ขอทานสกปรกที่ถูกรังเกียจ 2
"ลากไปทิ้งไว้สักที่ค่อยมาจัดการแล้วกัน ขบวนต้องเดินต่อ"
จวิ้นอ๋องที่เห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่แรก รู้สึกเวทนาสตรีบ้าผู้นั้นยิ่งนักจึงห้ามปรามไว้
"อย่าทำตัวไร้ศีลธรรมให้มาก พวกเราไม่ได้อยู่ในสนามรบ และนั่นก็เป็นพลเมืองคนหนึ่งของฝ่าบาท จัดพิธีส่งวิญญาณให้นาง" เขาตำหนิพอประมาณ แม้จะดูเหมือนเป็นเช่นนั้นแต่จวิ้นอ๋องก็เด็ดขาดในการสั่งสอนผู้ใต้บังคับบัญชา
พลทหารผู้นั้นรีบคุกเข่ากล่าวขออภัยในทันที ก่อนจะพาร่างที่พึ่งหมดลมหายใจไปนั้นออกไปจากถนน
ร่างของสวี่ซือเหยาถูกนำไปพักไว้ในโลงไม้ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างลวก ๆ เป็นการชั่วคราว
หลังหมดลมหายใจไป สวี่ซือเหยาก็ลืมตาขึ้นใหม่ในร่างโปร่งแสงที่ลอยอยู่เหนือพื้น นางรับรู้ว่ามีผู้ใจบุญทำพิธีส่งวิญญาณให้ แม้จะไม่ใช่งานเป็นทางการอะไรแต่แค่ไม่โยนร่างไร้วิญญาณของนางลงเหวไปให้แร้งจิกทึ้งก็ถือว่าเมตตามากแล้ว สวี่ซือเหยามองร่างตัวเองที่กำลังมอดไหม้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะนอกจากตัวนางในตอนนี้ก็คงไม่มีเครือญาติที่ไหนมายืนส่งอีกแล้ว ที่พวกเขาเผานางนั้นพอจะเข้าใจ การจะมีสุสานตัวเองนั้นต้องมีญาติพี่น้องหรือตระกูล แต่ตอนนี้นางเป็นเพียงสตรีวิปลาสคนหนึ่งเท่านั้น ได้แค่นี้ก็ดีมากแล้ว
ระหว่างที่เปลวไฟกำลังลุกไหม้โชติช่วงอยู่นั่น อยู่ ๆ ร่างวิญญาณของนางก็เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมากระชากไป สวี่ซือเหยากรีดร้องลั่นด้วยความตก สิ่งนั้นลากนางไปจนมองไม่เห็นทิวทัศน์รอบข้างได้ชัดเจน คล้ายว่าอยู่ในวังน้ำวนสีดำอย่างไรอย่างนั้น
ยังไม่ทันได้คลายสงสัย สวี่ซือเหยาก็รู้สึกวิงเวียนจนแทบอาเจียนออกมาแม้ในท้องจะไม่มีอะไรให้สำรอกออกตั้งแต่ก่อนตายแล้วก็ตาม ร่างโปร่งแสงของนางที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศครู่หนึ่ง เสมือนตกจากหน้าผาสูง ดิ่งลงไปเบื้องล่างที่ไม่รู้ว่าปลายทางคือที่ไหน
ก่อนเสี้ยวสติสุดท้ายจะหายไปอีกครั้ง สวี่ซือเหยาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่โอบประคองร่างโปร่งแสงของนางเอาไว้จนการกระทั่งการรับรู้จากประสาทสัมผัสทั้งหมดถูกตัดขาดโดยแท้จริง...
หนังสือเล่มหนาถูกปิดลงหลังอ่านถึงตัวอักษรสุดท้าย ตอนจบบริบูรณ์ของนิยายที่ไม่มีเอ่ยถึงตัวละครอย่างสวี่ซือเหยา เป็นเพียงตัวประกอบที่โผล่ออกมาแค่ไม่กี่บทให้รู้เหตุจูงใจของตัวร้ายเท่านั้น สวี่ซือเหยาไม่รู้ว่าควรประหลาดใจกับอะไรก่อนดี ระหว่างการค้นพบว่าโลกของเธอเป็นเพียงนวนิยายเรื่องหนึ่งในโลกใบนี้ แล้วโลกใบนี้ก็อาจเป็นเพียงนวนิยายในโลกอื่นด้วยเหมือนกัน
หญิงสาวอดีตคุณหนูสกุลสวี่ ลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้งในร่างทารกหญิงคนหนึ่ง ที่พ่อแม่บังเอิญตั้งชื่อให้เหมือนกับชาติก่อนไม่มีผิดเพี้ยน เธอเติบโตขึ้นมาในบทบาทของหญิงสาวธรรมดาใช้ชีวิตสมวัยโดยที่ความทรงจำยังหลงเหลือ
คิดดูดี ๆ แล้วที่กล่าวมาอาจไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่สุดยอดมากมายอะไร เพราะหากนิยายเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดแล้วล่ะก็ เธอก็ได้ค้นพบความจริงบางอย่างที่น่าตกใจกว่า พี่ชายของเธอที่เคยเกลียดเขานักหนา หลังเธอตายเขากลับตามแก้แค้นทุกคน เอาคืนให้อย่างเลือดเย็น ตระกูลหลักถูกเล่นงานยับเยินอย่างไร้ความปรานี แต่สุดท้ายเขาที่ถูกวางบทให้เป็นตัวร้ายก็ตายอย่างน่าเศร้า
สวี่ซือเหยาเจ็บในอกทุกครั้งที่นึกถึงฉากเหล่านั้นผ่านตัวอักษร หากเธอใช้สมองพิจารณาสักหน่อย อาจไม่ตามืดบอดกระทั่งตาย อาจทำให้เขาไม่ต้องมีจุดจบน่าเศร้า และเธอเองก็ไม่ต้องตายอย่างน่าสมเพช ถูกคนที่เชื่อใจหลอกใช้และปอกลอกจนกระทั่งหมดประโยชน์
ส่วนคนที่ได้เจอก่อนตายและมอบความเมตตาจัดพิธีส่งวิญญาณให้เป็นครั้งสุดท้าย คือพระเอกของนิยายเรื่องนั้นที่กลับมาจากสนามรบหลังเสร็จศึกสงคราม และไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นอดีตสามีที่ความจำเสื่อมจำเธอไม่ได้และเริ่มต้นใหม่กับนางเอกอย่างมีความสุข
"เฮ่อ…" สวี่ซือเหยาถอนหายใจ เหยียดขาออกบนที่นอนหนานุ่ม ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรกับอดีตสามีที่สูญเสียความทรงจำลืมเธอกับลูกไปหมดสิ้น ขณะที่เธอจดจำได้ทุกอย่างและตายอย่างน่าสังเวท แต่นั่นเป็นเรื่องอดีตเพราะเธอตายแล้วคงกลับไปแก้ไขหรือแก้ตัวใหม่ไม่ได้ แม้อยากจะกล่าวขอบคุณพี่ชาย แต่ตะโกนให้ตายเขาก็คงไม่ได้ยิน
มีหรือไม่นะ วิธีที่จะส่งความในใจกลับไปหา...
