
ชาตินี้ข้าขอเป็นชายาองค์ชายจอมโฉด
บทย่อ
องค์ชายเก้าจอมโฉดผู้นั้นข้าจะให้เขาเป็นสามี! หวนคืนกลับมาครานี้ข้าขอตัดวาสนากับสามีเก่า เดินหน้าแก้ไขชีวิตไปพร้อมๆ กับยั่วยวนว่าที่สามีใหม่ ทว่า...เหตุใดจึงกลายเป็นนางที่ถูกเขายั่วยวนเล่า! ++++++ “ให้ตายเถอะเจ้าตัวแสบ!” องค์ชายเก้าถานซีหยางใช้มือข้างหนึ่งประคองร่างบางที่ถูกสกัดจุดจนสลบให้นอนลงบนฟูก ก่อนจะหันไปมองมือเล็กที่ยังคงกำกระบอกไม้ไผ่ของเขาเอาไว้แน่น “ยุ่งยากแล้ว” องค์ชายหนุ่มมีสีหน้าปั้นยาก ค่อยๆ แกะนิ้วมือที่เหนียวดั่งตีนตุ๊กแกของเจ้าลิงน้อยทีละนิ้ว ความอุ่นนุ่มของมือที่กุมแท่งหยกของเขานั้นยิ่งทำให้เอ็นอุ่นขยายใหญ่ขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม ปวดตุบๆ หน่วงไปทั้งหน้าขาด้วยต้องการปลดปล่อย ใบหน้าของเขาเหยเก ลมหายใจติดขัด ลอบมองคนเมาที่ยังคงหลับตาพริ้มเป็นระยะ “ให้ตายเถอะ! เจ้าคิดว่าแท่งหยกของข้าเป็นกระบอกไม้ไผ่ไปได้อย่างไรกัน” คิดแล้วก็ถึงกับเผลอหลุดหัวเราะออกมา ไม่คิดเลยว่าเฟิ่งเยว่สือยามเมามายจะทำเรื่องตลกน่าขบขันถึงเพียงนี้ แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องบิดเบี้ยวใบหน้าเหยเกเมื่อนิ้วชี้และนิ้วกลางที่แกะออกไปแล้วดีดกลับมากำรอบแท่งหยกของเขาเอาไว้อีกครา “อา...” องค์ชายถานซีหยางหน้าแดงก่ำ เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง พยายามควบคุมหัวใจไม่ให้เต้นกระโจนแรงไปมากกว่านี้ เขาตั้งใจแกะนิ้วตุ๊กแกออกอีกครั้งอย่างระมัดระวังยิ่งกว่าเดิม เพราะไม่เช่นนั้นคืนนี้ทั้งคืนเขาอาจต้องนั่งให้นางกุมกระบอกไม้ไผ่จนถึงรุ่งสาง ครานี้เรื่องที่เขาปลอมเป็นสตรีคงได้ถูกเปิดโปงเป็นแน่! แล้วในที่สุดเขาก็แกะนิ้วสุดท้ายของนางออก ทันทีที่แท่งหยกเป็นอิสระชายหนุ่มผงะถอยหลังไปหลายก้าวราวกับต้องการเวลาตั้งตัว เขายกมือลูบหน้าตนเองหลายๆ ครั้งเพื่อเรียกสติ จากนั้นจึงเดินวนไปวนมาในห้องจนแท่งหยกแข็งขึงค่อยๆ สงบลง เมื่อแน่ใจว่านางจะไม่ตื่นขึ้นมาแน่ๆ แล้ว จึงได้เดินกลับเข้าไปหาแล้วห่มผ้าให้นางอย่างเบามือ “ขยันทำให้ข้าเป็นห่วงเสียจริง” ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยไปตามเส้นผมที่ระกรอบหน้าหวาน ก่อนจะสัมผัสเบาที่ใต้ตาแดงช้ำ หยาดน้ำตาของนางทำให้เขาเจ็บปวดใจยิ่งนัก ชาติก่อนนางลำบากมากเหลือเกินแล้ว ชาตินี้เขาจะไม่ให้นางต้องพบเจอกับความลำบากอีก “เจ้าลิงน้อย เจ้าจับแท่งหยกของข้าแล้ว อย่างไรเจ้าก็ต้องรับผิดชอบตัวข้า ต้องเป็นเจ้าสาวของข้า เข้าใจหรือไม่...” เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะโน้มใบหน้าลงไป สัมผัสเบาๆ ที่ริมฝีปากอวบอิ่มเย้ายวน อยากจะ ‘จูบ’ มากกว่าแค่ประกบปากสัมผัส แต่ก็จำต้องหักห้ามใจ “ฝันดีนะเจ้าลิงน้อย”
บทนำ หวนคืนกลับมา....อย่าได้เหลือเยื่อใย
บทนำ
หวนคืนกลับมา....อย่าได้เหลือเยื่อใย
สายลมเย็นพัดเอากลิ่นยอดหญ้าจากทุ่งโล่งกว้างมากระทบปลายนาสิก โบกสะบัดพัดพาเส้นผมดำขลับให้ปลิวสยายไปตามแรงลม ยามนั้นใบหยินซิ่งสีเหลืองทองปลิดปลิวกระทบลงบนเรือนกายสตรีงดงามที่นั่งคุกเข่าปิดเปลือกตาพริ้มโดยมีบุรุษหนุ่มหน้าตาหล่อเหลานั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ กันแสดงถึงความชิดใกล้สนิทสนม
พลันดวงตากลมโตกลับเบิกขึ้นอย่างรวดเร็ว เฟิ่งเยว่สือในวัยสิบห้าปีหยัดกายลุกขึ้นยืน หมุนมองไปรอบๆ ตัวด้วยความงุนงงสับสนก่อนจะพบว่าโจวมู่เฉินยังคงหนุ่มแน่นเยาว์วัย
นางแหงนมองต้นหยินซิ่งสูงตระหง่านที่บัดนี้ใบเขียวแปรเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองสว่างไสว ก่อนจะหมุนกายไปรอบๆ หลายครั้ง รับรู้ได้ถึงความกระฉับกระเฉงคล่องตัวเต็มไปด้วยชีวิตชีวา สะโพกที่เคยปวดแปลบยามลงน้ำหนักที่ขาขวาไม่ปวดอีกเลย แม้แต่การสูดลมหายใจก็สามารถสูดเข้าไปได้เต็มปอด หาใช่ลมหายใจที่หอบกระชั้นอยู่ตลอดเวลา
“ขะ...ข้าย้อนเวลากลับมาหรือ”
หญิงสาวก้มลงมองฝ่ามือของตนเอง มันไม่ได้แตกระแหงจากการทำงานบ้านงานครัวรับใช้สามีและบุตรธิดา อีกทั้งยังถูกมารดาสามีโขกสับนานนับสิบปี
แต่มือคู่นี้ยังคงนุ่มนิ่มเรียวยาวเพราะถึงอย่างไรนางก็เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของพ่อค้าผู้มั่งคั่งแห่งเมืองหลันเล่อ มีข้าทาสบริวารคอยดูแลรับใช้ไม่เคยต้องเหนื่อยยาก
‘หากเป็นช่วงเวลานี้ ณ ใต้ต้นหยินซิ่ง...นั่นหมายความว่าข้าเพิ่งมีอายุสิบห้าปี อีกสองวันข้าจะเข้าพิธีปักปิ่น!’
หญิงสาวยกมือขึ้นจับเรือนผมที่ถักเปียม้วนเป็นวงโค้งสองข้างผูกด้วยผ้าไหมเนื้อดีอย่างเด็กหญิงที่ยังไม่โตเป็นสาวนิยมทำกัน ก่อนจะเลื่อนมือลงมาจับแก้มที่ยังป่องพองของตนเองอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ทันใดนั้นเองโจวมู่เฉินก็ลืมตาขึ้น เขาหยัดกายลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางตกใจไม่ต่างกัน
“นะ...นี่มันอะไรกัน!”
ชายหนุ่มเบิกตาโตมองใบหน้าภรรยา ความเยาว์วัยและความงดงามทำให้เขาถึงกับขมวดคิ้วมุ่น ด้วยจำได้ว่าหลังจากภรรยาคลอดบุตรคนที่สองก็ล้มเจ็บออดๆ แอดๆ ร่างกายทรุดโทรมผ่ายผอมเรื่อยมา
และที่สำคัญนางดื่มยาพิษที่เขามอบให้จนโลหิตทะลวงออกทั้งห้าทวาร นางควรจะตายไปแล้วแต่เหตุใดจึงมายืนอยู่ตรงหน้าเขาใต้ต้นหยินซิ่งอายุกว่าหลายร้อยปี
สถานที่ที่เขาและนางเคยให้คำมั่นสัญญาแก่กันว่าจะรักมั่นตราบจนกว่าจะสิ้นสุดลมหายใจสุดท้าย
แล้วเขาเล่า!
เขาถูกนางใช้กริชสั้นแทงที่หัวใจมิใช่หรือ คิดพลางยกมือขึ้นกุมอกซ้าย เมื่อพบว่าบนอกหาได้มีอาวุธแหลมคมปักอยู่ก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ขะ...ข้ายังไม่ตาย ขะ...ข้าย้อนเวลากลับมา!”
โจวมู่เฉินเอ่ยออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ ว่าเขาจะพานพบกับเรื่องราวมหัศจรรย์เช่นนี้ รูปร่างของเขายังคงผอมบางดั่งหนุ่มน้อย กลางฝ่ามือปราศจากรอยแผลเป็นจากการช่วยชีวิตโอรสสวรรค์
เผียะ!
แล้วโดยที่โจวมู่เฉินยังไม่ทันตั้งตัว ฝ่ามือเล็กก็สะบัดลงบนใบหน้าของชายคนรักเต็มแรง ก่อนที่นางจะกระชากหยกขาวที่ห้อยระย้าข้างเอวบอบบางออกมาแล้วขว้างลงบนพื้นดิน
“สารเลวมู่เฉิน ระหว่างข้ากับเจ้าจะไม่มีการหมั้นหมายเกิดขึ้นเป็นอันขาด!”
เฟิ่งเยว่สือประกาศกร้าวก่อนจะกระทืบฝ่าเท้าลงบนหยกสีขาวที่ชายคนรักมอบให้ไว้แทนใจราวกับรังเกียจของสิ่งนี้เสียเหลือเกิน นางทำลายมันด้วยฝ่าเท้าจนแตกไม่เหลือชิ้นดี แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าหยกนี้เป็นสมบัติชิ้นสำคัญของตระกูลโจวก็ตามที
“แพศยาเยว่สือ สตรีต่ำช้าที่กล้าลงมือฆ่าสามีตัวเอง คิดหรือว่าข้าอยากผูกสัมพันธ์กับเจ้า”
โจวมู่เฉินชี้หน้าอีกฝ่ายด้วยเรือนกายสั่นเทากรุ่นโกรธ หากไม่ใช่เพราะนางเวลานี้เขาคงแต่งงานกับองค์หญิงใหญ่ มีชีวิตที่รุ่งโรจน์ในฐานะท่านราชครูแห่งแคว้น เป็นราชบุตรเขยของฮ่องเต้ไปแล้ว
“แล้วเจ้าเล่าชายชั่วสารเลว เจ้าก็ลงมือวางยาพิษข้าอย่างหน้าไม่อายมิใช่หรือ! พวกเจ้าตระกูลโจวล้วนชั่วช้าสามานย์ สั่งสอนให้บุตรธิดาเกลียดชังมารดาไม่หวาดกลัวบาปกรรม ช่างเป็นตระกูลสารเลวทั้งโคตรเหง้า!”
“จะ...เจ้า!”
โจวมู่เฉินโกรธจัดจนใบหน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้หรอกว่าเหตุใดเขาและนางจึงได้ย้อนเวลากลับมา หรืออาจเป็นเพราะดวงจิตสุดท้ายของเขาและนางต่างคิดถึงคำสัญญาที่มอบให้แก่กันและกันใต้ต้นหยินซิ่งเก่าแก่ต้นนี้ จึงได้นำพาให้เขาและนางหวนกลับมายังช่วงเวลานี้อีกครั้ง
นี่อาจเป็นเรื่องดี!
เขาจะได้ไม่ต้องแต่งงานกับสตรีต่ำต้อยที่ไม่เคยเกื้อหนุนส่งเสริมสามีเช่นนาง ตัวถ่วง ไร้ค่า ภาระ การมีนางเป็นคู่ชีวิตนับเป็นความอัปยศอับอายอย่างถึงที่สุด
เขาจะแต่งงานกับองค์หญิงใหญ่สตรีสูงศักดิ์ผู้เพียบพร้อมด้วยชาติตระกูลและฐานะ จากนั้นเขาจะมีบุตรธิดาที่น่ารักกับองค์หญิงใหญ่ สร้างครอบครัวที่อบอุ่นจนผู้คนต้องเล่าลือไปตราบนานเท่านาน
“หึ! ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังฝันหวานถึงสิ่งใดอยู่”
เฟิ่งเยว่สือกัดฟันกรอด โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวนางก็ยกเท้าเตะเข้ากลางกล่องดวงใจของชายหนุ่มเต็มแรง
“อ๊าก! นะ...นังแพศยา!”
โจวมู่เฉินทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น สองมือกุมเป้าเอาไว้แน่น ใบหน้าเขียวอมม่วงด้วยความเจ็บปวดทรมาน
“ขอให้แท่งหยกที่ทั้งเล็กทั้งเหี่ยวของเจ้าใช้การไม่ได้ไปตลอดชีวิต อย่าได้ฝันหวานว่าจะมีชีวิตรุ่งโรจน์กับนังองค์หญิงใหญ่แพศยาเด็ดขาด!”
เฟิ่งเยว่สือลั่นวาจาเสียงดังลั่นก่อนจะสะบัดหน้าพรืดเดินออกไปจากทุ่งหญ้าโล่งกว้างโดยไม่คิดเหลียวหลังกลับไปมองชายคนรักอีกเลย
“นะ...นังแพศยาเยว่สือ! ข้ากับเจ้านับจากนี้ขาดกัน”
โจวมู่เฉินตวาดลั่นโกรธจนลมออกหูที่เฟิ่งเยว่สือกล้าปรามาสแท่งหยกอันล้ำค่าของเขา
ชาติก่อนเขาเป็นถึงท่านราชครูผู้สูงศักดิ์ แต่กลับต้องหวนกลับมากลายเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดา คุณชายจากตระกูลขุนนางชั้นล่าง ณ ดินแดนห่างไกลที่ต้องเริ่มตะเกียกตะกายแสวงหาอำนาจ ทั้งหมดนี่ล้วนเป็นเพราะเฟิ่งเยว่สือผู้นั้นที่ทำให้เขาต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
