บทที่ 4 หนีไม่พ้น
เนตรได้สติ จึงยิ้มหวานให้ “คุณใหญ่นั่นเอง ตามเนตรมาเลยค่ะ” สาวรับใช้วัยรุ่นพาสองหนุ่มสาวเดินออกไปปีกด้านซ้ายของตัวตึก ขึ้นบันไดไปชั้นสอง “นี่ค่ะ ห้องคุณเนย”
เนยก้าวเข้าไป เธอถึงกับอ้าปากค้าง ‘อย่าเรียกว่า ห้องนอนเลย ให้เรียกเพ้นท์เฮ้าส์ดีกว่า’ ห้องขนาดใหญ่ มีห้องนั่งเล่นส่วนหนึ่ง ด้านหลังยังมีเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ เธอรีบก้าวเข้าไปสำรวจประตูที่ปิดเอาไว้ ‘อา....ห้องนอนในฝัน’ ห้องนอนใหญ่ มีห้องน้ำในตัว ประตูเป็นแบบบานเฟี้ยม ตั้งอ่างอาบน้ำไว้กลางห้องกระจกที่ตกแต่งแบบสวนดอกไม้
“เอาล่ะ ไม่มีคนแล้ว คราวนี้เรามาคุยกัน”
เธอหันไปมองข้างหลัง “คุยเรื่องอะไร?”
“เรื่องของเราน่ะสิ”
“ว่า....” เธอทำตาปริบๆ จนเขาอยากจะเขกหัวสักทีสองที
‘ยายเด็กนรก! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ฉันคงไม่ต้องมาเล่นเกมเสี่ยงๆ แบบนี้หรอก’
“เธอห้ามป่วนงานแต่งงานครั้งนี้เด็ดขาด แม้เธอจะไม่เต็มใจแต่งงาน แต่งานนี้ไม่ใช่แค่เรื่องผลประโยชน์ระหว่างสองตระกูลเท่านั้น ยังมี....”
“ยังมีอะไรอีก?”
“อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยเธอไม่รู้ตัวน่ะสิ”
ข้อมูลความจำถูกส่งเข้ามาอีกส่วนหนึ่ง คุณใหญ่เคยมีคู่หมั้นสามคน คนแรกประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต คนที่สองก็โดนลอบยิงขณะเลือกหนีตามผู้ชายอีกคนไป ส่วนคนที่สามก็ขอถอนหมั้น เพราะมีเสียงซุบซิบกันว่า เธอโดนก่อกวนจนต้องไปหาจิตแพทย์ สุดท้ายจำต้องเป็นฝ่ายขอถอนหมั้น ‘อึ๋ย! ผู้ชายอาถรรพณ์ นึกออกแล้ว ว่าที่เจ้าสาวของเขามักจะถูกปองร้าย’
จู่ๆ เธอก็ขนลุกขึ้นมา “ถ้าอันตรายแล้วจะแต่งไปทำไมเล่า?”
“ไม่แต่งไม่ได้” เขาเสียงแข็ง จนเธอแปลกใจ ท่าทางของเขาก็ไม่ได้พิศวาสเธอสักนิด แล้วทำไมต้องดึงดันที่จะแต่งงานกับเธอให้ได้ “เธอรับรู้ไว้แค่ว่า อย่าคิดหนี อย่าตุกติก ไม่งั้นฉันรับรองความปลอดภัยของเธอไม่ได้”
เขาเปิดสื่อสังคมออนไลน์ให้เธอดูข่าวด่วนวันนี้ รายการทีวีทุกช่องออกข่าวการหมั้นแบบสายฟ้าแลบระหว่างเขาและเธอ รวมทั้งการวางแผนจะแต่งงานภายในสองสัปดาห์นี้ แต่ข่าวสังคมซุบซิบกลับลือกันว่า เธอท้องก่อนแต่ง หรือไม่ก็เธอพลาดท่าเสียทีให้กับลูกชายของเจ้าสัวเฟยหลงแล้ว จึงต้องวางแผนให้งานให้ด่วนที่สุด
การวางแผนแต่งงานระหว่างทายาทเจ้าของบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของกลุ่มจตุรมิตร ทำให้ราคาหุ้นของสองบริษัทดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังมีการคาดการณ์อีกว่า ในไม่ช้า ทั้งสองบริษัทอาจจะมีโครงการร่วมเกิดขึ้นอีกหลายโครงการ
“เห็นหรือยังว่า ข่าวของเธอกับฉันไปไกลแค่ไหน?”
เนยหน้าซีดลง ‘นี่มันแผนทำลายชื่อเสียงชัดๆ’ เธอนึกถึงมุขที่เธอเขียนในนิยายสืบสวนสอบสวน เมื่อปล่อยทำลายชื่อเสียงแล้ว จากนั้นก็ค่อยเสนอความช่วยเหลือ เขาก็จะกลายเป็นคนดีไปในสายตาคนรอบข้าง ‘ได้เธอแล้วไม่ทิ้ง’
“คุณปล่อยข่าวใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ หรือเธออยากจะดูคลิปของเราสองคนล่ะ”
“ไม่!”
เขาเดินเข้ามาโอบเธอจากด้านหลัง มือใหญ่กุมศีรษะเธอจากด้านบนให้มองดูจอมือถือ คลิปภาพเคลื่อนไหวที่เธอในชุดราตรีแบบสั้น กำลังโน้มคอเขาเข้ามาจูบอย่างหลงใหล ส่วนเขากำลังเปลือยท่อนบนกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง
“ชัดไหม?”
“พอแล้ว”
“ฉันปล่อยไปแค่ 20 วินาที ทุกคนก็พอจะรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเราแล้ว ถ้าเธอคิดจะทำลายงานแต่งครั้งนี้ น่าจะรู้ว่า อาจจะได้เห็นอะไรดีๆ อีกยาวๆ บนโลกออนไลน์นะ”
เธอสะบัดตัวออกจากวงล้อมของเขา “ฉันรู้แล้ว” เนยนึกโมโหให้แยม ‘นี่ นางสร้างพระเอกขึ้นมายังไง ชอบใช้กำลังแบบนี้ ไม่อ่อนโยนสักนิด เรตติ้งก็ยังดีกว่านิยายฉันอีก’
ส่วนนิยายของเธอน่ะรึ! อยู่อันดับรั้งท้ายน่ะสิ ก็แนวสืบสวนสอบสวนมาลงในเว็บนี้ไม่ได้เกิดกันพอดี ‘ใครว่า นิยายฉันไม่ดีล่ะ ก็แค่ลงผิดเว็บ เพราะเว็บไซต์นี้เขาฮิตนิยายรักกันนี่นา’ ตอนที่เธอกลั้นใจมาอ่านนิยายที่ติดอันดับ 1 ในเว็บของคู่แข่งคนนี้ เธอพบว่า เธออ่านจบในรวดเดียว แถมยังหงุดหงิดที่แยมดองเรื่องไว้อีก ไม่ยอมอัปโหลดสักที ทั้งที่สองสัปดาห์เข้าไปแล้ว
ระยะนี้เป็นช่วงภาคเรียนสุดท้าย พวกเธอทุกคนต้องเร่งมือเขียนวิทยานิพนธ์เพื่อให้ส่งทันจบ ไม่เช่นนั้นจะต้องค้างเติ่งรออีกหนึ่งปี ซึ่งกลายเป็นการเสียเวลา ทุกคนต่างปั่นผลงานกันเป็นเอาตาย แน่นอนว่า เนยกับแยมก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น ‘นิยายฉันก็ยังไม่ได้อัปโหลดต่อเลยสักตอน อย่าว่าแต่แยมเลย’
‘เห็นที คืนนี้ต้องทบทวนอย่างจริงจังซะแล้วสิว่า ตัวละครเป็นยังไง เรื่องราวไปมายังไง’
“เอาล่ะ เธอรู้ก็ดีแล้ว เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของคุณใหญ่ให้ดี” เขาลูบหัวเธอเบาๆ แล้วยิ้มล้อเลียน “ไปนะ เด็กน้อย”
“ใครๆ ก็ชอบพี่ใหญ่” พี่น้ำค้างลอยหน้าลอยหน้าตอบ
“ทำไมล่ะ?”
“หล่อทำลายล้าง ดูหน้าเขาสิ จมูกเป็นสัน คิ้วเข้ม หน้าก็คม มองด้านหน้าว่าหล่อแล้ว มองด้านข้างยิ่งบาดใจ ไหนจะเท่ แต่งตัวดี มาดดี โอ๊ย! ถึงพ่อจะว่าเธอพลาด แต่พี่ว่า ไม่หรอกนะ” พี่สาวต่างแม่ของนางเอก เอ๊ย! เนยในนิยายตัวเป็น มานั่งเม้าท์ให้ฉันฟังฉอดๆ “อาจจะพลาดเป้าหมายสำคัญไป แต่การเข้าไปในครอบครัวนั้นได้ก็ไม่ธรรมดาหรอกน่า” พี่สาวผู้สวยสะเด็ดในชุดเสื้อเปลือยไหล่ข้างหนึ่ง ยักไหล่อย่างไม่เห็นด้วย
“พี่ก็เห็นว่า คุณพ่อ ยำหนูซะเละ”
****************
