ตอนที่สาม จับพลัดจับผลู 1
ตอนที่สาม
จับพลัดจับผลู
หา! วังขององค์ชาย นี่เธอได้เข้ามาอยู่ในวังจริงๆหรือนี่ แม้จะจำไม่ได้ว่าองค์ชายสิบมีบทบาทอะไรในเรื่อง แต่ขอแค่ได้อยู่ในวังก็มีโอกาสได้เจอพระเอกแล้ว
ชินานางในร่างชิงชิงยิ้มแก้มแทบปริจนสาวงามเอียงคอมองอย่างสงสัย
“เจ้าดีใจที่บาดเจ็บหรือ”
“ข้า...ข้าเพียงแต่รู้สึกขอบคุณองค์ชายที่ดูแลอย่างดีเจ้าคะ” ชิงชิงรีบแก้ตัว
“ความจริงองครักษ์หลงบอกให้พาเจ้าไปไว้ที่โรงหมอ แต่ไม่รู้ว่าองค์ชายทรงคิดอย่างไรจึงพาเจ้าเข้าวังมารักษาที่นี่” สาวงามเอ่ยบอก
“ลำบากพี่คนสวยเสียหลายวัน ข้าต้องขออภัยและขอบคุณมากที่ช่วยดูแลนะเจ้าคะ” ชิงชิงรีบประจบเอาใจเมื่อฟังได้ถึงกระแสเสียงไม่ค่อยพอใจ
เมื่อได้ยินคำชมและเห็นกิริยาอ่อนน้อมถ่อมตน สาวงามจึงลดความขุ่นเคืองและเอ่ยด้วยวาจาเอื้อเอ็นดูมากขึ้น
“ข้าทำตามรับสั่งขององค์ชาย ไม่ต้องขอบคุณหรอก”
“ข้าได้ยินเสียงพี่คนสวยทุกวัน ในใจย่อมจดจำความเอาใจใส่ได้เป็นอย่างดี” ชิงชิงยังหยอดคำหวานไม่หยุดด้วยหวังกระชับความสัมพันธ์ เธอทำงานในกองถ่ายย่อมเรียนรู้การประจบเอาใจจนไหลลื่น
“เรียกข้าว่า’พี่หลัน’เถอะ แล้วเจ้าเล่าชื่อเสียงไร” หญิงสาวให้ความสนิทสนมเพิ่มขึ้นดังคาด
“พี่หลันเรียกข้าว่า’ชิงชิง’เถิดเจ้าคะ”
“อืม...ชื่อน่ารักสมตัว เจ้าคงยังไม่ถึงวัยสาวสินะ”
“เจ้าค่ะ พี่หลันย่อมเห็นเนื้อตัวข้าทั้งหมดแล้ว” ชิงชิงแสร้งเขินอาย
“เชอะ ยังโตไม่เต็มที่มีอันใดน่าดูกัน” พี่หลันค้อนขวับอย่างหมั่นไส้
“เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะไปนำโจ๊กมาให้ เจ้าคงหิวมากด้วยไม่ได้กินอันใดมาหลายวันนอกจากน้ำข้าวและยา” หญิงสาวผู้งดงามเดินออกไปอย่างชดช้อย
ชิงชิงสังเกตได้ว่าหญิงสาวผู้นี้มีท่วงท่าอ่อนช้อย ใบหน้าสวยงาม เครื่องแต่งกายก็ดูดีคงมีตำแหน่งอยู่ไม่น้อยทีเดียว นับว่านางประจบได้ถูกคน
หญิงสาวซึ่งชิงชิงเรียกว่าพี่หลันเข้ามาดูแลสาวน้อยทุกวันจนสนิทสนมกัน ด้วยความสดใสร่าเริงของชิงชิงประกอบกับความอ่อนน้อมและประจบเอาใจ ทำให้พี่หลันเอ็นดูและให้ความเอาใจใส่จนบาดแผลเกือบหายดี
พี่หลันเล่าว่าองค์ชายสิบมีนามว่า’องค์ชายหมิงเล่อ’ เป็นโอรสของฮ่องเต้กับสนมขั้นต่ำจึงไม่ได้รับความสำคัญมากนัก แต่ด้วยยามนี้เหลือองค์ชายซึ่งใช้การได้อยู่ไม่มาก องค์ชายผู้นี้จึงได้รับมอบหมายให้ทำงานหลวงเพื่อแบ่งเบาภาระอยู่บ้าง
องค์ชายที่ได้รับความสำคัญที่สุดย่อมคือองค์ชายรัชทายาทหรือพระเอกของเรานั่นเอง ส่วนองค์ชายคนอื่นๆล้วนประสบเภทภัยจากการแย่งชิงจนสิ้นชีพไปเหลือเพียงองค์ชายเก้าและองค์ชายสิบที่มีวัยไล่เลี่ยกัน องค์ชายหลังจากนี้ยังคงเยาว์วัยจึงไม่สามารถช่วยงานใดได้
“วันนั้นองค์ชายสิบเพิ่งกลับจากการตรวจงานนอกเมืองและรีบควบม้ากลับเข้าวังหลวง จึงขี่ม้าผ่านตลาดเพื่อร่นระยะทาง แต่ม้ากลับพยศจนคุมไม่อยู่ เจ้าคงไม่คิดมากที่ต้องเจ็บตัว”พี่หลันบอกเล่าเหตุการณ์
“ข้าไม่บังอาจคิดเช่นนั้นหรอกเจ้าคะ เพียงพระองค์พาตัวมารักษาและดูแลอย่างดี ก็เป็นพระเมตตาแล้ว”
สาวน้อยตอบอย่างอ่อนน้อม แต่เมื่อคิดได้ว่าอีกไม่กี่วันเมื่อหายดีคงต้องออกไปขายถังหูลู่เช่นเดิม จึงครุ่นคิดหาหนทางเพื่อจะได้อยู่ในวังหลวงต่อไป สาเหตุหลักคือเรื่องปากท้องแต่สาเหตุประการสำคัญก็คืออยากได้อยู่ใกล้ๆพระเอกสุดหล่อนั่นเอง
นางเป็นตัวประกอบฉากเดียว หากจะเล่นบทบาทอื่นที่นอกเหนือคงไม่สลักสำคัญจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องหลักไป
“พี่หลันเจ้าคะ พี่ช่างแสนดีมีน้ำใจงาม ยามอยู่กับพี่ข้ารู้สึกอบอุ่นดั่งอยู่กับพี่สาวแท้ๆ หากข้าได้อยู่กับพี่ที่นี่คงมีความสุขมากทีเดียว” ชิงชิงเริ่มใช้การออดอ้อน
“ข้าเองก็ชอบเจ้ามาก เจ้าช่างเจรจาทำให้ข้าอารมณ์ดีไม่มีเหงา อีกทั้งไม่มีเล่ห์เหลี่ยมให้ต้องระวังตัวเช่นคนอื่นๆ แต่การจะอยู่ที่นี่ย่อมอยู่นอกเหนืออำนาจของข้า ผู้ที่สามารถตัดสินว่าเจ้าจะได้อยู่หรือไม่มีเพียงองค์ชายสิบเท่านั้น” พี่หลันเอ่ยบอกความจริง
“เช่นนั้นข้าจะมีโอกาสขอเข้าพบองค์ชายสิบหรือไม่เจ้าคะ” ชิงชิงส่งสายตาอ้อนวอน
“ข้าจะลองหาทางดู อาจจะอ้างว่าเจ้าอยากขอบคุณองค์ชายที่ช่วยรักษาจนหาย ดีหรือไม่” พี่หลันแบ่งรับแบ่งสู้
“ดีเจ้าค่ะ” ชิงชิงยิ้มประจบ
“แต่หากองค์ชายไม่ตอบรับ ข้าก็คงช่วยอันใดไม่ได้ เจ้าอาจจะต้องออกจากวังในทันทีที่หายดีแล้ว”
“เพียงพี่หลันช่วยหาทาง ข้าก็ขอบคุณมากแล้วเจ้าค่ะ” สาวน้อยยิ้มแย้มขอบคุณ
จากการหาลู่ทางของนางกำนัลหวั่นหลันซึ่งเป็นนางกำนัลใกล้ชิด ทำให้ชิงชิงมีโอกาสได้เข้าเฝ้าองค์ชายสิบในเย็นวันนั้นเอง
