บทนำ
“เดี๋ยวค่ะคุณหนู รอ อิงอิงด้วยสิคะ พอได้ของนี่เดินตัวปลิวเชียว”
เสียงเจื้อยแจ้วดังออกจากปากสาวใช้ที่กำลังวิ่งเหงื่อตกออกมาจาก ‘สำนักตาเฒ่าทันใจ’ วิ่งตามร่างเพรียวระหงของผู้เป็นเจ้านายสาว
วันนี้วันพฤหัส
สีเสริมอำนาจ คือสีฟ้า น้ำเงิน
สีเสริมดวงโชคลาภ คือ สีแดง
ส่วนสีที่ส่งเสริมให้มีผู้อุปถัมภ์ช่วยเหลือ คือสีเขียว
คุณหนูหงเฟินของเธอไม่ได้มาขอให้ถูกหวย หรือขอให้ได้งาน แต่เธอมาสำนักแห่งนี้เพื่อขอพรกับตาเฒ่าให้ช่วยเหลือเธอ วันนี้ร่างสูงเพรียวจึงสวมใส่สีเขียวอ่อนทั้งชุด ไม่เว้นแม้กระทั่งรองเท้าส้นสูง
เธอลงทุนขนาดนี้ตาเฒ่าไม่เห็นใจช่วยเธอ ท่านคงใจร้ายเกินไปแล้ว
“อย่าบ่นมากสิยะ เดี๋ยวท่านรำคาญหรอก เสกอะไรเข้าท้องไม่รู้นา” หญิงสาวในชุดสีเขียวพูดติดตลก เธอหยุดยืนพ้อยเท้าที่อยู่บนส้นสูงราวกับตัวเองกำลังเดินอยู่บนรันเวย์ เพื่อรอสาวใช้ประจำตัว
ชุดนี้เธอสั่งตัดมาจากห้องเสื้อที่โด่งดังเรื่องแฟชั่นจ๋า จะไม่ให้คนใส่อย่างเธอภูมิใจได้อย่างไรหล่ะ
ถึงเธอจะใส่ชุดเขียวแต่เธอก็ขอเขียวแบบไม่เหมือนคนบ้าละกัน
หงเฟินเลิกสนใจสาวใช้ก่อนจะก้มลงมาสนใจตะกรุดในมือ
‘ตะกรุดตาเฒ่าทันใจ’
ขออะไรได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือหรือร้าย ซึ่งครั้งนี้ที่เธอดั้นด้นมาจากเมืองกรุงมายังสำนักบ้านนอก ห่างไกลจากความเจริญอย่างนี้ สิ่งที่เธอต้องการแน่นอนว่าไม่ธรรมดา
‘เธอจะขอให้ตัวเองโชคร้าย’
ใครได้ยินคงหาว่าเธอบ้า มีแต่เขาอยากโชคดี แต่เธอมีเหตุผลเพราะในวันพรุ่งนี้เป็นวันสอบเข้าเรียนแพทย์ของเธอ
ใช่ ป่าป๊ากับหม่าม้าเธอเป็นหมอ ตระกูลทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงพยาบาลเกือบสิบสาขา จึงมีกฎว่าทุกรุ่นจะต้องมีคนเรียนแพทย์ด้วย หลังจากนั้นค่อยต่อโทบริหารหรืออะไรก็ว่าไป
บรรพบุรุษสายตรงของป๊าม้าล้วนเป็นแพทย์ พวกท่านล้วนมีอุดมคติ มีจิตวิญญาณแพทย์ผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่
แถมพี่น้องเธอรุ่นนี้ล้วนไม่มีใครอยากเรียนหมอเลยน่ะสิ
เธอเคยบอกไปแล้วนะว่าเธออยากทำธุรกิจที่หลุดจากสายอาชีพนี้ เพราะเธอเคยไปดูหมอดูมาว่าตัวเธอเองจะร่ำรวยจากการทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยว
หนูไม่รักหม่าม้าแล้วเหรอลูก เชื่อม๊า สอบหมอให้ม๊านะ ถ้าไม่ติดค่อยไปเรียนตามทางของหนู
หม่าม้าไม่ยอมช่วยพูดให้เธอ หงเฟินจึงต้องพึ่งโชคชะตา
แต่นั่นแหละ ทางออกทางเดียวของเธอ สอบไม่ติด
เธอกลัวผิดพลาดน่ะสิ….เธอคงกาช้อยมั่วๆก็จริง แต่เพื่อความมั่นใจว่า น้องกำไลหินโรสควอตซ์ที่ข้อมือที่เพิ่งสอยมาเมื่อวานเส้นนี้หรือของมงคลชิ้นอื่นๆในบ้านเธอจะไม่ดลบันดาลให้เธอกาหลบข้อผิด ถึงจะฟังดูบ้าบอมาก แต่ก็ทำให้เธอดั้นด้นต้องมาเช่า ตะกรุดตาเฒ่า ต้องมาบูชา ถึงที่นี่
หงเฟินคิดถึงบรรยากาศสำนักตาเฒ่าที่เพิ่งเดินออกมาเมื่อกี้ก็รู้สึกขนลุก แถมตรงประตูทางเข้า-ออกของสำนัก ยังมีศาลเล็กๆตั้งอยู่จึงทำให้มือบางอดไม่ได้ยกขึ้นมาคำนับ
เพี่ยงงงง ขอให้ลูกช้างโชคร้าย กาข้อไหนขอให้ตอบผิดด้วยเทอญ
อธิฐานจนพอใจ หงเฟินจึงเตรียมตัวก้าวเดินเพื่อออกจากสำนักไปยังรถคันหรูที่จอดอยู่ไม่ไกล แต่ไม่วายหันไปควักมือเร่งสาวใช้ประจำตัวให้รีบตามมาด้วย ทำให้เธอไม่ได้มองพื้นด้านหน้าให้ดีก่อนออกก้าว
เธอจึงไม่รู้ว่าพื้นเบื้องหน้าเธอ มีเปลือกกล้วยสดๆใหม่ๆตกอยู่
อร้ายยยยยย
และนี่ก็เป็นโชคร้ายจากความมักง่ายของคนกินกล้วยแล้วไม่ทิ้งให้เป็นที่ ทำให้ร่างหงเฟินเสียหลักล้มเมื่อเหยียบเข้าเต็มเปา ศีรษะโขกเข้าพอดีกับหินข้างทาง
และทุกอย่างก็ดับวูบไป
