ตอนที่ 3.1 ข้าขอท้าดวลกับท่านแม่ทัพหลงเยี่ยน
ตอนที่ 3.1 ข้าขอท้าดวลกับท่านแม่ทัพหลงเยี่ยน
เสียงของทหารผู้นั้นดังกังวานไปทั่วสนามฝึก ทหารทุกคนต่างมองไปยังหลงเยี่ยนที่ยืนอยู่บนเวทีประลอง เขายืนตรงและมองไปรอบ ๆ อย่างไม่สะทกสะท้าน เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้นเป็นระยะ บางคนมองหน้ากันด้วยความท้าทาย ขณะที่บางคนยิ้มอย่างมั่นใจราวกับว่าเขารอเวลานี้มานาน บางคนที่ดูร่างกายแข็งแกร่งและดูจะมีฝีมือก็เริ่มขยับตัวหมายจะขึ้นไปท้าทายแม่ทัพ
ลี่เซียนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับชายที่ขึ้นชื่อว่าสามีเริ่มมีมากขึ้น เธอรู้สึกได้ถึงพลังของเหล่าทหารที่ฮึกเหิมแผ่กระจายอยู่รอบตัวเขา แม้จะไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัวแต่การประกาศท้าดวลในลักษณะนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นธรรมเนียมของที่นี่กระมัง
สองเท้าเล็กเดินเข้าไปใกล้อีกนิด แหวกกลุ่มทหารเข้าไปใกล้สนามฝึกเพื่อดูการท้าดวลนี้ให้เห็นด้วยตาของตัวเอง เธอก็อยากรู้นักว่าฝีมือระดับแม่ทัพที่ผู้คนต่างเกรงกลัวจะสักแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เธอสนใจก็เห็นจะเป็นของรางวัลที่เขาเอามาหลอกล่อเหล่าทหารนั้น
“เหล้าฟรีสามเดือนงั้นเหรอ หรือในสมัยนี้เหล้ามันหายากขนาดนั้นเลยเหรอ”
เธอพึมพำเบา ๆ ด้วยความสงสัย แต่พอพูดถึงเรื่องเหล้าแล้วความรู้สึกเปรี้ยวปากอยากแอลกอฮอล์ก็ทำให้เธอเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ถึงแม้ในสมองจะโต้แย้งว่าความจริงแล้วจะมีใครกันที่จะเอาชนะแม่ทัพอย่างเขาได้ หรือว่านี่ก็แค่การที่เขาอยากจะข่มขวัญทหาร แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากให้ใครสักคนชนะเขาได้อยู่ดี
"เพื่อเหล้าฟรี หากมีคนชนะข้าจะขอไปแจมสักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง"
เธอเดินเข้าไปยังบริเวณพื้นที่สำหรับเหล่าทหารที่กำลังทยอยขึ้นไปท้าดวล ท่ามกลางความตื่นเต้นและเสียงโห่ร้องจากด้านล่างที่สนุกสนาน ลี่เซียนพยายามบังคับตัวเองให้ใจเย็นและเข้าไปใกล้ขอบสนามมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่พลาดที่จะจับตาดูการต่อสู้ของหลงเยี่ยนเพื่อเก็บรายละเอียดไปด้วย ท่วงท่าและการตวัดดาบของเขาช่างสง่างามและรวดเร็ว แม้ว่าบนเวทีนั้นเขาจะดูออมมือเอาไว้หลายส่วนแต่ก็ถือว่าเขาฝีมือเป็นเลิศจริง ๆ
สนามฝึกทหารเงียบลงในชั่วขณะ เมื่อหลงเยี่ยนยืนอยู่กลางเวทีประลองพร้อมท่าทางที่เยือกเย็น เขามองไปที่ทหารที่ขึ้นมาท้าดวลและแพ้พ่ายไปทีละคน จนถึงคนสุดท้ายที่ขึ้นไปก็ยังไม่สามารถตวัดอาวุธโดนตัวเขาได้แม้แต่ครั้งเดียว
ชายผู้นั้นยืนนิ่งท่ามกลางสนามฝึก ท่าทางเขายังคงสง่างามแม้ว่าความร้อนของอากาศจะทำให้เหงื่อซึมออกมาบ้าง แต่ดูเหมือนว่าเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่ากำลังเหน็ดเหนื่อยหรือว่าร้อนอยู่เลยแม้แต่น้อย ทุกการเคลื่อนไหวดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความมั่นใจและความแข็งแกร่ง
'นี่สินะมาดของท่านแม่ทัพ ปากหมาไปหน่อยแต่ก็หล่อใช้ได้ มาดแมนแฮนด์ซั่มสุด ๆ'
และในขณะที่ทหารคนสุดท้ายกำลังพยายามจู่โจมเขาด้วยดาบ เธอพยายามจับท่าทางและการเคลื่อนไหวของเขาตาไม่กะพริบ การเคลื่อนไหวนั้นรวดเร็วและแม่นยำ เขาหลบและปัดการโจมตีได้อย่างง่ายดายราวกับปัดนุ่น จนในที่สุดทหารคนสุดท้ายก็ลงมือไม่สำเร็จ เขาล้มตัวลงไปนอนที่เวทีพร้อมกับมีปลายอาวุธจ่อที่คอ
“ขอบคุณสำหรับการชี้แนะขอรับท่านแม่ทัพ”
ทหารคนนั้นลุกขึ้นขอบคุณและเดินลงไปด้วยใบหน้าหงอยเหงา หญิงสาวยืนมองอยู่ใกล้ ๆ พลางครุ่นคิดหาวิธีที่จะเอาชนะชายผู้นี้ เธอหันมองเหล่าทหารคนอื่น ๆ ว่ายังเหลือใครพอที่จะขึ้นไปประลองหรือไม่
'ไม่มีใครอีกแล้วเหรอ เหล้าฟรีแบบบุฟเฟ่ต์ตั้งสามเดือนเลยนะ ไม่มีใครชนะเขาได้จริงดิ รุมได้ไหมนะไม่มีในกติกาด้วยดิ ฮื่อ.. เหล้าจ๋า~'
ไป๋ลี่เซียนที่ยืนอยู่ข้างเวทีประลองมองชายหนุ่มอย่างนึกหาวิธี แม้เธอจะผ่านการเรียนและการแสดงฉากต่อสู้มาเยอะมาก แต่มันก็แตกต่างจากประสบการณ์จริงที่นี่ ยังไม่ทันที่เธอจะได้คิดหากลโกงใด ๆ มาเพื่อล้มเขา เสียงจากแม่ทัพหลงเยี่ยนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ข้าคิดวิธีใหม่แล้ว.. พวกเจ้าไม่ต้องเอาชนะข้า”
