม่ค่อยจะมีสตางค์มากนัก แต่ตอนนี้พอมีแล้ว เพราะคุณตาได้ให้ทนายจัดการโอนเงินค่าจ้างมาให้ล่วงหน้า พร้อมตั๋วเครื่องบิน เงินเพิ่งเข้าบัญชีวันนี้เอง”

เด็กชายหยิบยาทีละเม็ดใส่ปาก และกลืนลงไปด้วยความพยายามอย่างหนัก เขายิ้มอย่าง...ตั้งใจจะให้ดูสดใส เมื่อเห็นสีหน้าพี่สาว สูดลมหายใจแรงติดๆกัน ก่อนรวบรวมเรี่ยวแรงเปล่งคำพูดออกมาได้

“ผมไม่เป็นไร อย่างน้อยก็...พอจะทนได้ ว่าแต่พี่จะโทรหาผมสักอาทิตย์ละครั้ง หรือสองอาทิตย์ครั้งได้มั้ยฮะ?”

ตาโตสีฟ้าแจ๋วมองหน้าเธออย่างคาดหวัง

“ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเลยไปบ้างสัญญานะ ว่าเธอจะไม่คิดมาก เพราะมีทางเป็นไปได้ว่าพี่อาจจะโทรหาเธอไม่ได้ทุกอาทิตย์ อาจเลยไปบ้าง แต่ยังไงพี่ก็จะพยายามไม่ให้เกินสองอาทิตย์ต่อครั้ง”

“โอเค. ผมจะไม่กังวล”

ร่างผอมบางกลับลงนอนไปใหม่

“รู้ว่าที่พี่จะไปอยู่เป็นบ้านคุณตาของพี่... ไม่ใช่บ้านใครก็ไม่รู้ ช่วยให้ผมสบายใจขึ้นนิดหน่อย”

อลิศามองตาคู่โตสีฟ้าหลับลง มือผอมบางถูกวางบนหน้าท้อง บอกให้เธอรู้ว่าอาการคลื่นไส้ที่มักเกิดขึ้นเสมอ เริ่มคุกคามน้องชายของเธออีกครั้ง

เกือบหนึ่งชั่วโมงให้หลัง หญิงสาวปิดประตูห้องพักคนไข้พิเศษด้วยมือเบา เธอต้องยืนพิงประตู หลับตานิ่งๆ เพื่อเรียกกำลังใจสำหรับการหยัดยืนที่มั่นคง ไม่ให้ก้าวแต่ละก้าวปัดเป๋ด้วยความอ่อนเพลีย

ระยะเวลาที่เธออยู่กับน้องชาย ญาติสนิทคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ในโลกเวลานี้ แทบจะสูบเอาพลังใจ พลังกาย ไปจากเธอจนหมดสิ้น

ทุกครั้งที่มองน้องชายต้องทนทุกข์ทรมานด้วยโรคร้าย ความทุกข์ทางใจที่เธอไม่อาจขจัดทิ้งไปได้ง่ายๆจะเพิ่มพูนขึ้น

การที่เธอเลี้ยงดูเขามาตามลำพัง พอๆกับแม่คนหนึ่งต้องคอยดูแลลูกเล็ก ที่ยังต้องพึ่งพาพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นเวลาหลายปี นับตั้งแต่พ่อกับแม่เลี้ยงของเธอจากไปพร้อมๆ กันด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ความรักที่เธอมีต่อน้องชายเกือบจะเท่ากับความรักใคร่ผูกพันที่แม่มีต่อลูก

วันสุดท้ายที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ได้อยู่ในวงแขนของพ่อกับแม่เลี้ยงแสนดีที่ให้ความรักใคร่ คอยดูแลเธออย่างดีมาตลอด เป็นวันหนึ่งในชีวิตที่เธอไม่เคยลืมเลือน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel