บท
ตั้งค่า

Ep 5 ลานประลอง

เสียงหอกหน้าไม้และเสียงคมดาบดังแว่วดังไกลไปทั่วลานประลอง สร้างความตื่นเต้นและความกดดันให้กับฟางหลงเฟิงเป็นอย่างมาก เธอไม่คาดคิดว่าการฝึกประลองยุทธของผู้คนในสมัยนี้จะเข้มข้นถึงเพียงนี้ สตรีที่นี่ยังต้องมีความสามารถในการต่อสู้และการใช้กลยุทธ์เพื่อเอาชนะ และความอยู่รอด

“ข้าอยากเห็นสนมเอกและเหล่าสนมของต้าชิงร่วมลงเล่นลูกเตะกับพวกข้าด้วย” เสียงทุ้มดังกระหึ่มของบุรุษจากแคว้นอู่ซาน ตัวแทนของภูเขาเสือ กล่าวขึ้นอย่างท้าทาย ด้วยท่าทางที่มั่นใจ “สตรีจากทั่วทุกแคว้นต่างก็มีทักษะในการเตะลูกเตะ ฉะนั้นข้าคงไม่ได้ขอมากไป” รัชทายาทแห่งอู่ซานเอ่ย

“ได้” หลี่อ๋องตอบรับอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ และพอใจในความท้าทาย “งั้นแต่ละทีมก็เพิ่มสตรีเข้ามาทีมละห้า และบุรุษทีมละเจ็ด เจ้าว่าเช่นไร? ” หลี่อ๋องถามเจ้าชายอู่ซาน

“ได้ งั้นตกลงตามนี้” รัชทายาทแห่งอู่ซานตกปากรับคำ โดยที่ทุกคนรู้ว่าการประลองในครั้งนี้คงจะมีความสำคัญมาก ทั้งในแง่ของเกียรติยศและศักดิ์ศรีรวมถึงความเป็นหนึ่งในแต่ละแคว้นด้วย

เมื่อการประลองลูกเตะถูกจัดขึ้น เหล่าสนมและชายาก็ถูกนำตัวไปที่ห้องเปลี่ยนชุดจากทางด้านหลัง ฟางหลงเฟิงรู้สึกถึงความกดดันที่เริ่มตึงเครียด เมื่อเธอได้เห็นสตรีจากแคว้นอื่นๆ ที่ดูมีความมั่นใจและพร้อมที่จะลงสนามประลอง ต่างจากเธอ ทำอะไรก็ไม่เป็นเอาซะเลย

“ประลองลูกเตะบ้าบออะไรกัน ฉันเคยเตะซะที่ไหน แต่ก็เอาวะ เตะๆ ตามน้ำไป…” ความคิดนี้วนอยู่ในใจของฟางหลงเฟิง ขณะที่เธอเปลี่ยนชุด

ลานประลอง

ตอนนี้เธอสวมชุดลำลองที่ดูเรียบง่าย แต่ยังคงสะท้อนถึงความงามและความเป็นสตรี สีแดงเข้มและดำเป็นสีหลักที่มีการตกแต่งด้วยลวดลายเล็กน้อย เพิ่มความน่าสนใจให้กับชุดที่สวมใส่ ขณะที่เธอยืนอยู่ในลานประลอง เสียงเชียร์และเสียงกลองบวกกับความตื่นเต้นของผู้ชมต่างดังขึ้นเรื่อยๆ

เธอมองไปรอบ ๆ และเห็นเพื่อนร่วมทีมและคู่แข่งต่างเตรียมตัวกันอย่างกระตือรือร้น ความรู้สึกกดดันเริ่มเข้ามาในจิตใจของเธอ ยอมรับว่ารู้สึกประหม่า แต่ถึงกระนั้นความมุ่งมั่นที่มี เธอจะไม่ยอมให้ความกลัวเข้ามาครอบงำ ตรงกันข้ามเธอจะทำให้ความรู้สึกนั้นเปลี่ยนมาเป็นแรงฮึกเหิมให้ได้

“เพียงแค่เราทำตามใจและสนุกไปกับมัน” เธอกล่าวกับตัวเอง ขณะที่เสียงระฆังดังขึ้นซึ่งบ่งบอกถึงสัญญาณของการเริ่มต้นในการเตะลูกเตะ

เมื่อสัญญาณดังขึ้น ทุกคนเริ่มเข้าร่วมการแข่งขัน เธอก้าวออกไปข้างหน้า พร้อมกับความมุ่งมั่นอย่างตั้งใจ

“หลินเหยา รับ” เสียงของหลี่อ๋องบอกคนในทีม ก่อนจะเป็นแม่นางคนนั้นทีแม่นางคนนี้ที ยกเว้นเธอ

การประลองเริ่มต้นขึ้น ทุกคนวิ่งไปมาในสนาม เธอเห็นเพื่อนร่วมทีมเตะลูกเตะกันอย่างคล่องแคล่ว ขณะที่คู่แข่งจากแคว้นอู่ซานต่างก็แสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่

“ทำตามจังหวะ!” เธอคิดในใจ ขณะที่ความรู้สึกของเธอต่างตระหนก ท้ายที่สุดแล้ว การประลองครั้งนี้อาจจะเป็นสิ่งที่เธอต้องจดจำมันตลอดไปก็ได้

การแข่งขันเริ่มเข้มข้นขึ้นเข้าไปทุกขณะ บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยเสียงเชียร์และความตื่นเต้นของผู้คนจากขอบสนาม ทว่าทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่หวัง ในระหว่างที่เธอวิ่งเพื่อที่จะเข้าไปยึดลูกเตะ ความไม่ระมัดระวังทำให้เธอเสียหลักลื่น และล้มลงไปกองกับพื้นอย่างแรง

“โอ๊ย!!” เสียงร้องของเธอดังขึ้น ขณะที่ความเจ็บปวดแล่นผ่านร่างกาย เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เข้ามาอย่างรุนแรงที่ขา

ทุกคนในสนามหยุดชะงัก ขณะที่หลี่อ๋องเองก็ยืนอยู่ไม่ไกล เขามองไปที่ฟางหลงเฟิง นอกจากจะไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ขึ้นมา เขากลับเลือกที่จะนิ่งเฉยต่อเธอ ในขณะเดียวกันผู้คนต่างจับจ้องไปที่เธอเช่นกัน

“ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนโปรด” หลินเหยาแสยะยิ้มและขบคิดอยู่ในใจ

“คุณหนู!” เสียงเว่ยอิงดังขึ้น ขณะที่เธอวิ่งเข้ามาช่วย แม้จะรู้ว่าตนเองคงช่วยอะไรไม่ได้

“ข้าไม่เป็นไร…” เธอพยายามจะพูด แต่ความเจ็บปวดทำให้เสียงของเธอสั่นเครือไปหมด

ท่ามกลางความวุ่นวาย มีองครักษ์หนึ่งนายจากทีมที่อยู่ข้าง ๆ สังเกตเห็นเหตุการณ์ เขารีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับเจ้าชายแห่งอู่ซานที่เป็นหนึ่งในทีมคู่แข่ง

“ให้ข้าช่วย” จู่ๆ เสียงของรัชทายาทแห่งอู่ซานก็กล่าวขึ้น โดยที่ฟางหลงเฟิงยังคงนั่งอยู่บนพื้น ขาของเธอเจ็บปวดจนแทบจะขยับไม่ได้ เจ้าชายแห่งอู่ซานเข้ามาพยุงเธอ “จับข้าให้มั่น!” เขากล่าว ก่อนจะช้อนอุ้มเธอขึ้นจากตรงนั้น โดยที่ไม่สนใจเลยว่าสตรีนางนี้เป็นของใคร เพราะการช่วยนางมันสำคัญยิ่งกว่า

“ขะ ข้า…” แม้เธอจะพยายามพูดแต่ก็ไม่สามารถต้านทานการกระทำของเขาในตอนนี้ได้ และเธอก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดออกมา ในขณะที่เจ้าชายแห่งอู่ซานพาเธอออกจากสนามประลอง หลี่อ๋องยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ได้แสดงอาการใด ๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย

เธอรู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นในใจ ความรู้สึกขอบคุณที่เจ้าชายแห่งอู่ซานมาช่วยเธอ แต่ก็รู้สึกถึงความผิดหวังจากหลี่อ๋องที่ไม่ยอมช่วยแม้แต่จะหันมามองเขายังไม่มองเสียด้วยซ้ำ

ในขณะที่รัชทายาทแห่งอู่ซานพาฟางหลงเฟิงออกจากลานประลอง เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นทุกครั้งที่ได้สัมผัสเธอในอ้อมแขน ระหว่างทางที่พาเธอไปยังกระโจมรับรองใกล้ๆ เขามองลงไปที่ใบหน้าของเธอที่ตอนนี้ร่างบอบบางต่างตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา ดวงตาของเธอสุกสว่างแม้จะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขายอมรับว่าไม่อาจละสายตาจากเธอไปได้เลย

เจ้าชายได้เฝ้าดูเธอตั้งแต่แรกเห็นที่ลานประลอง เขาประทับใจกับความสวยสะกดอย่างที่ไม่เคยเจอในสตรีใดมาก่อน ทั้งผมยาวดำขลับที่พลิ้วไหว กลิ่นหอมๆ ในกาย และชุดที่เธอสวมใส่ ทำให้เขารู้สึกเหมือนโลกนี้มีแค่เธอคนเดียว ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกพบ ติดตรงที่ว่าเธอเป็นชายาของหลี่อ๋องไปแล้ว

“นี่แม่นางจะจำข้าได้หรือไม่” เขาคิดในใจ

ย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน เขาช่วยสตรีนางหนึ่งที่ก้นเหวลึกขึ้นมา ใบหน้างดงามนั้นเขายังตราตรึงใจจนกระทั่งทุกเดี๋ยวนี้ เมื่อถึงกระโจมที่พัก อู่ซานค่อยๆ วางเธอลงอย่างนุ่มนวล “ข้าจะไปเรียกหมอมาช่วยเจ้า” เขากล่าวเสียงอ่อนโยน ขณะที่ใจของเขายังคงรู้สึกถึงความหนักแน่นในความรู้สึกที่เขามีต่อเธอยังคงตราตรึงทุกขณะ

เธอมองเขาก่อนจะเอ่ย “ข้า… ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือข้า” เธอพยายามจะพูด แม้ว่าเสียงของเธอจะแผ่วเบา แต่เจ้าชายแห่งอู่ซานก็สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกขอบคุณของเธอที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

“แม่นางไม่ต้องเกรงใจ” เขาตอบ พร้อมกับยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น “ข้าเพียงทำในสิ่งที่บุรุษควรกระทำ”

ในใจของเจ้าชายอู่ซาน เขารู้สึกอยากจะได้เธอมาเป็นคนในครอบครองของตน อยากจะทำให้เธอมีความสุขและอยู่เคียงข้างกาย เขาหวังว่าเมื่อเธอหายดี จะมีโอกาสได้แสดงความรู้สึกที่มีต่อเธอ เขามองออกว่าหลี่อ๋องไม่ได้พิศวาสเธอแม้แต่น้อย มีแต่คนบ้าเท่านั้นล่ะที่มองไม่เห็นความงามของเธอ

สตรีใต้หล้าที่เขาพานพบมานักต่อนัก มีใครเทียบแม่นางคนนี้หาได้ไม่

ในขณะที่เจ้าชายแห่งอู่ซานเดินจากไปเพื่อเรียกหมอ เธอยังคงนั่งนิ่งๆ อยู่ในกระโจม ความเจ็บปวดแม้จะยังไม่บรรเทาลง แต่ความรู้สึกที่มีต่อหลี่อ๋องก็ยังวนเวียนอยู่ในใจ เธอรู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตนเองที่มีต่อเขา และการปรากฏตัวของเจ้าชายที่เป็นผู้ช่วยเหลือ แทนที่คนเป็นสวามีจะมาช่วย กลับเป็นชายจากแคว้นอื่น ป่านนี้คนได้เซ็งแซ่กันไปหมดแล้ว ว่าเธอไม่ใช่สนมคนโปรด

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน” เธอคิดในใจ ขณะที่ภาพของเจ้าชายแห่งอู่ซานยังคงผุดขึ้นมาสลับกับใบหน้าและแววตาที่เฉยชาของใครอีกคน “นี่เราอยากให้คนที่ช่วยเราคือคนใจร้ายนั่น อย่างนั้นหรอกหรอ!! บ้าจริง!!”

“พระชายาข้าน้อยเซี่ยนจื่อขอตรวจดูอาการท่านหน่อยนะขอรับ” หมอหลวงเข้ามาตรวจพร้อมกันนั้นก็เขียนเทียบยาพร้อมกับบอกสรรพคุณสมุนไพรและตำรับยาชนิดต่างๆ ก่อนใช้

“รบกวนท่านแล้ว” เธอพยายามฝืนใจตอบแม้น้ำเสียงนั้นจะแผ่วเบาสักเพียงใด ก่อนที่หมอหลวงจะนำผ้าบางมาวางทับที่ข้อมือของเธอก่อนทำการตรวจเช็คชีพจรอีกครั้ง

ตอนนี้ลานประลองก็ได้ยุติลง เมื่อว่าที่พระชายาแห่งต้าชิงได้รับบาดเจ็บ การประลองก็ไม่ได้ดำเนินการต่อไป ขณะที่เสียงซุบซิบนินทาต่างก็ดังมาทุกขณะ เขาไม่คิดจะแก้ต่าง เขาจงใจ และอยากให้มันเป็นแบบนั้น อยากให้ทุกคนรู้ว่าเธอไม่ใช่ชายาคนโปรด เขาอยากเห็นคนอื่นๆ แกล้งเธอได้ตามใจ

ระดับสวามีอย่างเขายังคงไม่สนเรื่องความเป็นความตายของเธอ ดังนั้นก็ไม่ยากที่จะดูออกว่า เขาเฉยชาต่อเธอแค่ไหน

“ถ้าอย่างนั้นในบรรดาเราทั้งสี่ หลี่อ๋องอาจจะต้องใจใครสักคนก็เป็นได้” เมิ่งฮ่าวกล่าว

ในขณะที่หลินเหยาต่างคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ในใจ ก็เธอมีศักดิ์เป็นถึงพระราชนัดดาของฮองเฮาเชียวนะ ก็ไม่แน่ว่าเธออาจจะถูกเลือกให้เป็นคนโปรดก็ได้ คิดพลางแสยะยิ้มในใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel