บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ต่างไปจากเมื่อวาน - 1

ตอนที่ 5

ต่างไปจากเมื่อวาน

ตลอดวันนั้นเฉินเสวี่ยไป๋คลุกตัวอยู่แต่ในเรือนกับบ่าวคนสนิท ไม่ยอมออกจากเรือนไปไหน ตกกลางคืนก็ให้สาวใช้นอนเป็นเพื่อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

พอถึงกลางยามอิ๋น (04.00) ร่างบางก็ตื่นขึ้นมา ท่ามกลางความประหลาดใจของสาวใช้ในเรือนชิงหลาน ที่ไม่เคยเห็นเจ้านายตื่นเช้าขนาดนี้มาก่อน

“คุณหนูไม่สบายตรงไหนหรือไม่เจ้าคะ” ระหว่างที่ช่วยคุณหนูล้างหน้าเช็ดตัว หยุนหลี่เอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ไม่นี่ ทำไมหรือ” คิ้วเรียงสวยยกขึ้นสูงเมื่อสาวใช้เอ่ยถามแบบนั้น

“ปกติคุณหนูจะตื่นหลังยามซื่อไปแล้ว แต่วันนี้คุณหนูกลับ...”

หยุนหลี่พูดไม่ทันจบ เฉินเสวี่ยไป๋ก็กล่าวทีเล่นทีจริงขัดจังหวะขึ้นมา “ก็เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือ ว่าไม่มีคุณหนูจวนใดตื่นสายเช่นข้า วันนี้ข้าก็เลยต้องตื่นแต่เช้าอย่างไรเล่า”

สาวใช้ขั้นสองสี่นาง ที่มีหน้าที่คอยรับใช้เรือนชิงหลานพากันยืนตัวเกร็ง ลมหายใจสะดุด ลุ้นแทนสาวใช้ขั้นหนึ่งว่าจะถูกลงโทษโบยหรือไม่ เพราะปกติแล้วหากบ่าวในเรือนคนใดทำให้คุณหนูไม่พอใจ จะถูกสั่งโบยอย่างไร้ความปรานี

ประมุขของเรือนชิงหลานย่อมสัมผัสได้ถึงความกลัวของผู้ใต้บังคับบัญชา จะไปโทษพวกนางเหล่านี้ก็ไม่ได้ เพราะเมื่อชาติก่อนนั้น นางโมโหร้าย เป็นคุณหนูที่เอาแต่ใจจริง ๆ

“เฮ้อ!--พวกเจ้าเลิกทำตัวเกร็งยามอยู่ต่อหน้าข้าได้แล้ว ข้าไม่ใช่มารร้ายเสียหน่อย”

เมื่ออยู่ ๆ นางโพล่งขึ้นมาแบบนั้น สาวใช้ทั้งสี่นางยิ่งพากันยืนตัวลีบเบียดเสียดเข้าหากันมากขึ้นไปอีก ร่างทั้งร่างสั่นระริก ราวกับว่าถูกสั่งลงโทษไปแล้วเสียอย่างนั้น

ปัง!...เพราะนึกสนุกอย่างแกล้งให้คนพวกนี้ตกใจกลัวมากกว่าจะโมโหจริง ๆ จึงฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะ จนเกิดเสียงดัง ทำเอาสาวใช้ที่กลัวขึ้นสมอง รีบพากันนั่งคุกเข่าโขกศีรษะอย่างเอาเป็นเอาตาย

“ขออภัยเจ้าค่ะ ถ้าพวกบ่าวทำให้คุณหนูไม่พอใจ”

“ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะแรกของการย้อนเวลากลับมามีชีวิตอีกครั้งดังกังวานไปทั่วเรือนชิงหลาน “พวกเจ้านี้นา กลัวข้าถึงเพียงนี้เชียว เอาละ ๆ ข้าไม่แกล้งพวกเจ้าแล้ว ลุกขึ้นมาเถอะ และต่อไปก็ไม่ต้องกลัวข้าอีก ข้าจะปรับปรุงตัวเป็นคนใหม่ เป็นเจ้านายที่ดี ไม่ลงโทษพวกเจ้า หากไม่ได้ทำผิดร้ายแรงจริง ๆ”

“คุณหนูสั่งให้ลุก พวกเจ้าก็รีบ ๆ ลุกขึ้นมาเถอะ” หยุนหลี่เห็นคนพวกนี้ยังไม่กล้าแหงนหน้าขึ้นมา ก็รีบเข้าไปช่วยประคองให้สาวใช้ขั้นสองทั้งสี่ ลุกขึ้นมายืนทีละคน พยายามกลั้นอาการอยากจะหัวเราะเอาไว้ หลังจากผ่านมาหนึ่งคืน ที่คุณหนูเปลี่ยนแปลงไป นางก็เริ่มทำใจยอมรับได้ และกลับรู้สึกว่าเป็นการดีที่คุณหนูยอมปรับปรุงตัวเป็นคนใหม่

“เอาละ ๆ พวกเจ้ามีอะไรก็ไปทำเถอะ หยุนหลี่ เจ้ามาช่วยข้าแต่งตัว”

หลังจากเอ่ยปากไล่สาวใช้ทั้งสี่แล้ว เฉินเสวี่ยไป๋ก็หันมาสนใจเรื่องการแต่งตัว โดยเสื้อผ้าที่มีให้เลือก กลับมีแต่สีเข้มฉูดฉาดบาดตาทั้งนั้น มือเรียวหยิบชุดนั้นวางชุดนี้อยู่นาน ก็ตัดสินใจไม่ได้ สุดท้ายก็วางลงที่เดิมทุกชุด

“เบื่อชุดพวกนี้แล้วหรือเจ้าคะ บ่าวจะได้ไปตามช่างตัดเสื้อมาตัดชุดใหม่ให้” หยุนหลี่เอ่ยถามขึ้น

“ตัดใหม่ก็ดี เจ้าช่วยเลือกพับผ้าสีอ่อนมาให้ข้าเลือกที...”

ปกติแล้วตั้งแต่เฉินเสวี่ยไป๋ยังเด็ก มักชอบสวมใส่อาภรณ์สีอ่อนมากกว่า แต่พอถูกท่านน้า น้องสาวของมารดาแท้ ๆ ปลูกฝังว่าหวังห่าวเทียนชอบสตรีที่แต่งกายด้วยอาภรณ์สีเข้มบาดตา นางก็เปลี่ยนตนเอง สั่งให้นำชุดสีอ่อนหวานไปทิ้งให้หมด แล้วซื้อผ้าสีสันบาดตามาตัดเย็บเสื้อผ้าแทน

‘หวังห่าวเทียน ชอบสตรีหวานละมุนเหมือนดอกกล้วยไม้ป่าอย่างน้องสาวดอกบัวขาวของข้านี้นา’

เรื่องที่ถูกท่านน้าหลอกว่าท่านแม่ทัพชอบสตรีแต่งกายโทนสีเข้ม นางพึ่งรู้ความจริงตอนแต่งเข้าไปในจวนหวังแล้ว คืนนั้นนางสวมใส่ชุดสีแดงเพลิงเป็นฝ่ายปีนขึ้นเตียงเขา จนถูกเขาถีบลงจากเตียง กลิ้งไปหลายตลบ และยังถูกชี้นิ้วด่า

‘ผู้หญิงไร้ยางอาย ข้าชิงชังขยะแขยงเจ้ายิ่งนัก นอกจากจะแต่งกายน่าเกลียดดูไม่ได้แล้ว นิสัยยังแย่ยิ่งกว่า ข้าเกลียด--เกลียดสตรีที่แต่งกายสีสันแบบนี้มากที่สุด’

หยุนหลี่กำลังจะเอาชุดที่หยิบมาให้คุณหนูเลือก กลับไปเก็บให้เรียบร้อย เฉินเสวี่ยไป๋รีบร้องห้ามขึ้นมาก่อน

“ไม่ต้องแล้ว ข้าจะใส่ชุดพวกนี้แหละ” ในเมื่อหวังห่าวเทียนไม่ชอบสตรีที่แต่งกายเยี่ยงนาง นางก็จะแต่งแบบนี้ต่อไป แม้ภายในใจลึก ๆ จะไม่ชอบก็ตาม

หลังจากแต่งตัวด้วยชุดฮั่นฝูสีน้ำเงินเข้มเรียบร้อยแล้ว เฉินเสวี่ยไป๋ก็เดินนำสาวใช้คนสนิทไปยังเรือนหลัก ซึ่งทุกคนในจวนเฉินน่าจะรวมตัวกันอยู่ที่ห้องอาหารเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่ร่างบางเยื้องกรายเข้าไปภายในห้อง คนสามคนที่นั่งล้อมวงรอบโต๊ะตัวกลม ซึ่งมีจานอาหารหลากหลายเมนูจัดวางเอาไว้อย่างเรียบร้อย ก็พากันหันมามองเป็นตาเดียว

“เสวี่ยไป๋คารวะท่านพ่อ ท่านแม่เจ้าค่ะ” สตรีที่เข้ามาทีหลังยอบกายลงให้ผู้อาวุโสกว่าทั้งสอง ก่อนจะกลับมายืนแผ่นหลังเหยียดตรง

สตรีวัยแรกแย้มที่นั่งอยู่ข้างหญิงวัยกลางคน ส่งสายตาแห่งการไม่ชอบหน้ามาให้ พร้อมคำพูดกึ่งประชดประชัน

“ตายจริง วันนี้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายหรืออย่างไร พี่หญิงข้าถึงตื่นแต่เช้าได้”

เพียะ!...ผลที่ได้ ทำให้ผู้ที่กล่าวประโยคข้างต้น ถูกฝ่ามือของหญิงวัยกลางคนฟาดลงบนท่อนแขนอย่างแรง หนำซ้ำยังถูกเอ็ดเสียงเขียว

“พูดเช่นนั้นกับไป๋เอ๋อร์ได้อย่างไร ขอโทษพี่สาวเจ้าเดี๋ยวนี้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel