9.ล้มเหลว
ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาที่เป่ารดลงมา มันทำให้สติทั้งหมดของเธอถูกลบลืมไปชั่วขณะ ความวาบหวิวแล่นริ้วขึ้นมาในทันทีที่เขาสัมผัสผิวกาย ทุกจุดที่เขาสัมผัสราวกับมีไฟร้อนขึ้นมา เธอกำลังหลงใหลและมัวเมาไปกับความสุขแสนหวานที่เขากำลังมอบให้
อาลีนในยามนั้นเหมือนลูกกวางน้อยที่ต้องอยู่ใต้อานัติของเจ้าป่า อีกฝ่ายสามารถจัดการเธอได้ตามที่ต้องการ เพราะดูเหมือนว่าเธอจะสูญเสียสติไปแล้ว
ปลายนิ้วของอาลีนลูบไล้แก้มของอีกฝ่ายราวกับว่าเธอกำลังร้องขอไม่ให้เขาผละริมฝีปากออกไป จุมพิตยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นจนเธอรู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองกำลังขาดออกจากกันเป็นห้วงๆ อ้อมแขนกำยำนั้นมีอุณหภูมิสูงกว่าแขนของเธอ เขากดสะโพกลงมาเล็กน้อยเพื่อให้ส่วนนั้นเสียดสีกันไปมา เธอกำลังปล่อยให้ความปรารถนาพัดพาไปพร้อมกับรอคอยที่จะได้ลิ้มรสความหอมหวานจากร่างกายของเขามากกว่านี้ เรียวขาขาวเนียนหุบเข้าหากันแน่น ริมฝีปากของเขาเลื่อนมากระซิบที่ข้างใบหู
“ดูเหมือนว่าขาของข้าจะหายดีแล้วครับ..วันนี้เอาไว้เท่านี้ก่อนดีกว่า”
ความรู้สึกของอาลีนมันเหมือนกับว่าเธอกำลังพลัดตกจากที่สูง แน่นอนว่าเมื่อครู่มันดีมาก และเธอก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจว่าทำไมเขาถึงไม่ทำมันต่อ..ทั้งๆ ที่เธอสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความต้องการตรงส่วนนั้นของเขา
เธอทำท่าจะกล่าวถามออกมาแต่ทว่าก็ชะงักเอาไว้ บางทีการปล่อยให้มันจบลงแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เราทั้งคู่ไม่ควรก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตที่ขีดเอาไว้..
“พรุ่งนี้ฉันจะมาสอนนายท่านเต้นรำใหม่นะคะ..”
“ไม่ต้องแล้วล่ะ พรุ่งนี้ไม่ต้องมาที่นี่อีกแล้วนะ ข้าคิดว่าตัวเองเรียนรู้เรื่องชนขั้นสูงของเมืองหลวงไปหมดแล้ว และนี่คือค่าจ้างของเจ้า”
เขาส่งถุงเงินให้เธอ มันเป็นเงินจำนวนมากกว่าค่าจ้างการสอนหนังสือของดันเต้ซะอีก
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและสับสนของอาลีนยังคงเด่นชัดอยู่ในหัวทุกครั้งที่เขานึกถึง ริมฝีปากของเดเมี่ยนแสยะยิ้มชั่วร้ายออกมา เขากำลังรอคอยให้อาลีนเป็นฝ่ายที่ทนไม่ไหว และเดินเข้ามาหาเขาด้วยเท้าเล็กๆ ทั้งสองข้างของเธอ
ทุกอย่างกำลังอลม่านตีกันอยู่ในสมอง เมื่ออาลีนกลับมาถึงห้องนอนของตัวเอง เธอยกมือขึ้นมาขยี้ผมจนหัวยุ่งด้วยความไม่เข้าใจว่าเหตุการณ์เมื่อครู่มันคืออะไรกัน เป็นเขาเองที่ข้ามมาหาเธอก่อน เป็นเขาเองที่เริ่มจูบนั่นก่อน เป็นเขาเองที่เริ่มทำมันแล้วทำไมถึงเป็นเขาที่ปฏิเสธจะเดินหน้าต่อ ความคลุมเครือเข้าปกคลุมบรรยากาศในห้องนอนของอาลีน เธอยกมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง มันยังร้อนและทิ้งความรู้สึกมากมายเอาไว้ในส่วนลึกของความทรงจำ
เธอหลับตาลงแล้วล้มตัวนอน ในขณะที่ปลายนิ้วยังคงแตะอยู่บนริมฝีปากนั่นไม่ห่างไปไหน
เอายังไงดีนะอาลีน ฉันควรจะทำอย่างไรดี
รุ่งเช้าเดินทางมาถึงพร้อมกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวที่เป็นปกติ เธอทำงานสอนหนังสือของคุณชายน้อยเหมือนเดิม เหมือนในทุกๆ วัน นายท่านเดเมี่ยนเมินเฉยต่อเธอราวกับว่าเมื่อคืนนั้นไม่มีเรื่องอะไรให้เขาต้องจดจำ และในวันนี้ครบสองสัปดาห์พอดี ที่ผ่านมาเราไม่ได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัว แต่วันนี้คือวันครบกำหนดที่เธอจะต้องเข้าไปรายงานความคืบหน้าของคุณชายน้อยดันเต้ให้นายท่านทราบ นี่คืองานที่เธอจะต้องทำในทุกสอบสัปดาห์
ในเมื่อเขาทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในคืนนั้น แล้วเธอจะคาดหวังให้มันได้อะไรขึ้นมาล่ะ
“เรื่องการอ่าน คุณชายน้อยทำได้ดีมากกว่าสัปดาห์ที่แล้วเยอะเลยค่ะ สามารถอ่านคำง่ายๆ และออกเสียงได้ถูกต้องแล้ว ส่วนเรื่องการเขียนยังต้องฝึกอีกมากพอสมควร..”
เดเมี่ยนหยิบกระดาษการบ้านของน้องชายขึ้นมาดู เขาไม่ได้มองหน้าเธอด้วยซ้ำ
“อืม..ฝีมือดีใช้ได้เลยนะครับ หวังอย่างยิ่งว่าในอีกสองสัปดาห์ ดันเต้จะมีการพัฒนาที่ดีขึ้น ออกไปได้แล้ว..ข้าจะออกไปข้างนอกเช่นเดียวกัน”
น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชาราวกับว่าเธอคืออากาศ เสียงที่เต็มไปด้วยความเฉยเมยของเขาบาดลึกลงไปในใจของเธออย่างไม่รู้ตัว อาลีนได้แต่ก้มหน้าลงแล้วเดินออกมา
“มาดูสิว่า ระหว่างเราสองคนใครกันแน่ที่จะทนไม่ได้ก่อนกัน”
เจ้าจะต้องกลับมาหาข้าอย่างแน่นอนอาลีน สัมผัสที่เขาสร้างเอาไว้ในจิตใต้สำนึกของเธอมันจะต้องชัดเจนมากกว่าสิ่งไหน และนั่นจะต้องทำให้เธอถูกความกระหายควบคุม เขาจะรอคอยเธออย่างใจเย็นที่ห้องทำงานของเขา..จะต้องมีสักคืนแน่ๆ ที่เธอมาหาเขา
ทว่าความมั่นใจของเดเมี่ยนกับถูกทำลายไปจนหมดสิ้นเมื่ออาลีนให้ความสนิทสนมกับคนสวนคนใหม่อย่างเมล น้องชายของมาลี
“เจ้าทำได้แน่ๆ ค่ะ เจ้าจะต้องเป็นท่านเซอร์ที่มีเกียรติและเก่งกาจที่สุดเลย”
อาลีนไม่ได้แค่สอนให้เมลอ่านตัวอักษรได้ แต่เธอยังให้กำลังใจเขาอีกต่างหาก นั่นทำให้เมลตกหลุมรักอาลีนตั้งแต่ครั้งแรกที่เราพบเจอกัน ตอนที่พี่สาวของเขาบอกว่าจะหาอาจารย์มาสอนหนังสือเขายังกังวลว่าเราจะมีเงินจ้างไหม เพราะค่าจ้างท่านอาจารย์สอนหนังสือนั้นไม่ใช่ถูกๆ เลย แต่อาลีนกลับสอนเขาฟรีๆ เธอคิดค่าจ้างเป็นความตั้งใจของเขา เธอจะไม่เก็บเงิน หากว่าเขาสอบติดขุนนาง..แต่หากว่าเขาสอบไม่ติดเธอขู่ว่าจะเก็บเงินพี่มาลีย้อนหลัง
“ข้าจะทำให้ได้ครับ..”
ความสนิทสนมของอาลีนและคนสวนนั้นอยู่ภายใต้สายตาของ เดเมี่ยนทั้งหมด เขามองดูสายตาที่เต็มไปด้วยความรักของเจ้าเด็กคนนั้นที่กำลังมองอาลีนของเขาด้วยแววตาที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก
“เอเดน..ข้าต้องการให้น้องชายของมาลีสอบขุนนางผ่าน ใช้เส้นสายของเราช่วยเขาหน่อยเถอะ”
เอเดนไม่เข้าใจว่าทำไมในวันนั้นนายท่าน ของเขาถึงได้มีน้ำใจมากนัก
สามเดือนต่อมา เมลสอบติดขุนนางจริงๆ เขาตั้งเอาไว้แล้วว่าจะมาขออาลีนแต่งงานหากว่าเขาสอบติดขุนนาง
“ข้าแค่อยากจะตอบแทนเจ้า..ช่วยมาที่นี่ตามนัดของข้าได้รึเปล่า?”
อาลีนรับบัตรเชิญของเมลมาโดยที่เธอไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลย เธอคิดแค่ว่าเราทั้งสองเป็นพี่น้องกันเพราะว่าเธอเองก็มีน้องชาย อาลีนจึงเอ็นดูเมลเป็นพิเศษ เธอเองก็สนิทกับมาลีมากๆ ด้วย น้องชายเพื่อนก็เหมือนกับน้องชายเธอ
“เกรงใจมากไปแล้วเมล ไม่ต้องตอบแทนข้าหรอก”
“อาลีน..ข้าอยากให้เจ้าไปนะ คิดซะว่านี่คือความตั้งใจของข้า เจ้าบอกจะตอบแทนความตั้งใจของข้าหากว่าข้าสอบติด..”
เธอไม่ได้กล่าวคำใด อาลีนเพียงแค่ส่งยิ้มให้กับเมลเท่านั้น เธอเดินกลับมายังที่พักของตัวเอง และเมื่ออาลีนเปิดประตูห้องนอนเข้ามาเธอก็พบกับนายท่านเดเมี่ยนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงเล็กๆ ของเธอ
เมื่อเขาเห็นเธอเดินเข้ามาเขาก็รีบลุกขึ้นแล้วตรงเข้าไปหาอาลีนในทันที
“เจ้าทำให้ข้าหงุดหงิดตลอดเวลาเลยอาลีน ทั้งๆ ที่วันนั้นเจ้ามองข้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักแล้วทำไมเจ้าถึงไม่ไปหาข้าล่ะ..ทำไมถึงขี้ขลาดและหวาดกลัวมากขนาดนั้น”
