บทนำ หวนคืนกลับมา....อย่าได้เหลือเยื่อใย
บทนำ
หวนคืนกลับมา....อย่าได้เหลือเยื่อใย
สายลมเย็นพัดเอากลิ่นยอดหญ้าจากทุ่งโล่งกว้างมากระทบปลายนาสิก โบกสะบัดพัดพาเส้นผมดำขลับให้ปลิวสยายไปตามแรงลม ยามนั้นใบหยินซิ่งสีเหลืองทองปลิดปลิวกระทบลงบนเรือนกายสตรีงดงามที่นั่งคุกเข่าปิดเปลือกตาพริ้มโดยมีบุรุษหนุ่มหน้าตาหล่อเหลานั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ กันแสดงถึงความชิดใกล้สนิทสนม
พลันดวงตากลมโตกลับเบิกขึ้นอย่างรวดเร็ว เฟิ่งเยว่สือในวัยสิบห้าปีหยัดกายลุกขึ้นยืน หมุนมองไปรอบๆ ตัวด้วยความงุนงงสับสนก่อนจะพบว่าโจวมู่เฉินยังคงหนุ่มแน่นเยาว์วัย
นางแหงนมองต้นหยินซิ่งสูงตระหง่านที่บัดนี้ใบเขียวแปรเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองสว่างไสว ก่อนจะหมุนกายไปรอบๆ หลายครั้ง รับรู้ได้ถึงความกระฉับกระเฉงคล่องตัวเต็มไปด้วยชีวิตชีวา สะโพกที่เคยปวดแปลบยามลงน้ำหนักที่ขาขวาไม่ปวดอีกเลย แม้แต่การสูดลมหายใจก็สามารถสูดเข้าไปได้เต็มปอด หาใช่ลมหายใจที่หอบกระชั้นอยู่ตลอดเวลา
“ขะ...ข้าย้อนเวลากลับมาหรือ”
หญิงสาวก้มลงมองฝ่ามือของตนเอง มันไม่ได้แตกระแหงจากการทำงานบ้านงานครัวรับใช้สามีและบุตรธิดา อีกทั้งยังถูกมารดาสามีโขกสับนานนับสิบปี
แต่มือคู่นี้ยังคงนุ่มนิ่มเรียวยาวเพราะถึงอย่างไรนางก็เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของพ่อค้าผู้มั่งคั่งแห่งเมืองหลันเล่อ มีข้าทาสบริวารคอยดูแลรับใช้ไม่เคยต้องเหนื่อยยาก
‘หากเป็นช่วงเวลานี้ ณ ใต้ต้นหยินซิ่ง...นั่นหมายความว่าข้าเพิ่งมีอายุสิบห้าปี อีกสองวันข้าจะเข้าพิธีปักปิ่น!’
หญิงสาวยกมือขึ้นจับเรือนผมที่ถักเปียม้วนเป็นวงโค้งสองข้างผูกด้วยผ้าไหมเนื้อดีอย่างเด็กหญิงที่ยังไม่โตเป็นสาวนิยมทำกัน ก่อนจะเลื่อนมือลงมาจับแก้มที่ยังป่องพองของตนเองอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ทันใดนั้นเองโจวมู่เฉินก็ลืมตาขึ้น เขาหยัดกายลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางตกใจไม่ต่างกัน
“นะ...นี่มันอะไรกัน!”
ชายหนุ่มเบิกตาโตมองใบหน้าภรรยา ความเยาว์วัยและความงดงามทำให้เขาถึงกับขมวดคิ้วมุ่น ด้วยจำได้ว่าหลังจากภรรยาคลอดบุตรคนที่สองก็ล้มเจ็บออดๆ แอดๆ ร่างกายทรุดโทรมผ่ายผอมเรื่อยมา
และที่สำคัญนางดื่มยาพิษที่เขามอบให้จนโลหิตทะลวงออกทั้งห้าทวาร นางควรจะตายไปแล้วแต่เหตุใดจึงมายืนอยู่ตรงหน้าเขาใต้ต้นหยินซิ่งอายุกว่าหลายร้อยปี
สถานที่ที่เขาและนางเคยให้คำมั่นสัญญาแก่กันว่าจะรักมั่นตราบจนกว่าจะสิ้นสุดลมหายใจสุดท้าย
แล้วเขาเล่า!
เขาถูกนางใช้กริชสั้นแทงที่หัวใจมิใช่หรือ คิดพลางยกมือขึ้นกุมอกซ้าย เมื่อพบว่าบนอกหาได้มีอาวุธแหลมคมปักอยู่ก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ขะ...ข้ายังไม่ตาย ขะ...ข้าย้อนเวลากลับมา!”
โจวมู่เฉินเอ่ยออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ ว่าเขาจะพานพบกับเรื่องราวมหัศจรรย์เช่นนี้ รูปร่างของเขายังคงผอมบางดั่งหนุ่มน้อย กลางฝ่ามือปราศจากรอยแผลเป็นจากการช่วยชีวิตโอรสสวรรค์
เผียะ!
แล้วโดยที่โจวมู่เฉินยังไม่ทันตั้งตัว ฝ่ามือเล็กก็สะบัดลงบนใบหน้าของชายคนรักเต็มแรง ก่อนที่นางจะกระชากหยกขาวที่ห้อยระย้าข้างเอวบอบบางออกมาแล้วขว้างลงบนพื้นดิน
“สารเลวมู่เฉิน ระหว่างข้ากับเจ้าจะไม่มีการหมั้นหมายเกิดขึ้นเป็นอันขาด!”
เฟิ่งเยว่สือประกาศกร้าวก่อนจะกระทืบฝ่าเท้าลงบนหยกสีขาวที่ชายคนรักมอบให้ไว้แทนใจราวกับรังเกียจของสิ่งนี้เสียเหลือเกิน นางทำลายมันด้วยฝ่าเท้าจนแตกไม่เหลือชิ้นดี แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าหยกนี้เป็นสมบัติชิ้นสำคัญของตระกูลโจวก็ตามที
“แพศยาเยว่สือ สตรีต่ำช้าที่กล้าลงมือฆ่าสามีตัวเอง คิดหรือว่าข้าอยากผูกสัมพันธ์กับเจ้า”
โจวมู่เฉินชี้หน้าอีกฝ่ายด้วยเรือนกายสั่นเทากรุ่นโกรธ หากไม่ใช่เพราะนางเวลานี้เขาคงแต่งงานกับองค์หญิงใหญ่ มีชีวิตที่รุ่งโรจน์ในฐานะท่านราชครูแห่งแคว้น เป็นราชบุตรเขยของฮ่องเต้ไปแล้ว
“แล้วเจ้าเล่าชายชั่วสารเลว เจ้าก็ลงมือวางยาพิษข้าอย่างหน้าไม่อายมิใช่หรือ! พวกเจ้าตระกูลโจวล้วนชั่วช้าสามานย์ สั่งสอนให้บุตรธิดาเกลียดชังมารดาไม่หวาดกลัวบาปกรรม ช่างเป็นตระกูลสารเลวทั้งโคตรเหง้า!”
“จะ...เจ้า!”
โจวมู่เฉินโกรธจัดจนใบหน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้หรอกว่าเหตุใดเขาและนางจึงได้ย้อนเวลากลับมา หรืออาจเป็นเพราะดวงจิตสุดท้ายของเขาและนางต่างคิดถึงคำสัญญาที่มอบให้แก่กันและกันใต้ต้นหยินซิ่งเก่าแก่ต้นนี้ จึงได้นำพาให้เขาและนางหวนกลับมายังช่วงเวลานี้อีกครั้ง
นี่อาจเป็นเรื่องดี!
เขาจะได้ไม่ต้องแต่งงานกับสตรีต่ำต้อยที่ไม่เคยเกื้อหนุนส่งเสริมสามีเช่นนาง ตัวถ่วง ไร้ค่า ภาระ การมีนางเป็นคู่ชีวิตนับเป็นความอัปยศอับอายอย่างถึงที่สุด
เขาจะแต่งงานกับองค์หญิงใหญ่สตรีสูงศักดิ์ผู้เพียบพร้อมด้วยชาติตระกูลและฐานะ จากนั้นเขาจะมีบุตรธิดาที่น่ารักกับองค์หญิงใหญ่ สร้างครอบครัวที่อบอุ่นจนผู้คนต้องเล่าลือไปตราบนานเท่านาน
“หึ! ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังฝันหวานถึงสิ่งใดอยู่”
เฟิ่งเยว่สือกัดฟันกรอด โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวนางก็ยกเท้าเตะเข้ากลางกล่องดวงใจของชายหนุ่มเต็มแรง
“อ๊าก! นะ...นังแพศยา!”
โจวมู่เฉินทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น สองมือกุมเป้าเอาไว้แน่น ใบหน้าเขียวอมม่วงด้วยความเจ็บปวดทรมาน
“ขอให้แท่งหยกที่ทั้งเล็กทั้งเหี่ยวของเจ้าใช้การไม่ได้ไปตลอดชีวิต อย่าได้ฝันหวานว่าจะมีชีวิตรุ่งโรจน์กับนังองค์หญิงใหญ่แพศยาเด็ดขาด!”
เฟิ่งเยว่สือลั่นวาจาเสียงดังลั่นก่อนจะสะบัดหน้าพรืดเดินออกไปจากทุ่งหญ้าโล่งกว้างโดยไม่คิดเหลียวหลังกลับไปมองชายคนรักอีกเลย
“นะ...นังแพศยาเยว่สือ! ข้ากับเจ้านับจากนี้ขาดกัน”
โจวมู่เฉินตวาดลั่นโกรธจนลมออกหูที่เฟิ่งเยว่สือกล้าปรามาสแท่งหยกอันล้ำค่าของเขา
ชาติก่อนเขาเป็นถึงท่านราชครูผู้สูงศักดิ์ แต่กลับต้องหวนกลับมากลายเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดา คุณชายจากตระกูลขุนนางชั้นล่าง ณ ดินแดนห่างไกลที่ต้องเริ่มตะเกียกตะกายแสวงหาอำนาจ ทั้งหมดนี่ล้วนเป็นเพราะเฟิ่งเยว่สือผู้นั้นที่ทำให้เขาต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
