บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 หวงหยางหมิง

จวนท่านแม่ทัพหวงหยางหมิง

หลังจากที่หวงหยางหมิงกลับมาถึงจวนของตัวเอง เขาก็ให้คนไปเตรียมของเพื่อที่จะอาบน้ำชําระร่างกายทันที

จวนหลังนี้เป็นจวนพระราชทานจากองค์ฮ่องเต้ ตอนที่เขาได้ขึ้นเป็นแม่ทัพพอได้จวนนี้มา หวงหยางหมิงก็ย้ายออกมาจากจวนหลักทันที เพราะเดิมทีหวงหยางหมิงเองก็ไม่ต้องการที่จะอยู่จวนเดิมอยู่แล้ว ตั้งแต่ที่มารดาของตัวเองเสียชีวิตไป จวนที่มากไปด้วยเล่ห์อุบายของผู้คนในนั้นหวงหยางหมิงสะอิดสะเอียดเกินทน หากให้เขาทนอยู่ในนั้นหวงหยางหมิง เกรงว่าคงได้ฆ่าคนในจวนนั้นหมดอย่างแน่นอน

จวนที่ได้รับพระราชทานนี้ค่อนข้างใหญ่ มีเรือนใหญ่และเรือนเล็กแบ่งเป็นสัดส่วน เรือนที่หวงหยางหมิงพักนั้นมีชื่อว่าเรือนจันทรา เป็นเรือนใหญ่ที่สุดและเขาเองก็ชื่นชอบที่สุดด้วย เพราะด้านหลังเรือนนั้นมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่เอาไว้ให้เขาได้อาบน้ำชําระร่างกาย สระน้ำนี้ล้อมรอบไปด้วยต้นไผ่เขียวและดอกไม้นานาพรรณ ทําให้สระนี้งดงามเป็นอย่างมาก ที่เด่นชัดเลยในยามค่ำคืน พระจันทร์จะสาดส่องลงมากระทบเป็นเงากับสระน้ำนี้พอดี ทําให้คนที่พบเห็นนั้นเกิดความสบายใจ หวงหยางหมิงเลยตั้งชื่อเรือนจันทรานี้ด้วยตนเอง

ร่างกํายําค่อย ๆ ปลดเสื้อผ้าและอาภรณ์ต่าง ๆ ออกจากร่างกาย ในขณะที่ขาแกร่งก้าวเดินไปยังสระน้ำ ไหล่กว้างขยับไปมาเพื่อบรรเทาความปวดเมื่อย ร่างที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อทําให้เวลาขยับได้ยินเสียง กระดูกดังลั่นบริเวณที่เขาขยับ ขาของหวงหยางหมิงก้าวลงสระที่มีหมอกจาง ๆ ปกคลุม กล้ามหน้าท้องนูนเป็นรูปเด่นชัด

หากไม่มีแผลเป็นด้านข้างที่เกิดขึ้นเพราะเขาถูกพิษในตอนนั้น ย่อมถือได้ว่ากล้ามหน้าท้องของหวงหยางหมิงนั้นงดงามอย่างไม่มีที่ติ หลังจากที่ลงไปนั่งในสระน้ำแล้ว มือขวาก็ยกขึ้นมาเพื่อถอดหน้ากากที่ปิดใบหน้าเอาไว้ ตอนนี้ในสระน้ำสะท้อนใบหน้าบุรุษคนหนึ่งที่เป็นเงาคู่กับพระจันทร์ที่กําลังสาดส่องลงมาพอดี ใบหน้าคมคายรูปงามเกินกว่าบุรุษ กําลังนั่งหลับตาในสระอย่างเงียบ ๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ คิดถึงเรื่องที่ผ่านมาหวงหยางหมิงก็อดยกยิ้มมุมปากไม่ได้

“ถึงเวลาแล้วสินะ” เสียงทุ้มบ่นกับตัวเอง

ขณะที่กําลังแช่น้ำอย่างสําราญใจ พ่อบ้านโจวก็เข้ามาหานายตัวเองเงียบ ๆ แต่เดิมพ่อบ้านโจวนั้นเคยรับใช้อยู่ที่จวนหลัก จนกระทั่งหวงหยางหมิงย้ายออกมา เขาก็ขอออกมารับใช้นายของตนเอง

“คุณชายขอรับ ผิงเหนียงต้องการเข้ามาปรนนิบัติคุณชายขอรับ”

“สตรีที่เมียรักของบิดาข้าส่งมาน่ะ” ท้ายเสียงที่บ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ “ให้นางกลับเรือนไป”

พ่อบ้านโจวน้อมรับพร้อมกับออกจากห้องนี้ไปเงียบ ๆ เพราะเขานั้นรู้จักนิสัยคุณชายของตัวเองดีว่าเป็นเช่นไร

ด้านนอกเรือนจันทรามีสตรีทรวดทรงเย้ายวนยืนรออยู่ด้วยท่าทีกระวนกระวาย เพราะจะบุกเข้าไปก็เข้าไม่ได้เนื่องจากทางเข้าเรือนนั้นมีทหารคอยเฝ้าอยู่ แม้ว่าอยากจะบุกเข้าไปเพียงใด แต่ทหารที่เฝ้านั้นไม่ยอมอ่อนข้อให้นางเลยแม้แต่น้อย

รอไม่นานพ่อบ้านโจวก็เดินออกมาหาสตรีที่ยืนรออยู่ด้านนอก ผิงอันเห็นพ่อบ้านโจวออกมาก็รีบวิ่งเข้าไปหาด้วยความตื่นเต้นทันที

“พ่อบ้านโจว ท่านแม่ทัพให้ข้าเข้าไปปรนนิบัติได้ใช่หรือไม่”

“คุณชายแจ้งว่าให้เหนียงกลับเรือนไปขอรับ” ผิงอันได้ยินเช่นนั้นใบหน้างามก็บิดเบี้ยวด้วยความโกรธทันที ก่อน จะหันหลังกระทืบเท้ากลับเรือนของตัวเองไปด้วยความไม่พอใจ พ่อบ้านโจวได้แต่ส่ายหัวให้กับความวุ่นวายนี้ หากไม่ใช่เพราะฮูหยินหวงคนปัจจุบันส่งอนุมาให้หวงหยางหมิงจวนนี้คงสงบไม่น้อย

แต่จะทําอย่างไรได้ในเมื่อคุณชายของเขาก็ถูกมัดมือชกเช่นกันเพราะฮูหยินเอกนั้นใช้วิธีสกปรก แต่งอนุมาตอนที่หวงหยางหมิงไปออกรบ โดยให้เหตุผลว่าจะได้มีคนมาช่วยดูแลงานในจวน ซึ่งนายท่านหวงเองก็เห็นดีเห็นงามด้วย

ความจริงแล้วฮูหยินเอกคนนั้นต้องการแต่งภรรยาให้หวงหยางหมิงเลยต่างหาก แต่เพราะหวงหยางหมิงนั้นได้เอ่ยคําพูดที่เป็นเหมือนกับคํามั่นสัญญาระหว่างมารดาของเขาที่เสียไปกับท่านพ่อของเขาว่าจะให้หวงหยางหมิงนั้นเลือกฮูหยินด้วยตนเอง หนิงซูหรือว่าฮูหยินเอกประจําตระกูลหวง คนปัจจุบันจึงทําได้เพียงแต่งอนุเท่านั้น

อนุที่นางแต่งให้กับหวงหยางหมิงมีหน้าที่ช่วยสอดส่องและรายงานเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้นางได้รับรู้แต่หนิงซูนั้นคิดตื้นเกินไป นางคิดว่าหวงหยางหมิงจะมีนิสัยใจคอเหมือนกับบิดา เจอสาวงามก็ลุ่มหลงและโปรดปรานดั่งเช่นบิดาของตน แต่เปล่าเลย เพราะตั้งแต่ที่หวงหยางหมิงกลับมา นอกจากจะไม่สนใจนางแล้ว แม้แต่จะพูดด้วยสักคําก็ยังไม่เคย ยามเห็นหน้าผิงอันก็มองเห็นแต่ไกล ๆ เวลาจะเข้าใกล้ก็จะมีบ่าวรับใช้คอยกันท่าไม่ให้นางเข้าใกล้ จนนางเองก็อดโมโหไม่ได้ เพราะจนตอนนี้ ผิงอันยังไม่ได้เขียนรายงานนายหญิงของตนเองแม้แต่ฉบับเดียว

ผิงอันเดินกลับมายังเรือนตนที่อยู่เกือบท้ายจวนด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวมาถึงเรือนตน ผิงอันก็กวาดสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะทันที

“เจ้าอัปลักษณ์นั่นถือดีอย่างไร ถึงกล้าปฏิเสธข้า!” ผิงอันสบถออกมาอย่างอดไม่ได้

“อี๋๋เหนียงเบา ๆ เจ้าค่ะ ประเดี๋ยวบ่าวคนอื่นได้ยิน จะนําไปฟ้อง ท่านพ่อบ้านนะเจ้าคะ” สาวใช้ประจําตัวเอ่ยตักเตือนนายของตน ก่อนจะรีบปิดประตูเรือนเพื่อไม่ให้คนข้างนอกได้ยิน

ผิงอันได้ยินอย่างนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมสงบแม้แต่น้อย นางหันหน้ามาหาสาวใช้ด้วยแววตาที่แดงก่ำ

“แล้วอย่างไรอยากฟ้องก็ไปฟ้องเลย ข้าก็เบื่อเจ้าอัปลักษณ์นั่นเต็มทนแล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ข้าจะรายงานฮูหยินได้อย่างไรกัน!”

ผิงอันครุ่นคิดถึงแผนการ หากทําแผนการไม่สําเร็จ หนิงซูอาจจะส่งคนอื่นมาเป็นอนุอีก ถึงตอนนั้นนางก็จะเป็นตัวไร้ประโยชน์ หนิงซูต้องไม่เก็บนางไว้แน่นอน

“หรือว่าท่านแม่ทัพอายเกินกว่าจะกล้าพบหน้าเหนียงเจ้าคะ อี๋เหนียงรูปโฉมงดงามปานนี้ ท่านแม่ทัพอาจจะละอายตนเองก็ได้เจ้าค่ะ” สาวใช้บีบนวดร่างกายผิงอันพร้อมกับพูดปลอบเพื่อไม่ให้นายตนอาละวาดมากไปกว่านี้

“เจ้าคิดเช่นนั้นรึ”

“บ่าวก็แค่สงสัยเจ้าค่ะ หากท่านแม่ทัพไม่ละอายตนเอง หรือว่า....”

“หรือว่าอะไร”

“หรือว่า....ท่านแม่ทัพเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อเจ้าคะ” ทันทีที่ได้ยินดวงตาผิงอันเบิกกว้างด้วยความตกใจ

“อาจจะจริงอย่างที่เจ้าว่าก็ได้ แต่ข้าไม่สนใจหรอกนะ ท่านแม่ทัพจะอัปลักษณ์หรือเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อ สิ่งเดียวที่ข้าสนใจคือ ทําอย่างไรก็ได้ให้ข้าได้เข้าใกล้แม่ทัพ ไม่อย่างนั้นข้าก็คงเป็นแค่อนุที่อยู่ท้ายจวนเช่นนี้ และถ้าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปฮูหยินไม่ปล่อยข้าไว้แน่นอน” ผิงอันกํามือแน่น ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องส่งข่าวคราวให้หนิงซูได้รับรู้ และความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ภายในจวนนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel