บทที่ 8 สายตาคุ้นเคย
“พูดถึงท่านรองแม่ทัพหวง ตอนที่ข้าไปดูวันต้อนรับขบวน ข้าเห็นเขาใส่หน้ากากปกปิดใบหน้า ข้าว่าเขาต้องอัปลักษณ์เป็นแน่” นี่ฮวาเอ่ยขึ้นมา
“นั่นสิ ข้าก็เห็นเช่นกัน ผู้ใดจะปิดหน้าตนเองเล่า หากไม่อัปลักษณ์” คุณหนูท่านหนึ่งเอ่ยขึ้นเห็นด้วยกับคําพูดของสหายตัวเอง
“ข้าว่า พวกเราว่าอย่าพูดเรื่องนี้กันเลยจะดีกว่า หากผู้ใดมาได้ยินคงไม่ดี อีกอย่างท่านรองแม่ทัพหวงสร้างความดีความชอบมากมายท่านรองแม่ทัพอาจจะได้รับบาดเจ็บตอนไปออกรบก็เป็นได้” เซียวลี่หงเอ่ยขัดสหายตัวเอง น้ำเสียงสงสารปนเห็นใจของเซียวลี่หงทําเอาบรรดา
คุณหนูทั้งหลายต่างพากันเห็นด้วยแล้วเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นพูดคุยกันได้สักพัก ทุกคนก็แยกย้ายไปนั่งที่ของตัวเองเพราะงานเลี้ยงใกล้เริ่มแล้ว
“ฮ่องเต้ ฮองเฮาเสด็จ”
สิ้นคําประกาศของขันที ก็ปรากฏร่างหงส์คู่มังกรประจําแผ่นดินที่เดินเคียงคู่กันมา โดยมีเหล่าบรรดาองค์ชายและ สนมที่เดินตามหลังมาไม่ห่าง ทุกคนพากันลุกขึ้นยืนทําความเคารพทันที
“ขอฮ่องเต้ทรงพระเจริญ อายุยืนหมื่นปี หมื่นหมื่นปี"
“ขอฮองเฮาทรงพระเจริญ อายุยืนพันปี พันพันปี”
หลังจากทําความเคารพกันเรียบร้อยแล้ว ก็มีบรรดาเหล่านักดนตรีและนางรําออกมาร่ายรําทําการแสดงเพื่อให้งานเลี้ยงสนุกสนาน
ทุกคนในงานต่างมองดูการแสดงอย่างเพลินเพลิน หลังจากการแสดงจบลง ขันทีก็ได้อ่านราชโองการต่าง ๆ ที่ฮ่องเต้ประทานให้แก่เหล่าทหารที่ออกศึกในครั้งนี้ รวมทั้งมีการแต่งตั้งองค์รัชทายาทและแม่ทัพอย่างเป็นทางการด้วย
ชินอ๋องได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาทและหวงหยางหมิง
ได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพประจําการเมืองหลวง
หลังจากที่ชินอ๋องได้ขึ้นไปรับราชโองการจากฮ่องเต้แล้ว ท่ามกลางความยินดีของเหล่าประชาชนที่มาร่วมงาน ต่อมาคนที่ได้ขึ้นไปรับพระราชโองการต่อก็คือรองแม่ทัพหวงหยางหมิง
ทันทีที่ขันที่ประกาศชื่อรองแม่ทัพหวงหยางหมิงทุกคนที่มาร่วมงานต่างพากันเงียบสงบ เพราะกลิ่นอายกดดันที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของรองแม่ทัพหวงหยางหมิน ร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดนิลสีดําปกปิดใบหน้าภายใต้ หน้ากากสีดําที่ตัดกับผิวขาวปิดถึงครึ่งหน้า เห็นเพียงดวงตาและริมฝีปากเท่านั้น ดวงตากลมโตที่ไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใด
ทุกคนล้วนพากันหลบสายตาของเขา มีเพียงสตรีหนึ่งนางเท่านั้นที่จ้องตอบกลับเขาอย่างไม่หวั่นเกรง มุมปากของหวงหยางหมิงยกขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะกลับมาเป็นเช่นเดิม แล้วก็ค่อย ๆ เดินผ่านสตรีที่จ้องมองเขาไป เพื่อขึ้นไปรับราชโองการจากองค์ฮ่องเต้
เซียวเหม่ยอิงมองดูคนที่กําลังขึ้นไปรับราชโองการกับองค์ฮ่องเต้ด้วยความสงสัย ก่อนจะเอ่ยพึมพําออกมา
“เหตุใดข้าถึงรู้สึกคุ้นสายตาของเขานัก"
นางพยายามนึกแต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอสายตาแบบนี้ที่ใด แต่สายตาที่รองแม่ทัพหวงมองมาที่นางมันดูคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าในอดีตนั้นเคยเจอกันมาแล้ว
เซียวเหม่ยอิงได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ กระทั่งฮ่องเต้ได้พระราชทานสิ่งของรางวัลต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว จึงได้ขอตัวกลับวังหลวงพร้อมกับฮองเฮา แต่งานเลี้ยงนั้นยังคงดําเนินไปเรื่อย ๆ มีดนตรีและการร่ายรําอยู่ไม่ขาด เพื่อสร้างความสําราญแก่ผู้คนในงาน
แต่ในเมื่อฮ่องเต้และฮองเฮาไม่อยู่แล้ว องค์รัชทายาทและท่านแม่ทัพที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง ไปหมาด ๆ ก็ขอตัวกลับเช่นเดียวกัน แม้ว่าขุนนางหลาย ๆ คนจะเสียดายโอกาสที่จะเข้าไปทําความรู้จักแต่ก็ต้องห้ามตัวเองเอาไว้ ใครกันจะกล้ารั้งทั้งสองคนไว้
ในเมื่อตัวเอกของงานไม่อยู่แล้ว ผู้คนก็ทยอยกลับเช่นเดียวกัน แต่ ก็มีหลายคนที่ยังอยู่พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
“คุณหนูใหญ่อยากกลับจวนเลยหรือไม่เจ้าคะ ประเดี๋ยวบ่าวจะไปเตรียมรถม้าให้” ลี่จินเอ่ยถามคุณหนูใหญ่ของตัวเอง เพราะตอนนี้เซียวเหม่ยอิงนั่งอยู่ที่โต๊ะเพียงลําพัง ต่างจากทุกคนที่จับกลุ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
“ก็ดีเหมือนกัน ข้าเองก็รู้สึกปวดเมื่อยไปทั่วตัวแล้ว” เซียวเหม่ยอิงตอบกลับสาวใช้ตัวเองด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน เพราะตั้งแต่เข้างานมา เซียวเหม่ยอิงยังไม่ลุกไปไหน นางทําได้เพียงนั่งนิ่ง ๆ ที่โต๊ะเพียงลําพัง ทําเอาคนที่มองมานั้นยิ่งไม่กล้าเข้ามาคุยด้วยท่าทางที่สง่าและเย็นชาของเซียวเหม่ยอิงนั้น แต่ใครจะไปรู้ว่าความจริงแล้วนางกําลังปวดเมื่อยไปทั้งตัวลี่จินไม่รอช้ารีบไปจัดเตรียมรถม้าทันที นางได้แต่สงสารคุณหนู ตัวเองจับใจ คู่หมั้นคู่หมายอย่างคุณชายหลี่ ทั้งที่เห็นกันในงานแท้ ๆ กลับ ไม่เข้ามาทักทายแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่าคนอื่นจะมองคุณหนูตัวเองอย่างไรบ้าง
**************
