ตอนที่สี่ นางกำนัลน้อย
ตอนที่สี่
นางกำนัลน้อย
นางกำนัลสาวพาชิงชิงมาส่งที่เรือนนางกำนัลฝึกหัด ซึ่งมีหญิงสาวพักอาศัยอยู่ร่วมกันหลายสิบคน พวกนางล้วนยังเยาว์วัยและมีหน้าตาสะสวย
“พี่หลัน ท่านพาผู้ใดมาหรือ ไยจึงแปลกตาเช่นนั้น” สาวน้อยท่าทีดีนางหนึ่งทักถามขึ้น
“นางจะมาเป็นนางกำนัลฝึกหัดคนใหม่ องค์ชายเพิ่งรับเข้ามาวันนี้ พวกเจ้าช่วยกันดูแลนางด้วย เอาล่ะ ชิงชิง ต่อจากนี้เจ้าต้องอยู่ที่นี่ และฝึกฝนงานการให้เชี่ยวชาญ ‘พี่เจียว’เป็นหัวหน้านางกำนัลฝึกหัดและจะคอยดูแลสั่งสอนเจ้า” นางกำนัลหวั่นหลันชี้ไปทางหญิงสาวท่าทางเข้มงวดซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล
“นางคือคนที่องค์ชายขี่ม้าชนจนบาดเจ็บหรือ ข้าได้ข่าวว่านางไปคุกเข่าร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าองค์ชายจนได้อยู่ที่นี่ต่อ” หญิงซึ่งหวั่นหลันบอกให้เรียกว่า’พี่เจียว’เอ่ยถาม
แหม...ข่าวไวจริง ชิงชิงคิด
“ใช่ นางชื่อ’ชิงชิง’ เป็นแม่ค้าขายถังหูลู่ในตลาด ยังไม่เคยทำงานใดในวังมาก่อน นางคงไม่รู้ความและยังใช้การไม่ได้ เจ้าคงต้องเหนื่อยสักหน่อยนะเจียวเจียว” หวั่นหลันหันไปบอกหัวหน้านางกำนัลฝึกหัดซึ่งมีอายุไล่เลี่ยกัน
“ไยเจ้าจึงต้องช่วยออกรับแทนนางด้วยเล่าหลันหลัน” นางกำนัลหวั่นเจียวเอ่ยถามด้วยได้ยินคำบอกเล่ามาบ้างแล้ว
“ข้าเพียงสงสารนางเท่านั้น ชีวิตด้านนอกช่างยากลำบากนักสำหรับสาวน้อยกำพร้าไร้ญาติมิตรอย่างนาง อีกทั้งนางก็ดูไม่มีพิษภัยและอ่อนน้อมถ่อมตน คงฝึกฝนได้ไม่ยาก” หวั่นหลันตอบจากใจ
“ขอให้ไม่มีพิษภัยจริงเถิด ข้าเกรงจะพ่นพิษในภายหลังจนทำให้ความหวังดีของเจ้าต้องสูญเปล่า” หวั่นเจียวเอ่ยตอบอย่างไม่แน่ใจ
“ข้าคงต้องรบกวนเจ้าช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย” หวั่นหลันเองก็ห่วงกังวลในเรื่องนี้จึงยังไม่กล้าวางใจนัก
เมื่อส่งชิงชิงจนถึงมือหัวหน้านางกำนัลฝึกหัดแล้ว นับว่าหมดหน้าที่ของนางกำนัลหวั่นหลันซึ่งมีหน้าที่ต้องคอยอยู่รับใช้องค์ชายสิบในตำหนัก นางจึงบอกลาสาวน้อยโดยรับปากว่าจะแวะเวียนมาพูดคุยถามไถ่
ชิงชิงหรือชินานางโดนปล่อยทิ้งให้อยู่ในเงื้อมมือของหัวหน้านางกำนัลผู้เข้มงวดและเหล่านางกำนัลฝึกหัดซึ่งล้วนมีเถือกเถาเล่ากอเหล่านั้น
“ให้แม่ค้าข้างถนนมาอยู่ปะปนกับพวกเรา ชิ ช่างน่ารังเกียจนัก” สาวน้อยคนแรกซึ่งเอ่ยทักนางกำนัลหวั่นหลันสบถออกมาด้วยความไม่พอใจก่อนจะเดินสะบัดหน้าออกไปอย่างไม่กริ่งเกรงหัวหน้านางกำนัลหวั่นเจียว
“เจ้าคงต้องระวังตัวให้มากหน่อย พวกนางล้วนเป็นบุตรหลานขุนนางใหญ่น้อย การเข้ามาฝึกฝนเป็นนางกำนัลก็เป็นเพียงบันไดเพื่อไต่เต้าเท่านั้น อยู่ไปอีกหน่อยเจ้าคงเข้าใจมากขึ้น ยามนี้ก็อย่าได้ทำตัวให้มีปัญหาหรือขัดใจพวกนางเข้าใจหรือไม่” หัวหน้าหวั่นเจียวหันมาสั่งสอนชิงชิง
อ้าว...นางคิดว่าการได้อยู่ในวังจะสุขสบายเสียอีก เพียงแค่ทำงานรับใช้เจ้านายซึ่งมีเพียงคนเดียว งานการควรจะไม่มากมายมิใช่หรือ เหตุใดจึงกลายเป็นเรื่องยุ่งยากวุ่นวายไปได้ กับอีแค่นางกำนัล ยังต้องแข่งขันแย่งชิงกันถึงเพียงนี้เชียวหรือ
สาวน้อยชิงชิงซึ่งสู้อุตส่าห์พลิกผันตัวเองจากตัวประกอบแม่ค้าก้าวเข้ามาสู่ตำหนักองค์ชายได้แต่ทอดถอนใจในโชคชะตา
ในเมื่อไม่อยากอดตายและอยากอยู่ใกล้คนหล่อ ก็คงต้องพยายามให้มาก
หญิงสาวปลุกปลอบใจตัวเองด้วยการคิดถึงใบหน้าหล่อเหล่าของพระเอกและองค์ชายสิบ ในเมื่อทั้งสองคนยังหล่อถึงเพียงนี้ หากได้อยู่ในวังนานขึ้น คงมีโอกาสได้เห็นคนหล่อให้จิตใจกระชุ่มกระชวยจนเยียวยาความเหี่ยวเฉาที่ต้องติดอยู่ที่นี่ได้
ชินานางจำได้ว่าองครักษ์ของพระเอกก็หล่อไม่เบา แล้วยังมีพี่ชายของนางเอกซึ่งมีตำแหน่งเป็นขุนนางยศสูงอีกด้วย เรื่องนี้นับได้ว่าผู้กำกับทุ่มเทงบประมาณให้กับตัวแสดงชายโดยคัดเลือกแต่คนหล่อๆมาให้เหล่าแฟนคลับได้ใจฟูดูกันจนตาคล้ำแทบไม่ได้พักผ่อน
เมื่อได้เข้ามาอยู่ในฉากของวังหลวง สาวน้อยจึงวาดฝันงดงามเฝ้าตั้งตารอว่าจะได้พบหน้าคนหล่อวันละคนสองคนอย่างใจจดใจจ่อ
แต่ความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ สาวน้อยชิงชิงต้องฝึกฝนการเป็นนางกำนัลภายใต้การควบคุมของหัวหน้านางกำนัลหวั่นเจียวอย่างเข้มงวด ทุกวันนางต้องตื่นแต่ฟ้ายังไม่สว่างเพื่อไปช่วยงานในครัว ทั้งตักน้ำหั่นผักจนมือหยาบกร้าน เมื่อเสร็จจากงานครัวก็ต้องไปช่วยจัดเก็บที่นอนของทุกคนแล้วนำผ้าผ่อนไปซักตาก กว่าจะเสร็จงานใช้แรงกายแล้วได้ฝึกฝนการเดินเหินให้อ่อนช้อยก็แทบไม่มีแรงเดินจนถูกตีขาเขียวทุกวัน
