บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 ความฝันประหลาด

ตอนที่ 4 ความฝันประหลาด

ภายในห้องกว้างใหญ่ องค์ชายจื่อถงนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องของตนใบหน้าเคร่งเครียดทำให้ขันทีหย่งอู่รู้สึกได้

“องค์ชายมีอะไรเรียกใช้กระหม่อมหรือพะย่ะค่ะ หรือว่าการไปเยือนที่เรือนตระกูลไป๋มีเรื่องอันใดผิดพลาด กระหม่อมน่าจะตามไปตั้งแรก”

“มิใช่เรื่องนั้น ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าความทรงจำของจิ้งเซียนจะหวนคืนกลับมา ข้าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เขาจำได้จนกว่าเขาจะหลงรักข้าจนหมดหัวใจและหนีไปจากข้าไม่ได้ หากเขาต้องการหนีข้าจะกักขังเขาเอาไว้ข้างกายของข้า เจ้าไปกำชับนางกำนัลและทหารทุกคนในตำหนักแห่งนี้ อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องราวความหลังของจิ้งเซียนหรือแม้แต่ชื่อจริงของเขา ”

“พ่ะย่ะค่ะ แต่ว่าการห้ามมิให้จำเรื่องของตนเองในอดีตนั้นช่างยากนัก เรื่องนี้กระหม่อมไม่มั่นใจว่าจะพยายามปกปิดได้นานเพียงใด หากว่าวันหนึ่งจิ้งเซียนจำเรื่องราวทุกอย่างได้ เขาจะไม่โกรธเคืองหรือเสียใจที่องค์ชายทำเช่นนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ เมื่อนั้นอย่าว่าแต่ความรักจากเขาเลย ความเชื่อใจไว้ใจและความรักที่มีให้องค์ชายอาจจะจบสิ้นลงและผู้ที่จะเจ็บปวดก็คือองค์ชายเอง”

“ไม่ข้าไม่มีทางให้เป็นอย่างนั้นเด็ดขาด เพราะฉะนั้นข้าต้องทำทุกอย่างเพื่อมัดกายและใจของจิ้งเซียนให้รักถลำลึกจนถอนตัวไม่ขึ้น” ขันทีหย่งอู่มองไปยังองค์ชายพรางถอนหายใจเพราะผู้ที่ถลำลึกจนถอนตัวไม่ได้ไม่ใช่จิ้งเซียนแต่เป็นองค์ชายจื่อต่างหาก

ฝั่งด้านจิ้งเซียนเขายังคงครุ่นคิดและอยากรู้เกี่ยวกับซ่งเจี้ยนหยู คนผู้นั้นคือผู้ใดกันแน่เหตุใดเขามักจะได้ยินเสียงพร่ำเรียกบ่อยครั้ง เสียงเรียกแสนอบอุ่นและอ่อนโยน ทว่าไม่ว่าจะคิดอย่างเขาก็จำไม่ได้ว่าเคยมีสหายหรือคนที่ซ่งเจี้ยนหยูเลยสักคน

‘หรือว่าเขาคือสหายของข้าตั้งแต่เยาว์วัย เอาไว้วันหน้าไปเยี่ยมเยือนท่านพ่อท่านแม่ข้าต้องสอบถามหน่อยแล้ว ตอนนี้องค์ชายคงรอข้านานแล้วรีบไปก่อนที่เขาจะเขมือบกินหัวนางกำนัลจนหมดตำหนัก เฮ้อ! ยามกับข้าอ่อนโยนและยอมทุกอย่าง ทีกับนางกำนัลหรือขันทีทำราวกับว่าเขาคือปีศาจพร้อมทำลายล้างทั้งเมือง ข้าช่างเหนื่อยใจจริง ๆ ข้าอยากให้องค์ชายปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นเดียวกับข้า ’ จิ้งเซียนลุกขึ้นจากอ่างน้ำอุ่นที่นางกำนัลเตรียมเอาไว้ให้ เมื่อได้ยินเสียงน้ำในห้องเคลื่อนไหว นางกำนัลรีบนำผ้าเข้ามาเช็ดตัวและต้องตัวให้จิ้งเซียนอย่างเคยทำ

“พวกเจ้ามิต้องปฏิบัติกับข้าเช่นเดียวกับองค์ชายหลิวจื่อถง เพราะข้าเป็นเพียงองครักษ์ข้างกายเท่านั้น ต่อจากนี้ข้าจะจัดการแต่งกายเอง พวกเจ้าเพียงเตรียมน้ำและอาภรณ์เอาไว้ก็เพียงพอแล้ว” น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยบอกกับนางกำนัลอย่างอ่อนโอน พวกนางจ้องมองคลี่ยิ้มอย่างเขินอายแม้รู้ว่านี่คือคนเคียงข้างองค์ชายแต่ใบหน้าของจิ้งเซียนรูปงามราวเทพบุตร ดวงตาดำขลับรับกับคิ้วโค้งมน แถมร่างกายยังกำยำจนนางกำนัลแอบเสียดายไม่น้อย

“พวกข้าเช่นนั้นไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าจะถูกขันทีหย่งอู่ตำหนิอีกทั้งอาจจะถูกโบยตีที่ไม่ทำตามคำสั่งเจ้าค่ะ ”

“เจ้าก็อย่าให้ขันทีหย่งอู่รู้เรื่องสิ พวกเจ้าเป็นสตรียังไม่ออกเรือนจะมาแต่งกายดูเรือนร่างชายฉกรรจ์เช่นข้าเช่นนี้มิสมควร เอาเป็นว่าทำตามที่ข้าบอกเถอะออกไปรอข้าด้านนอก ข้าแต่งกายเสร็จแล้วจะตามออกไป ”

“เจ้าค่ะ ” นางกำนัลทั้งสี่คนก้มโค้งและเดินออกไปใบหน้าแดงระเรื่อ หากเขาไม่ใช่คนรักขององค์ชายก็คงเป็นที่หมายปองของสตรีมากมาย

หลังจากกินมื้อค่ำกับองค์ชายหลิวจื่อถงวันนี้เขาไม่ได้มานอนด้วยเพราะมีเรื่องต้องไปจัดการจึงให้จิ้งเซียนนอนพักผ่อนให้เต็มที่ ในห้องมืดสนิทเทียนถูกดับจากนางกำนัลก่อนที่จะจุดกำยานเพื่อให้ผ่อนคลายและเดินออกไปให้จิ้งเซียนผักพ่อน

“คืนนี้ได้พักก็ดี ข้าเหนื่อยมาทั้งวัน รุ่งเช้าต้องจับดาบเพื่อจดจำกระบวนท่าเสียหน่อยแล้ว เผื่อความทรงจำของข้าจะกลับมาบ้าง ” จิ้งเซียนเอ่ยออกมาพึมพำดึงผ้ามาห่มกาย หลับตาลงอย่างช้า ๆ กลิ่นกำยานคละคลุ้งในอากาศ ลมพัดเย็นสบายจนเขาหลับไปในที่สุด

‘ซ่งเจี้ยนหยู ซ่งเจี้ยนหยู เจ้าดูนี่สิดาบเล่มนี้ข้าสลักชื่อของเจ้ากับข้าเอาไว้ นี่คือของขวัญที่ข้าทำขึ้นมาเพื่อเจ้า ดาบนี้มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น อีกไม่นานเราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันแล้วเจ้ามีความสุขหรือไม่ ? ข้าอยากให้ถึงวันนั้นจริง ๆ ไม่ต้องดิ้นรนต่อสู้กับผู้ใดใช้ชีวิตกับเจ้าอย่างสงบสุขท่องใต้หล้าไปด้วยกัน ’

‘ข้าเองก็อยากให้ถึงวันนั้นจริง ๆ เมื่อวันนั้นมาถึงความสุขของข้าก็คงไม่ต่างไปจากนี้เพราะทุกวันของข้ามีเจ้าคอยเคียงข้างและทำทุกอย่างเพื่อข้าขนาดนี้ ข้ารักเจ้าจินฟาน ดาบเล่มนี้ข้าจะเก็บเอาไว้เป็นอย่างดี’ ชายร่างใหญ่ทอดสายตาไปยังขอบฟ้าหน้าผา ก่อนที่อีกคนที่เอ่ยโอบกอดจากด้านหลัง ความรู้สึกอบอุ่นอบอวลด้วยความรักช่างหอมหวาน ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะเลืองรางและจางหายไปในหมอกขาว จิ้งเซียนตกใจอีกคราเขากำลังจะเดินไปดูทั้งสองด้วยตาตนเองว่าพวกเขาเป็นใครหน้าตาเป็นเช่นไร จู่ ๆ เมฆหมอกปกคลุมเสียก่อน

‘พวกท่านอย่าพึ่งไป ช่วยบอกข้าก่อนว่าพวกท่านเป็นผู้ใดกัน ! เป็นสหายของข้าหรือ? ช่วยรอข้าก่อน' จิ้งเซียนพยายามวิ่งตามทว่ายิ่งวิ่งไล่ตามเหมือนทั้งสองจะเดินเข้าไปในหมอกขาวจนเขามองไม่เห็นอีกต่อไปสองเท้าเดินตามเท่าไหร่เหมือนยิ่งช้ากว่าเดิม จนเขาหกล้มและสะดุ้งตื่น

“แฮ่ก แฮ่ก รอข้าก่อน!!! " จิ้งเซียนลืมตาในความมืดจ้องมองไปรอบ ๆ ห้องนี่คือห้องของเขามิใช่หน้าผาเมื่อครู่ เหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า ความฝันเมื่อครู่คล้ายความจริงจนน่าตกใจ

“นี่ข้าฝันไปหรอกหรือ ? ทำไมช่วงนี้ข้าถึงเอาแต่ฝันถึงซ่งเจี้ยนหยู เอาไว้รุ่งเช้าข้าจะถามกับองค์ชายว่าเขาคือใครกันแน่ไม่แน่องค์ชายเองก็อาจจะรู้จัก” จิ้งเซียนปาดเหงื่อบนใบหน้าพรางโน้มตัวลงนอนข่มตาให้หลับอีกครา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel