บทที่ 3. สิ้นสุดการรอคอย
เวลา 10.40 น.
ในที่สุดก็ขับรถมาถึงกรุงเทพฯ มาถึงคอนโดของเพื่อนรัก พอมาถึงจอดรถเรียบร้อย ชะเอมที่ลงมารอรับอยู่ก่อนแล้วก็ส่งยิ้มมาให้เธอ อุษมาเดินยิ้มไปหาเพื่อนพร้อมลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กไปด้วย
“อยู่แค่นครปฐมเอง ทำไมมาถึงช้าจังมา” ชะเอมถามเพื่อนพร้อมรับกระเป๋าเดินทางจากมือเพื่อนรักมาลากถือเอง
“ก็รถมันติด อีกอย่างก็รู้ว่าเราขับรถมาเอง ถึงมาบ่อยแต่ก็หลงทุกครั้ง”
“จ้ะ แล้วเนี่ยพร้อมไหมสำหรับพรุ่งนี้ โรงแรมที่ชะเอมติดต่อไปเป็นโรงแรมระดับเจ็ดดาวเชียวนะ แปลก เพื่อนที่ทำงานสายอาชีพแบบเราบอกว่าโรงแรมนี้ติดต่อยากมาก ไม่ยอมให้ใครไปตั้งบูทขายของง่ายๆ นะ แต่เราโชคดีมาก เพราะโรงแรมนี้เป็นโรงแรมที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นต่างชาติเข้ามาพัก และมันต้องขายดีแน่นอนมา” ชะเอมเอ่ยอย่างตื่นเต้นขณะเดินมาหยุดรอหน้าลิฟต์โดยสาร
“เราจะสู้ค่าเช่าไหวเหรอชะเอม โรงแรมระดับเจ็ดดาวเชียวนะ”
“พรุ่งนี้ก็รู้ว่าไหวไม่ไหว ว่าแต่ยังไม่ได้เข้าดูหน้าเว็บไซต์โรงแรมที่ส่งให้ใช่ไหม”
“อือ...ว่าจะดูวันนี้แหละชะเอม” อุษมาหันมาตอบเพื่อนรักแล้วเดินเข้าลิฟต์ที่เปิดประตูตรงหน้า
ชะเอมเดินตามเพื่อนรักเข้าไปในลิฟต์แล้วกดชั้นสิบสองแล้วลิฟต์ก็เคลื่อนตัวพาสองสาวเพื่อนรักไปยังชั้นที่พักอยู่
เวลาเดียวกันนั้น
ณ ห้องสูทสุดหรูของโรงแรม ‘K.S. Crocodile Bangkok’ สูง 73 ชั้น ตกแต่งตามยุคสมัย แต่ทุกห้องจะมีรูปจระเข้ติดผนังห้อง และในห้องจะมีกลิ่นอายของไทยโบราณซุกซ่อนอยู่ และชื่อของโรงแรมก็บ่งบอกชัดเจนอยู่แล้วว่าโรงแรมแห่งนี้จะตกแต่งด้วยจระเข้ รูปปั้น ภาพวาดตามผนัง และลายไทย แม้ภายนอกจะดูเป็นยุคสมัยใหม่ แต่ในห้องพักกลับไม่เป็นแบบภายนอก เหมือนหลุดไปในยุคโบราณ และเพราะแบบนี้ถึงทำให้ลูกค้าต่างชาติชอบ กลับไปแล้วก็กลับมาพักอีกครั้ง
“ดวงใจของข้า”
กุมภีล์พึมพำกับตนเองมองดูบรรยากาศด้านนอกห้องพักสูดหรูของตนแล้วก้มหน้าลงมองแผลเป็นตรงอกซ้ายของตน แล้วภาพในอดีตก็ไหลย้อนเข้ามาในหัว เมื่อครั้งอดีต เขาได้นอกกายนางอันเป็นที่รัก และนางจับได้ใช้มีดพกแทนใจที่เขามอบให้จ้วงแทงอกซ้ายของเขาตอนอยู่บนเตียงกับสตรีนางอื่น หลังจากนั้นนางก็ดื่มยาพิษปลิดชีพตนเองต่อหน้าของเขา แม้ผ่านมาหลายร้อยปี สำหรับกุมภีล์แล้วเหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เขาทำร้ายหัวใจนางอันเป็นที่รักเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบของตน แล้วก็เสียนางไปตลอดกาล วันนี้ได้มีโอกาสแก้ไขแล้ว เขาจักมิทำให้นางต้องเจ็บปวดซ้ำแบบเดิม และตั้งแต่นั้นมา เขาก็ไม่เคยข้องเกี่ยวกับสตรีนางใด ครองตัวเป็นพ่อหม้ายลูกติดจนมาถึงปัจจุบันเพื่อที่จะเจอนางอันเป็นที่รักและมอบกายและใจให้นางแต่เพียงผู้เดียว
“ข้าจะทำให้ชีวิตชาตินี้ของเจ้าเต็มไปด้วยความสุขอุษมา” นางยังคงมีชื่อเหมือนครั้งอดีต เพียงแต่หน้าตาได้เปลี่ยนไป แต่เขาก็มั่นใจว่านางกลับมาแล้ว กลับมาหาตนและบุตรชายแล้ว
“ทุกอย่างที่เจ้าปรารถนา ข้าจักเนรมิตมันให้เจ้ายอดรักของข้า”
แล้วเขาก็ลูบอกเปลือยเปล่าตัวเองหมุนตัวเดินไปยังข้างในห้องเพื่อจะแช่กายในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นในโรงแรง ปกติแล้วเขาไม่ค่อยได้เข้ามาโรงแรมของตนเท่าไหร่ เขาจะอยู่เงียบๆ ทำตัวลึกลับในเงามืด มิมีใครได้เห็นว่าท่านประธาน เจ้าของโรงแรมหน้าตาเป็นเช่นไร แต่รองประธานอย่างสุงสุมาร ทุกคนจะเคยเจอบ้าง แต่ก็ไม่ได้เจอบ่อยเช่นกัน สุงสุมารจะเข้าโรงแรมเฉพาะมีประชุมสำคัญเท่านั้น เพราะโรงแรมแห่งนี้ได้จ้างทีมบริหารมืออาชีพมาดูแลทุกอย่าง
เวลา 15.00 น.
หลังออกมาจากทานข้าวข้างนอก อุษมาก็หาข้อมูลของโรงแรมที่จะเข้าไปพรุ่งนี้ แล้วขมวดคิ้วเมื่อเห็นสัญลักษณ์ของโรงแรมเป็นรูปจระเข้พร้อมชื่อแล้วก็ลุกเดินจากเตียงนอนออกไปนอกห้องไปหาชะเอมที่กำลังนั่งดูซีรีส์อยู่ในห้องนั่งเล่น
“ชะเอมมันโรงแรมอะไรเนี่ย มีแต่รูปจระเข้ ชะเอมก็รู้ว่าเรากลัวจระเข้เข้าไส้ แล้วทำไมถึงติดต่อไปที่นี่” อุษมาทิ้งตัวนั่งลงข้างเพื่อน
“ชะเอมถึงอยากให้มาอ่านก่อนจะคอนเฟิร์มทางนั้นไง แต่เนี่ยมาให้ชะเอมคอนเฟิร์มแล้ว เรายกเลิกไม่ได้แล้วนะมา”
“ก็ไม่คิดว่าโรงแรมจะไปเป็นโรงแรมจระเข้นี่ ดูสิ รูปปั้นหน้าทางเข้า สัญลักษณ์ และในห้อง ทุกอย่างมีแต่จระเข้”
ชะเอมเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเพื่อนก็เข้าใจว่าเพื่อนรู้สึกยังไง
“งั้นชะเอมไปเอง มาไม่ต้องไปก็ได้พรุ่งนี้”
“ชะเอมรู้รายละเอียดงานเหรอ ยังไงมาก็ต้องไป”
“ไหวแน่เหรอมา จระเข้นะ”
“ก็แค่รูปปั้นแหละชะเอม มาคิดว่ามาทนไหว มาไม่เป็นลมหรอก”
แต่สีหน้าไม่ได้บอกว่าไหวสักนิด ตอนนี้ในใจของอุษมาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่รู้ว่ากลัวอะไรกันแน่ รู้แต่ว่ามันรู้สึกแปลกๆ เพราะพักนี้ฝันเห็นจระเข้แทบทุกวันก็ว่าได้ และมันก็เป็นตัวเดิมด้วย เธอจำได้ เพราะจระเข้ตัวนั้นมีมีดเล่มเล็กปักอยู่ตรงอก ไม่รู้ไปโดนใครทำร้ายมา
“มีชะเอมอยู่ด้วย ยังไงมันก็จะผ่านไปได้ดีเชื่อชะเอมสิ ไหนไปลองชุดไทยที่จะใส่ไปพรุ่งนี้กันเถอะ” ชะเอมปิดโทรทัศน์แล้วลุกยืนพร้อมฉุดอุษมาลุกขึ้นยืนตามตน
