บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 ย้อนอดีต

เพล้ง!!

เสียงชามตะเกียบตกกระแทกพื้นดังออกมาจากในเรือน ตามมาด้วยเสียงฝ่ามือฟาดกระทบเนื้อ และเสียงสะอึกสะอื้นแผ่วเบา

“ดูตัวเองเสียบ้าง ว่าพวกเจ้าเป็นใคร ยังคิดจะกินโจ๊กข้าวสวย? ให้อาหารหมูพวกเจ้ากิน ก็ถือว่าสิ้นเปลืองแล้ว”

“ท่านป้าหลิว คุณหนูหมดสติมาห้าวันห้าคืนแล้วเจ้าค่ะ ขอท่านได้โปรดเมตตาให้นางได้กินโจ๊กใสๆ สักหน่อยเถิด มิเช่นนั้นคุณหนูคงจะสิ้นใจแล้วจริง ๆ"

มู่เซียงสาวใช้ของไป๋หลี่เซวียนกุมหน้าที่ถูกตบจนบวมเป่ง

คุกเข่าโคกศีรษะกับพื้นอย่างเอาเป็นเอาตาย สีหน้าป้าหลิวเต็มไปด้วยความรำคาญใจ กำลังจะยกเท้าขึ้นถีบมู่เซียง

ร่างกลับชะงักงัน รีบหันศีรษะกลับไปมองทางประตูเรือนอย่างรวดเร็ว สบเข้ากับแววตาเย็นชาของไป๋หลี่เซวียน

ป้าหลีตกใจกลัว รีบชักเท้ากลับขมวดคิ้วอย่างเดือดดาล

คุณหนูใหญ่ไป๋หลี่เซวียนถึงกับยืนประคองประตูมองมาอย่างสงบนิ่ง แววตาลุ่มลึกไร้ก้นบึ้ง จ้องมาที่นางอย่างเย็นชา ราวกับหากนางพลาดพลั้ง ตกลงไปในก้นบึ้งแล้ว ร่างคงแหลกเหลวไม่เป็นชิ้นดี

ไป๋หลี่เซวียนจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางจำได้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนนางอายุสิบสาม

ดียิ่งนักนางถึงกับได้ย้อนกลับมาที่สี่ปีก่อนตอนนี้ ขานางยังไม่หัก ใบหน้ายังไม่เสียโฉม และยังมิได้ตั้งครรภ์ ยิ่งยังมิต้องเผชิญกับเหตุการณ์โหดเหี้ยมอำมหิต

แล่เนื้อนา ไปป้อนเป็นอาหารสุนัข

ท่านแม่ยังมีชีวิตอยู่ น้องชายยังมิได้เกิดมา เพียงแต่ท่านพ่อเสนาบดีไป๋กลับยกย่องอนุ กดขี่ภรรยาหลวง ส่งเสริมหลิงอี้เหนียงขึ้นมาเทียบเทียมภรรยา

ยามนี้ได้เป็นถึงไป๋ฮูหยินแล้ว และบุตรีของนางไป๋ลู่อิงก็กลายเป็นบุตรีสายหลวงของจวนสกุลไป๋ นิ้วเรียวยาวจิกแน่นเข้ากับบานประตู

ความเคียดแค้นเกลียดชังมากล้นจนมิอาจปิดบังไว้ได้!

มีผิดต้องแก้ไข มีแค้นต้องชำระ นางเคยกล่าวไว้แล้วว่าจะต้องให้พวกมันตายอนาจกว่านางเป็นสิบเท่า ...ร้อยเท่า!

“เอ๊ะ คุณหนูใหญ่ฟื้นแล้วนี่นา? นี่เจ้านอนอืดบนเตียงมาห้าวันห้าคืน

เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปทำความเคารพฮูหยินเช่นนั้นหรือ นี่เจ้าตั้งใจทำให้ฮูหยินไม่พอใจนี่นา”

ไป๋หลี่เซวียนปรายตา กลับคิดขึ้นมาได้แล้ว หลิงอี้เหนียงได้รับการส่งเสริมขึ้นเทียมเท่าภรรยาหลวงเมื่อห้าวันที่ผ่านมา

พอท่านแม่ได้รู้ ก็นั่งซึมทั้งคืนส่วนนางเองไม่เพียงมิได้ปลอบใจมารดา ซ้ำยังไปหาเรื่องทะเลาะ กล่าวต่อว่ามารดาว่า 

ให้ยอมให้หลิงอี้เหนียงเสียหน่อย จะไปมีปัญหาอะไร ทั้งหลิงอี้เหนียงและน้องอิงเอ๋อล้วนเป็นคนดี

ท่านแม่เดือดดาลจนกระอักเลือด จากนั้นก็ล้มป่วย ไม่มีกระจิตกระใจจะต่อกรอะไรอีก สุขภาพอ่อนแอลงทุกวัน

ท่านป้าหลิวโปรดตรวจให้กระจ่างด้วย ที่เซวียนเอ๋อล้มป่วยเป็นความจริง วันเฉลิมวันพระราชสมภพของฮองเฮายิ่งใกล้เข้ามา ทุกทีข้าเร่งรีบปักชุดหงส์ให้น้องสาว เพื่อจะได้ถวายแด่ฮองเฮา

จนมิได้ดูแลสุขภาพตนเอง จึงวิงเวียนหมดสติไปเจ้าค่ะ”

ไป๋หลี่เซวียนหลุบตาลง หมุนกลับไปหยิบชุดคลุมลายหงส์ที่ดูประณีตเปี่ยมกลิ่นไอสูงศักดิ์ออกมาจากในตู้ คลี่วางบนตั้งอย่างระมัดระวัง

 ยังมิทันคลี่ออกจนหมด ก็รู้สึกราวกับหงส์นั้นมีชีวิต คล้ายกับจะกระโดดออกมา แววตื่นตะลึงฉายในดวงตาป้าหลิว นางย่อมรู้ดีว่า ด้วยฝีมือของไป๋หลี่เซวียนย่อมเป็นของที่ล้ำเลิศ

ตั้งแต่สามปีที่แล้ว งานเย็บปักทั้งหมดของไป๋ลู่อิงล้วนเป็นฝีมือของไป๋หลี่เซวียน

ดังนั้น ไป๋หลี่อิงมิเพียงได้รับขนานนามว่า เป็นหญิงงามอันดับหนึ่ง แต่ยังมีฝีมือเย็บปักอันดับหนึ่งอีกด้วย 

ฮองเฮาโปรดปรานงานเย็บปักเป็นที่สุด

 ดังนั้นทั่วทั้งแผ่นดินเยี่ยนอวิ๋นจึงให้ความสำคัญกับงานเย็บปักเป็นอย่างมาก หากบ้านไหนมีผู้ที่มีฝีมือเย็บประณีต ย่อมต้องได้รับความสนใจจากเหล่าข้าราชการ

กระทั่งอาจสามารถเข้าวังได้เป็นข้าหลวงแผนกเย็บปักนำศักดิ์ศรีสู่วงศ์ตระกูล

ฉายาฝีมือเย็บปักอันดับหนึ่งนั้น ฮองเฮาทรงพระราชทานให้ด้วยองค์เอง ช่างเป็นที่เชิดหน้าชูตาหาที่เปรียบมิได้

ทว่า กลับมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่า ภายในวังยังมีพระสนมเฉินอีกนางหนึ่ง ที่แม้จะดูไม่ต้องการแก่งแย่งชิงดีกับใคร แต่กลับชมชอบการเย็บปักเป็นชีวิตจิตใจ

“เป็นเช่นไร พอจะเข้าตาท่านป้าหลิวบ้างหรือไม่? พรุ่งนี้ข้าก็จะส่งออกไป หลังจากนั้นค่อยไปขอขมาท่านแม่”

ไป๋หลี่เซวียนกล่าวเสียงเรียบ ไม่มีกระแสคุกคาม ไม่เคารพแม้แต่น้อย ป้าหลิวรู้สึกว่าไป๋หลี่เซวียนนอบน้อมต่อตนเช่นนี้

ในใจก็ให้รู้สึกปลอดโปร่งไม่น้อย กระทั่งสายตาที่ทอดมองซูหลีก็ดูอ่อนโยนขึ้น นางแค่นหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง

“ก็พอใช้ได้อยู่บ้าง ใช่แล้ว นี่เป็นของที่คุณหนูรองให้ข้ามามอบให้เจ้า หากมิใช่มีธุระของคุณหนูรอง ข้าเองก็คร้านจะมาเหยียบที่นี่เหมือนกัน”

ข้าวของมีราคาในเรือนของไป๋หลี่เซวียนถูกขนย้ายไปที่เรือนคุณหนูรองหมดแล้ว ยามนี้ที่แห่งนี้จึงดูแร้นแค้นยิ่งนัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel