ชุดรักสุดฟากฟ้าฝัน

112.0K · จบแล้ว
พันแสงจันทร์ /ลิลลี่ โจนส์/ ลิลเอง /กำไลแก้ว
75
บท
874
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ขณะเสียงพายุอื้ออึง เด็กหญิงคนหนึ่งถือกำเนิด ไม่มีใครรู้ ชีวิตของเธอได้ถูกกำหนดไว้แล้ว หน้าที่ของเธอ ณ.ดินแดนแห่งหนึ่ง คือผู้ล้างคำสาปอันชั่วร้าย และแม้แต่ตัวเธอก็ไม่รู้...ที่ดินแดนแห่งนั้น มีใครคนหนึ่งเฝ้ารอเธออยู่ ใคร...ที่เธอไขว่คว้าหาในยามหลับ แม้ยามตื่นหัวใจก็เฝ้าพะวงหา ใคร...ที่สามารถแลกชีวิตของเขาเพื่อให้เธออยู่

นิยายรักโรแมนติกนิยายผจญภัยนิยายรัก

#####ตอนที่ 1

ปฐมบท

วันที่ 5 เดือน 5 ปี 2555 เวลา 17.45 น. ท้องฟ้ายังสว่างเป็นสีฟ้ากระจ่างใส ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำยังไม่ลับสายตา สาดลำแสงสุดท้ายที่จะคงอยู่อีกในราวๆ ชั่วโมงเศษ ส่องทางแก่เหล่านกกาได้มองเห็นเส้นทางคืนรัง

หญิงสูงวัยผู้หนึ่งเดินกระฉับกระเฉงแต่ไม่ถึงกับเร่งรีบ ลัดเลาะไปตามสนามหญ้า แปลงไม้ดอก และพุ่มไม้ใบ เลี่ยงสระว่ายน้ำที่หลานๆ ทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นเล็ก กำลังเล่นกันสนุกสนาน จุดหมายปลายทางคือเรือนไทยประยุกต์ ปลูกอยู่เกือบปลายที่ยี่สิบห้าไร่ติดชายคลองด้านหลัง

“คุณย่ามา”

เสียงเล็กๆ ร้องมาจากบนบ้าน ไม่กี่อึดใจเด็กชายวัยไล่เลี่ยกัน เจ็ดและห้าขวบก็ออกมายืนรอที่ระเบียงหน้าบันไดทางขึ้น

“สวัสดีครับ คุณย่า”

เสียงน่ารักน่าเอ็นดูสำหรับคนเป็นปู่ย่าตายายพูดขึ้นพร้อมกับพนมมือไหว้พร้อมเพรียงกัน

“ไหว้พระเถอะลูก”

นางลออตอบหลานพร้อมก้าวขึ้นบันใด พอถึงตัวหลานก็ดึงเข้ามาจูบกระหม่อมคนละที พลางถาม

“ทำไมไม่ไปเล่นกับพวกพี่ๆ เขาล่ะ”

“ต้องทำการบ้านให้เสร็จก่อนครับ” เด็กชายคนพี่ตอบ

“เมื่อวานคุณครูให้การบ้านเยอะเลยฮะคุณย่า” คนน้องพูดบ้าง ทำปากยื่นเหมือนจะขัดใจ

“คุณครูคงเห็นว่าหยุดติดต่อกันหลายวันน่ะสิ แล้วนี่พ่อแม่เราอยู่ไหนล่ะ”

“ในห้องนั่งเล่นฮะ”

เด็กชายทั้งสองช่วยจับจูงมือย่าคนละข้างพาไปหาบิดามารดายังห้องนั่งเล่น ที่เจ้าของดัดแปลงเป็นห้องกระจก เพื่อติดเครื่องปรับอากาศสำหรับวันที่สภาพอากาศร้อนจัด

เจ้าของบ้านเป็นชายวัยสามสิบเศษลุกขึ้นทักทายมารดา ข้างๆเก้าอี้ที่เขานั่ง มีหญิงสาววัยยี่สิบปลาย

“คุณแม่ สวัสดีค่ะ” เดือนฉายยกมือไหว้มารดาสามีด้วยกิริยานุ่มนวล

“วันนี้เป็นไงบ้างล่ะแม่เดือน” ลออถามลูกสะใภ้“หลานสาวย่ายังไม่มีทีท่าว่าจะอยากออกมาชมโลกกับเขาเลยเรอะ”

“ยังเงียบอยู่เลยค่ะคุณแม่”พร้อมกับที่ตอบคำถาม เดือนฉายยกมือลูบท้องโย้ของตัวเองอย่างแสนรัก

“เลยกำหนดที่หมอบอกไว้กี่วันแล้วล่ะ”

“ห้าวันวันนี้แหละค่ะ”

สีหน้านางลออมีแววครุ่นคิด

“หมอเขาว่ายังไงบ้าง เห็นว่าวันนี้ไปหาหมอกันมาไม่ใช่หรือ”

“ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ บอกแต่ว่ายายหนูปกติดี คุณหมอว่าไม่ต้องวิตก คนที่คลอดหลังจากเลยกำหนดคลอดเป็นเดือนก็มี ของเรานี่เพิ่งจะเลยมาสี่ห้าวัน”

“ถ้าเขายังไม่อยากออกก็คงทำอะไรไม่ได้ละนะนอกจากรอ เออ แม่มานี่ก็ว่าจะมาเล่าอะไรให้ฟัง อย่าหัวร่อละกัน”

“มีเรื่องอะไรหรือครับ คุณแม่” ลิขิต ไพศาลี ถามมารดา

“ก็เมื่อคืนน่ะสิ แม่ฝันแปลกๆ ก็ไม่รู้นะว่าจะเกี่ยวกับยายหนูหลานสาวคนแรกของตระกูลหรือเปล่า”

“คุณแม่ฝันอะไรหรือคะ? ดีหรือร้ายคะ?”เดือนฉายถามเร็ว หน้าตาตื่นแกมกังวล

“ฝันดีลูก ไม่ใช่ฝันร้าย อย่างน้อยก็ไม่ส่อไปในทางเลวร้าย คืออย่างนี้... แม่คิดว่าตัวเองกำลังจะตื่นอยู่แล้วตามปกติทุกเช้านั่นแหละ อาจจะฟังแปลกอยู่ แต่แม่ก็ว่าแม่รู้สึกตัวดีทุกอย่าง เหมือนลืมตาอยู่ด้วยซ้ำเมื่อมีชายรูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาหยุดข้างเตียง ไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับผู้หญิงสาวหน้าตาสะสวย ผิวขาวนวลแทบจะเปล่งประกายเรืองรองออกมารอบๆ แล้วผู้ชายคนนั้นก็...”

คิ้วแซมขาวขมวดมุ่นในลักษณะของคนกำลังทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว ทั้งที่ความจริงฝันนั้นยังแจ่มชัดในความทรงจำ

“เขาจับมือผู้หญิงที่มาด้วยวางลงบนมือแม่ แล้วพูดว่า ‘ฝากดูแลเธอด้วย’ จากนั้นก็หายวับไปทั้งผู้หญิงผู้ชาย พอแม่มองมือตัวเอง พบว่าที่อยู่ในมือคือดาวที่เราเห็นบนฟ้านั่นเอง ไม่ทันนึกสงสัยอะไรดาวบนมือก็ส่องประกายเจิดจ้าจนแม่ตาพร่าแทบจะหน้ามืด แล้วแม่ก็สะดุ้งตื่น”

“น่าจะเป็นนิมิตดีใช่ไหมคะคุณแม่” เดือนฉายถามเสียงตื่นเต้น

“ก็...น่าจะดี”

ลออตอบอึกอักเล็กน้อย เธอไม่ได้บอกทั้งหมดที่เกี่ยวกับคำพูดเหมือนจะฝากฝังของชายผู้นั้น... ชายผู้มีนัยน์ตาสีเขียวเข้มจัด ผมดำสนิทจนออกเลื่อมเขียวมะเมื่อมคล้ายสีสาหร่ายใต้ทะเลลึกเหยียดตรงเลยไหล่ มีอยู่ปอยหนึ่งด้านหน้าแถวขมับขวาเป็นสีเงินยวง หน้าตาคมสันราวรูปสลักเทพบุตร แววตาไม่เชิงดุหรือกระด้าง แต่ก็คมเฉียบ ดูกร้าวแกร่งแฝงไว้ด้วยแววเศร้าลึกๆ ชายผู้แต่งกายประหลาด มีเสื้อดำชายยาวถึงปลีน่องคลุมไหล่

คำพูดนั้น...ที่เธอไม่คิดจะบอกต่อลูกชายลูกสะใภ้ให้พากันไม่สบายใจไปเปล่าๆ

“ฝากดูแลนางด้วย ไม่นานหรอก”

นั่นคือประโยคเต็มๆ ที่ชายผู้มีนัยน์ตาสีเขียวเข้มจัดพูดกับเธอ

คำว่า ‘ไม่นาน’ นี้เอง ทำให้เธอไม่สบายใจ แม้ไม่อยากคิดในแง่ร้าย

“ดาว?” ลิขิตพึมพำ“จะว่าไปแล้วดวงดาวถือว่าเป็นของสูง ปรากฏบนท้องฟ้า ความฝันของคุณแม่ก็น่าจะเป็นนิมิตที่ดีนะครับ”

“แม่ก็คิดอย่างนั้น”ลออเออออไปกับบุตรชาย

เดือนฉายยิ้มปลาบปลื้ม แค่จะได้ลูกสาวเธอก็ยินดีไม่มีอะไรเปรียบ ความฝันคุณย่าของเด็ก ยังเป็นไปในทางดี เป็นศรีแก่ตัวหลานสาวที่จะเกิดมา จะไม่ให้คนเป็นแม่ดีใจได้อย่างไร

“อุ๊ย!”

ว่าที่คุณแม่ลูกสามหลุดเสียงอุทานออกมาโดยไม่ตั้งใจ ใบหน้ายิ้มเยื้อนอย่างมีความสุขเปลี่ยนเป็นหน้านิ่วคิ้วขมวด

“อะไรหรือคุณ?” ลิขิตถามเร็ว เมื่อเห็นกิริยาอาการเปลี่ยนไปของภรรยา

“เดือน... เดือนไม่แน่ใจเลยค่ะ แต่เมื่อกี้นี้คิดว่า...” เดือนฉายสลัดศีรษะ พูดต่อว่า “แต่คงไม่ใช่หรอกค่ะ สงสัยยายหนูจะถองแรงไปหน่อย ทำเอาเจ็บขึ้นมาแปล๊บหนึ่ง”

“แน่ใจนะว่าไม่ใช่เป็นการเจ็บเตือน?” ลิขิตถามภรรยาให้แน่ใจ

“คิดว่าไม่...”เดือนฉายชะงักคำพูด ไม่ใช่เพราะมีอาการเจ็บแปลบขึ้นมาอีก แต่เป็นเพราะเสียงจากภายนอก

เสียงลม... กระโชกแรง!

“สงสัยฝนจะตกเสียแล้ว”ลิขิตพูดขึ้น หลังจากมองออกไปภายนอก “ก็ดี อบอ้าวมาหลายวัน ฝนตกลงมาบ้างอากาศจะได้ค่อยยังชั่วขึ้น”

“อะไร? ฝนจะตกเรอะ?”นางลออขยับตัว แต่ยังไม่ลุกเมื่อถามขึ้นด้วยเสียงพิศวง “ก็แม่เดินมาจากบ้านเมื่อครู่นี้ ฟ้ายังแจ่มอยู่นี่นา ไม่มีเมฆสักก้อนด้วยซ้ำ”

“ยังไงก็ไม่รู้ละครับ แต่ท่าทางจะเอาแน่ ลมแรงเหลือเกิน อย่างกับพายุจะมา”

ชายหนุ่มพูดไม่ทันขาดคำ เสียงฟ้าคำรณก็ดังครืน... สนั่นหวั่นไหว เขาอ้าปาก ไม่ทันพูดอย่างใจคิดก็ต้องหันขวับไปมองภรรยา เมื่อได้ยินเสียงร้องแสดงความเจ็บปวด

“อุ๊ย! อูย...”

ขณะลูกชายละล้าละลัง ลออยังมีสติมั่นคง ปรารภขึ้นทั้งที่คิ้วยังขมวด

“ท่าทางหลานสาวย่าจะอยากออกมาชมโลกแล้วมั้ง โทรไปบอกทางโรงบาลได้แล้วลิขิต เขาจะได้เตรียมตัวพร้อมเมื่อแม่เดือนไปถึง”

“ครับๆ คุณแม่ ผมจะโทรเดี๋ยวนี้”

“คง...ไม่ทันแล้วค่ะ”

เดือนฉายขัดขึ้นเสียงหอบๆ ก่อนสามีจะทันผละไปโทรศัพท์ สองมือประคองท้องโย้ เหงื่อเม็ดโตๆ ผุดพรายตามกรอบใบหน้า

“เดือน... เดือนคิดว่าลูกพร้อมจะมาอยู่กับเราแล้ว... เดี๋ยวนี้!”

“หา!”

แม่ลูกร้องขึ้นพร้อมกัน จากนั้นก็ทำหน้าพิกลจนเดือนฉายอดหัวเราะไม่ได้ทั้งที่เริ่มเจ็บถี่

เด็กชายรุ่งรดิศ กับพ่อหนูเรืองรพี พากันทำหน้าเลิกลัก สีหน้าท่าทางทั้งตื่นเต้นและตกใจ

“คุณ...” เดือนฉายพูดกับสามี“มาช่วยพาเดือนไปที่ห้องนอนเล็กที่เดือนเตรียมไว้อยู่กับลูกหลังคลอดเถอะค่ะ”

“อะ... เอางั้นหรือ?”

มีลูกมาสองคน ลิขิตตื่นเต้นทุกครั้ง แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่เขาจะอาการหนักเท่าครั้งนี้

“ค่ะ เอางี้แหละ เร็วค่ะ มัวชักช้าลูกสาวคุณหัวโหม่งพื้นเดือนไม่รู้ด้วยนะ”

เดือนฉายยังมีอารมณ์ขัน แต่ก็ทำให้ลิขิตได้สติ รีบปราดเข้าอุ้มภรรยาเดินลิ่วตรงไปยังห้องนอนเล็กที่อยู่ติดห้องนอนใหญ่ มีประตูเปิดติดต่อกัน

“แม่จะไปเรียกคนมาช่วย”

ลออบอกลูกชายลูกสะใภ้ ก่อนลุกกระฉับกระเฉงไปตะโกนโหวกเหวกเรียกหาคนในบ้านลั่นไป พอมองออกไปข้างนอกก็ถึงกับชะงักงัน

บรรยากาศภายนอกที่เมื่อสักครู่ยังสงบ สว่างด้วยแสงอาทิตย์ยามเย็น บัดนี้มืดสนิทส่อเค้าพายุโหม

ท้องฟ้าสดใสยามค่ำขณะนี้ปรากฏแผ่นเมฆสีดำทะมึนแผ่คลุมไปทั่ว เสียงลมอื้ออึ้งหอบเศษไม้ใบหญ้าลอยสูง

ฟ้าคะนองทั้งที่ไม่มีเค้ามาก่อน แลบแปลบปลาบ มองเห็นเป็นเส้นสายสีขาวขุ่นพุ่งไปทางนั้นทางนี้ ประหนึ่งธรรมชาติกำลังพิโรธหนัก

เดือนฉายเจ็บถี่ และรุนแรงขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว ลิขิตทันแค่อุ้มภรรยาวางบนเตียงในห้องนอนเล็กไม่กี่นาที เด็กหญิงตัวน้อยๆ ผิวนวลกระจ่าง หลานผู้หญิงคนเดียวของบ้านไพศาลี ก็ถือกำเนิดเมื่อเวลาบนนาฬิกาข้างฝาบอกเวลา... 17.55 น.

เสียงร้องอุแว๊ๆ ของแม่หนู แทรกขึ้นท่ามกลางเสียงลมอื้ออึง มีเสียงสายฟ้าฟาดเปรี้ยงรับกันเป็นทอดๆ และเงียบสงบลงดื้อๆ พร้อมกับเสียงร้องแหลมเล็กของแม่หนูที่เพิ่งลืมตาดูโลกยุติลง แม้แต่เมฆดำทะมึนที่ปกคลุมท้องฟ้าแทบจะเปลี่ยนกลางวันเป็นกลางคืนก็สลายตัว คืนสีฟ้าครามยามเย็นแก่ผืนนภาอีกครั้ง