บท
ตั้งค่า

#####ตอนที่ 5

“ดาว... ตื่นหรือยังลูก?”

เสียงเรียกอยู่หน้าห้อง ตามด้วยเสียงเคาะประตูปลุกสติสัมปชัญญะให้ตื่นขึ้น

“ดาว เป็นอะไรหรือเปล่าลูก...ลูกดาว...”

เสียงเริ่มร้อนรนของมารดาทำให้รีบร้องบอกออกไป

“ตื่น...ตื่นแล้วค่ะ แม่ รอเดี๋ยวนะคะ”

ทั้งที่บอกว่าตื่น ความจริงเพิ่งกระเด้งตัวขึ้นจากที่นอน ตาลืมโพลงมองเห็นสิ่งใด

ร่างอรชรก้าวลงจากเตียง เดินไปเปิดประตูรับมารดา จากนั้นก็ถอยหลบทางให้

“ไม่สบายหรือเปล่าลูก วันนี้ตื่นสายจนแม่ต้องมาปลุก”

น้ำเสียงของผู้เป็นแม่เต็มไปด้วยความอาทรห่วงใย พร้อมกันนั้นก็ใช้หลังมือแตะหน้าผากบุตรสาว

“ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา”

“ดาวสบายดีค่ะ แต่ที่ตื่นสายคงเป็นเพราะ... กว่าจะหลับก็ดึกน่ะค่ะ คือ... ดาวมัวแต่นอนคิดโน๊ตเพลง”

เป็นคำแก้ตัวที่พอจะถูไถไปได้ เพราะเป็นที่รู้กันว่าเธอกำลังหัดแต่งเพลง และใส่ท่วงทำนองเอง เอาไว้เล่นเพลินๆ ไม่ได้คิดจะนำไปเสนอกับค่ายเพลงไหนทั้งนั้น

“กี่โมงแล้วคะ”

“เจ็ดโมงจะครึ่งแล้วจ้ะ แม่ไม่เห็นดาวออกจากห้องเสียทีเลยลองมาเรียกดู เอาล่ะ ตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วจะได้ลงไปทานอาหารเช้าเสียที ทานผิดเวลาบ่อยๆ ไม่ดีนะจ๊ะ โรคกระเพาะจะถามหาเอา เช้านี้มีกระเพาะปลาด้วย คุณป้าเดือนอายทำเอง เห็นว่าหลานสาวคนโปรดบ่นอยากรับประทานเมื่อหลายวันก่อน”

เดือนฉายหมายถึงพี่สาวแท้ๆ ที่ได้แต่งงานกับบุตรชายคนโตของครอบครัวไพศาลี และในงานแต่งพี่สาวนี้เองที่ทำให้เธอได้พบรักกับพ่อของลูกๆทั้งสาม

“หลานสาวคนโปรดหรือคะ” ถามออกไปแล้วก็หัวเราะคิก “เห็นจะพออนุโลมได้เพราะบ้านนี้มีหลานผู้หญิงอยู่คนเดียว รุ่นเล็กๆ ทั้งสามพระหน่อก็มีแต่ผู้ชายอีกแหละ”

คิ้วเรียวย่นเข้าหากันเมื่อจับได้ว่ามารดาเหมือนจะนิ่งงัน ไม่ใช่นิ่งฟังเท่านั้น

“มีอะไรหรือคะแม่?”

เดือนฉายคลายหน้าที่นิ่วแม้จะรู้ว่าบุตรสาวมองไม่เห็นพูดเสียงอ่อนโยน

“แม่กำลังสงสัยน่ะจ้ะ เมื่อคืนที่ดาวบอกว่านอนไม่หลับ ได้แอบลงไปเดินเล่นข้างล่างมาหรือเปล่า ถึงได้มีใบไม้ติดมากับเสื้อผ้าหล่นบนที่นอนตั้งสองสามใบแน่ะ ดูเหมือนจะมีดอกเล็กๆ ด้วยนะ”

เสียงบอกมาทำเอาลดาดาวยืนงัน แทบจะแน่นิ่งเป็นท่อนหิน เสียงฝีเท้ามารดามุ่งไปที่เตียง ไม่ถึงอึดใจก็บอกมาอีก

“ดอกอะไรไม่รู้ สีเหลืองเล็กๆ รูปดอกแปลก เหมือนนกหวีด กลีบบางใสยังกับดอกไม้แก้วแน่ะ ถ้าไม่มีกลิ่นหอมด้วยแม่คงเข้าใจว่าเป็นดอกไม้ประดิษฐ์จริงๆ”

กว่ามารดาจะหันกลับมาทันเห็นปฏิกิริยาที่คง ‘ไม่ปกติ’ แน่ๆ ของเธอ ลดาดาวก็มีเวลาปรับสีหน้าตลอดจนอารมณ์สับสนให้ปกติเท่าที่จะทำได้ เพราะรู้แก่ใจดี ความไม่ปกติใดๆ ของเธอ แม้เพียงนิดเดียว จะนำมาซึ่งความวิตกกังวลของคนเป็นแม่ ก่อนกระจายไปสู่คนอื่นๆ ในบ้านทุกหลังภายใต้อาณาบริเวณยี่สิบห้าไร่แห่งนี้

“นี่จ้ะ กลิ่นหอมดีนะ หนูดมดูสิ”

ลดาดาวรับมา เพียงปลายนิ้วสัมผัส กระแสชนิดหนึ่งก็แล่นวาบกระแทกเข้ากับแกนสมองก่อนพุ่งสู่ปลายประสาทรับรู้

“ดอกหวีด...”เสียงเปล่งออกมาดุจละเมอ “ถือเป็นพืชที่มีคุณสมบัติเป็นยา ผู้ใดมีอาการจากการกินอาหารผิดสำแดง หรือได้รับพิษ นำดอกหวีดแห้งบดละลายน้ำดื่มจะหายในยามเดียว”

ความรับรู้ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มาในรูปเสียง แต่จู่ๆ ความรู้นี้ก็แล่นวาบเข้าสู่สมองเหมือนกับการอ่านหนังสือ

แต่เสียงพึมพำคล้ายจะเผลอไผลก็เรียกความสนใจจากผู้เป็นมารดาทันที

“ดาวว่าดอกหวีดหรือลูก แม่ไม่เคยได้ยิน คุณสมบัติเป็นยาด้วย? หนูไปรู้มาจากไหนจ๊ะ”

ผู้ตั้งชื่อดอกไม้ ซึ่งแม้แต่คนเป็นแม่ก็ยังไม่รู้จัก หัวเราะกร่อยๆ พูดเสียงอ่อย

“ก็...แม่บอกว่ารูปทรงของมันคล้ายนกหวีดไม่ใช่หรือคะ ดาวเลยเรียกดอกหวีดเสียเลย เสียงฟังเพราะกว่าจะเรียกดอกนกหวีดไงละคะ”

“แหม เข้าใจตั้ง ลูกคนนี้”

เดือนฉายพลอยหัวเราะ มองหน้านวลใสกระจ่างด้วยสายตารักใคร่

รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ สีหน้าแจ่มใสเบิกบานของบุตรสาว สำหรับเธอแล้ว ยิ่งกว่าอายุวัฒนะ ยิ่งกว่าอาหารใจใดๆ

“เอาล่ะจ้ะ ได้ชื่อให้ดอกไม้สวยแปลกแล้ว ทีนี้ก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเสียนะจ๊ะ จะได้ลงไปทานอาหารเช้าเสียที แม่จะออกไปก่อน”

รับรู้ทางโสตประสาทว่ามารดาออกไปจากห้องแล้ว ร่างอ้อนแอ้นก็ถอยมานั่งลงที่ปลายเตียงในท่าของคนเข่าอ่อน

มือทั้งสอง ซึ่งข้างหนึ่งยังกำดอกไม้สีเหลือง กลีบดอกบางใส ที่มารดาก็ยังไม่รู้จักแนบอกที่กำลังเต้นรัว เต้นแรง

คุณพระ! จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีดอกไม้ ใบไม้ตกอยู่บนที่นอน ที่มารดาเดาเอาว่าคงติดเสื้อผ้ามา หลังจากคิดว่าว่าเธอแอบลงไปเดินเล่นเพราะนอนไม่หลับ ในเมื่อตั้งแต่เปลี่ยนมาสวมชุดนอนเธอก็ไม่ได้ย่างกรายออกจากห้องไปไหน

เว้นแต่... ในฝัน

แต่นั่นมันความฝัน บอกในตัวอยู่แล้วว่าไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับกลไกสมองขณะคนเราหลับ แล้วใบไม้ ดอกไม้ที่ตกบนที่นอนกระทั่งมารดามาพบเข้าเหล่านี้จะมีคำอธิบายอย่างไร?

เป็นไปได้ไหมว่า เธอลงไปเดินเล่นจริงๆ เมื่อคืนนี้ในลักษณะของคนนอนละเมอ?

แต่ว่า... เธอไม่เคยได้ชื่อว่าเป็นคนนอนละเมอมาก่อนนี่นา ยิ่งถึงขั้นละเมอเดินออกจากห้องนอนไปไหนต่อไหน ยิ่งไม่เคยเกิดขึ้น

ที่สำคัญ อะไรๆ มันจะไม่พ้องกันไปหน่อยหรือกับความฝันที่เกิดขึ้น

โดยฉับพลัน เหมือนกับว่าคำพูดห้าวๆ ในความฝันจะดังขึ้นจากกลางสมอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel