บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ต่างไปจากเมื่อวาน - 2

เฉินซือหยาถูกเอ็ดตะโรตั้งแต่เช้าก็หน้างิกหน้างอ หันไปตัดพ้อมารดาผู้ให้กำเนิด “ท่านแม่ ตกลงว่าใครกันแน่ ที่เป็นลูกสาวของท่าน ข้าแค่หยอกล้อพี่หญิงเล่น ไม่เห็นต้องคิดจริงจังเช่นนี้เลย”

“เจ้าไม่ควรพูดจาไม่รู้กาลเทศะกับคุณหนูใหญ่ของจวนเช่นนี้ ผู้คนจะนำไปนินทาเอาได้”

“ท่านพ่อ” เมื่อคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เฉินซือหยาก็หันไปออดอ้อนบิดา ที่นั่งกินข้าวอยู่เงียบ ๆ สีหน้าแววตาดูอิดโรยยิ่งหนัก “ดูท่านแม่สิเจ้าค่ะ ลูกแค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง”

ชายวัยกลางคนถอนหายใจ หันไปทางฮูหยิน “พอเถอะ ที่หยาเอ๋อร์พูดมาก็มีส่วนถูก ปกติไป๋เอ๋อร์ไม่เคยตื่นเช้าแบบนี้เลย นางคงแค่ประหลาดใจ แต่เลือกใช้คำพูดไม่ถูก” ซือหยารีบพยักหน้าขึ้นลง รับคำพูดของบิดา

‘เฉินหยวนเจี๋ย’ เลิกใส่ใจบุตรสาวคนรอง หันมาเพ่งพิศบุตรสาวคนโต ซึ่งเกิดจากอดีตฮูหยินคนเก่า นางอันเป็นที่รัก ที่มาด่วนจากเขาไปเร็วเหลือเกิน

“กินข้าวเช้ามาหรือยัง นั่งก่อนสิ พ่อจะให้คนจัดจานเพิ่ม”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ”

เฉินเสวี่ยไป๋ที่ยืนดูละครฉากใหญ่อยู่นาน เดินมานั่งลงบนเก้าอี้ถัดจากบิดา หากเป็นเมื่อชาติก่อน ตอนยังไม่แต่งงานออกจากเรือน นางคงซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ที่แม่เลี้ยงรักและดีกับนางมากกว่าลูกแท้ ๆ ของตัวเอง งานอะไรท่านน้าก็ไม่ให้นางทำ บอกว่ามีสาวใช้คอยทำให้ทุกอย่างแล้ว และคอยตามใจนางทุกอย่าง จนคิดว่านั้นคือความรักอันบริสุทธิ์

กระทั่งได้แต่งงานออกเรือนไปเป็นฮูหยินของหวังห่าวเทียน และเฉินซือหยาเข้าไปเป็นอนุ นางถึงได้หูตาสว่าง เมื่อได้ยินสิ่งที่บ่าวไพร่ในจวนหวัง พากันซุบซิบนินทา

‘ฮูหยินเป็นสตรีเช่นไรกันนี่ หยิบจับทำอะไรไม่เป็นเลย แม้แต่งานปักเย็บซึ่งคุณหนูในห้องหอถนัด สู้อนุเฉินก็ไม่ได้ รายนั้นทำได้ทุกอย่าง แม้แต่เข้าครัว เหมาะที่จะเป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพมากกว่าอีก’

นอกจากจะได้ยินคำนินทาพวกนี้ในตอนแรก ๆ แล้ว ยังมาได้ยินสิ่งที่เฉินซือหยากับมารดาของนางพูดคุยกันกับหูของตนเองอีก

‘ท่านแม่ขอบคุณนะเจ้าคะ ข้ารู้แล้วที่ผ่านมา ท่านแม่ไม่ได้ลำเอียงรักพี่หญิงมากกว่าลูกในไส้ ตอนนี้บ่าวทุกคนในจวนหวังต่างพากันชื่นชมข้า หวังฮูหยินก็น่าจะเช่นกัน ส่วนพี่หญิงนะหรือ กลายเป็นที่ทุกคนดูแคลนไปแล้ว’

‘ลูกเข้าใจก็ดีแล้ว จะมีแม่ที่ไหนที่ไม่รักลูกของตนเองเล่า ที่แม่คอยตามใจเสวี่ยไป๋ ก็เพราะต้องการให้นางเสียคน ดูแย่ในสายตาคนอื่น รวมไปถึงท่านพ่อของลูก แล้วคราวนี้ลูกของแม่ก็จะกลายเป็นคนดีที่น่าสงสารในสายตาผู้อื่น แต่แม่เจ็บใจอยู่อย่างเดียว ที่พ่อของลูกดันไปชิงขอสมรสพระราชทานจากฝ่าบาทให้นางก่อน ไม่อย่างนั้นท่านแม่ทัพคงส่งเถ้าแก่มาสู่ขอลูกไปเป็นฮูหยินเอกแทนแล้ว’

‘นั่นนะสิเจ้าค่ะ ท่านพ่อนะท่านพ่อ ป่วยออด ๆ แอด ๆ แบบนั้นยังจะยื่นมือเข้ามายุ่งอีก--แต่เอ๊ะ หรือว่าที่ท่านพ่อเข้ามายุ่งเรื่องนี้ เพราะคิดว่าตนเองจะตาย เลยอยากหาคนดีมีฐานะมาดูแลพี่หญิง’

‘หา!--ถ้าเป็นแบบนั้นแม่ก็พลาดสิ ที่หาท่านหมอปลอมมาแอบอ้างรักษาอาการป่วยพ่อของลูก’

ตอนนี้เฉินเสวี่ยไป๋หูตาสว่างแล้ว และได้รู้ความจริงว่า ที่อาการป่วยกระเสาะกระแสะของท่านพ่อไม่ดีขึ้น แม้จะลาออกจากตำแหน่งราชครูของฮ่องเต้ มาพักรักษาตัวให้เต็มที่ เป็นเพราะหมอปลอมที่เจี่ยนฮูหยิน ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งฮูหยินต่อจากพี่สาวเป็นคนจัดหามา

ดวงตาหงส์สำรวจใบหน้าซีดเซียวของผู้เป็นพ่อ ในชาติก่อนนางไม่เคยสนใจปรนนิบัติดูแล ทั้งในตอนที่อยู่ในจวนหรือออกเรือนไปแล้ว จนแต่งงานไปได้หนึ่งปี บิดาก็เสียชีวิตลง ตามไปอยู่กับท่านแม่ของนาง

ครั้งนี้...นางจะขอโอกาสกลับมาทำหน้าที่ลูกสาวที่ดีบ้าง จะคอยดูแลท่านพ่อให้ดีที่สุด ชดเชยคืนวันที่ผ่านมา นางจะหาหมอเก่ง ๆ มารักษาอาการป่วย พอท่านพ่อหายป่วย ก็จะได้ไม่ต้องกังวลใจ กลัวว่าจะไม่มีใครคอยดูแลลูกไม่เอาไหนเช่นนางอีก งานแต่งสมรสพระราชทานก็จะไม่เกิดขึ้น

มือเรียวเอื้อมไปตักเนื้อหมูซึ่งมีแต่มันออกจากชามข้าวสวยของบิดา แล้วตักผัดผักกับแกะเนื้อปลานำไปใส่ในชามข้าวแทน

“ท่านพ่อไม่ค่อยสบาย ควรกินอาหารที่ย่อยง่ายและไม่มีมันมากนักจะดีกว่านะเจ้าคะ” พูดพลางส่งยิ้มอ่อนโยนให้ผู้เป็นพ่อ

“มาเอาใจพ่อแบบนี้ ต้องการสิ่งใดตอบแทนเล่า” เฉินหยวนเจี๋ยเอ่ยถามบุตรสาวไปแบบนั้น แต่ภายในใจรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่บุตรสาวคนโตมาเอาอกเอาใจใส่เช่นนี้ มือตักผัดผักขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย

“ลูกไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนเจ้าค่ะ แค่ต้องการให้ท่านพ่อหายป่วย กลับมาแข็งแรงอยู่กับลูกไปนาน ๆ ต่อไปลูกจะหมั่นมาปรนนิบัติดูแลท่านพ่อเอง”

คำตอบของเฉินเสวี่ยไป๋ทำให้สองคนแม่ลูกลอบสบสายตากัน เฉินซือหยาทำปากเบ้ คล้ายไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ส่วน ‘เจี่ยนอันหนิง’ กลับมีแววตาของความกังวล เมื่ออยู่ ๆ ลูกเลี้ยงก็หันมาสนใจอาการป่วยกระเซาะกระแซะของบิดา ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยเห็นจะสนใจ แต่นางเป็นคนที่ซ่อนความรู้สึกได้เก่งกว่าบุตรสาว รีบฉีกยิ้มกว้างกล่าวเสียงอ่อนหวานออกมา

“ไป๋เอ๋อร์ของแม่โตแล้วจริง ๆ แม่ดีใจจนน้ำตาจะไหล เรื่องของท่านพ่อลูกไม่ต้องเป็นห่วงหรือเป็นกังวลไปหรอกนะ หมอที่แม่หามา ขึ้นชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ไม่นานท่านพ่อของลูกจะกลับมาหายดีอย่างแน่นอน”

เฉินเสวี่ยไป๋หันไปมองหญิงวัยกลางคนซึ่งนั่งถัดจากบิดาไป ฉีกยิ้มที่ไม่ถึงดวงตา ก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่หวานจนเลี่ยน

“ลูกต่างหากที่ต้องขอบใจท่านแม่ ที่ทำหน้าที่ฮูหยินใหญ่คนใหม่ของจวนเฉินได้เป็นอย่างดี ทั้งดูแลท่านพ่อ ดูแลทั้งลูกที่ไม่ได้เป็นลูกแท้ ๆ เป็นอย่างดี ตอนนี้ลูกคิดได้แล้ว ว่าที่ผ่านมาทำตัวเหลวไหลมากแค่ไหน ต่อจากนี้ไป ลูกจะช่วยแบ่งเบาภาระของท่านแม่เอง ให้สมกับเป็นคุณหนูใหญ่ของสกุลเฉิน ท่านแม่วางใจได้เจ้าค่ะ”

รอยยิ้มเย็นของหญิงสาวคราวลูกตรงหน้า เจี่ยนอันหนิงไม่ชอบใจเลยแม้แต่น้อย ยิ่งแววตาคู่นั้นที่จ้องมองนาง ต่างไปจากเมื่อวันวานมาก ยิ่งทำให้นางรู้สึกหวาดระแวง ว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามแผน ‘หรือว่านางจะรู้ความจริง ไม่น่าจะใช่--ในเมื่อข้าแสดงละครได้แนบเนียนแล้ว แต่เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่านางต่างไปจากเดิม’...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel