บท
ตั้งค่า

7.หลอกล่อ

หลังจากทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จเรียบร้อย และส่งนายน้อยดันเต้ออกไปจากคฤหาสน์โรสเบลได้สำเร็จ สิ่งที่อาลีนทำคือการขออนุญาตท่านพ่อบ้านเพื่อออกไปด้านนอกคฤหาสน์ เธออยากจะพบเจอกับน้องชายและหากว่ามีโอกาสเธออยากจะไปพูดคุยกับท่านบารอนกู๊ดด้วยตัวเองเรื่องการฝากฝังน้องชาย

เมื่ออาลีนเดินทางมาถึงที่บ้านของเธอ เธอก็ต้องพบเจอกับความประหลาดใจ เมื่ออลันยังไม่ได้ออกไปไหน เขากำลังทำความสะอาดบ้านพร้อมกับจัดข้าวของต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเรื่องงานบ้านอลันไม่เคยลงมือทำเลยแม้แต่ครั้งเดียว

“อลัน..นี่เจ้าไปคุยกับท่านบารอนมาแล้วใช่ไหม? เรื่องกำหนดการแต่งงานเป็นอย่างไรบ้าง แล้วเจ้าจะต้องย้ายไปอยู่ที่นั่นรึเปล่า”

คำถามมากมายที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงใยของพี่สาวยิ่งตอกย้ำทำให้ในใจของอลันรู้สึกผิด เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าท่านพี่แบกรับเรื่องราวต่างๆ เอาไว้มากมายขนาดนี้ ไม่รู้มาก่อนว่าบ้านของเรามันไม่มีเงิน เพราะแบบนั้นในตอนที่เขาอยู่ที่อคาเด็มมี่เขาถึงได้ทำตัวเสเพลและผลาญเงินไปวันๆ หลังจากเรียนจบเขาก็อ้างนู่นนี่ไปเรื่อยเพื่อยังไม่หางานทำ.. แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าที่ผ่านมาเขากำลังทำตัวเป็นภาระของพี่สาว

“เรื่องนั้นข้าไปคุยมาเรียบร้อยแล้วครับ แต่ข้ายืนกรานไปแล้วว่าจะจ่ายเงินค่าจัดงานแค่หนึ่งร้อยเหรียญไปก่อน ที่เหลือข้าจะผ่อนใช่ท่านบารอน..นี่คือเงินสองร้อยเหรียญที่เหลือ พี่เอาไปคืนนายจ้างของพี่นะครับ พี่จะได้ทำงานที่นั่นน้อยลงหน่อย พี่จะได้เป็นอิสระเร็วขึ้น ช้าบอกกล่าวกับท่านบารอนไปแล้วว่าข้าจะสอบเข้าขุนนางในปีนี้ด้วย เพราะมีลูก..ข้าจึงต้องมีงานที่เป็นของตัวเอง อีกทั้ง..ข้าควรจะรับผิดชอบชีวิตพี่บ้าง”

เมื่อได้ฟังเช่นนั้น อาลีนรู้สึกว่าฟ้ากำลังผ่าลงกลางหัวของเธอกลางวันแสกๆ นี่หูเธอฝาดไปรึเปล่า เจ้าน้องชายที่ดีแต่สร้างเรื่องไปวันๆ กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

อาลีนจุดยิ้มที่มุมปากด้วยความพึงพอใจ เธอจะนำเงินจำนวนสองร้อยเหรียญนั่นส่งคืนให้อลัน

“พี่ยินดีทำงานนะอลัน ก็ดีแล้วที่ท่านบารอนตกลงให้เจ้าผ่อนค่าจัดงานแต่งได้ แต่เจ้าเองก็จะต้องใช้เงินจำนวนมากเหมือนกันนี่ หากว่าลูกของเจ้าเกิดมาจะเอาแต่พึ่งพาท่านบารอนไม่ได้หรอกนะ อย่างน้อยข้าก็ดีใจที่เจ้ายืดอกยอมรับเกรซเป็นภรรยา กำหนดงานแต่งคือเมื่อไหร่กัน พี่จะลางานเอาไว้ล่วงหน้า งานแต่งของเจ้าทั้งที พี่ควรจะเข้าร่วมสิ..”

อลันกอดพี่สาวของเขาเอาไว้แน่น ก่อนที่เขาจะร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น

“ฮือ!! ข้าผิดเองครับ เป็นข้าที่ผิด ข้าทำให้พี่เดือดร้อนครั้งแล้วครั้งเล่า พี่ต้องกลับไปทำงานก็เพราะข้า..ข้าจะพยายามตั้งใจหาเงินเพื่อไปใช้หนี้ที่นายน้อยจ่ายเป็นค่าแรงล่วงหน้ามาให้พี่นะครับ.."

เธอเข้าใจในความหวังดีของน้องชาย แต่ทว่าการอยู่ที่โรสเบลในครั้งนี้มันไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆ เธออยู่กับความเป็นไปได้ ไม่ใช่ความเพ้อฝัน อีกทั้ง..ดันเต้ก็น่ารักน่าเอ็นดูมากทีเดียว

“ไม่เป็นไรอลัน เจ้าคิดแค่เรื่องของตัวเองเถอะ เรื่องของพี่ เดี๋ยวพี่จัดการเอง..พี่อยู่ที่โรสเบลก็มีความสุขดี..ที่นั่นเป็นที่ที่พี่เคยทำงานมาก่อน เพราะแบบนั้นพี่พอจะรู้จักสาวใช้คนเก่าๆ อยู่บ้าง..พี่ชอบที่ได้กลับไปทำงานนะ เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล..”

การได้มีงานทำมันถือว่าชีวิตของเธอได้กลับมีค่าอีกครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านี้เธอเป็นคนตกงานที่หางานทำไม่ได้เลย งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มีด้วยเช่นกัน การมีงานทำ..มันดีที่สุดแล้ว

อลันจับมือพี่สาวของเขาเอาไว้

“หากว่าพี่ต้องการเช่นนั้น..ข้าก็จะตามใจพี่ แต่หากว่าพี่ไม่อยากอยู่ที่นั่นต่อไป กลับมาอยู่ที่บ้านเรานะครับ”

ข้าจะทำทุกหนทางเพื่อหาเงินให้ได้เยอะๆ วันที่พี่ไม่อยากอยู่ที่นั่นข้าจะไปไถ่ตัวพี่ออกมาเอง

“อ่า..พี่อยากจะคุยกับท่านบารอนสักครั้ง อย่างน้อยพี่ก็อยากจะฝากฝังเจ้าเอาไว้กับท่านบารอน..”

อลันส่งยิ้มให้พี่สาว

“ท่านบารอนไม่อยู่ครับ เห็นว่าท่านเดินทางไปที่ชายแดนเพื่อส่งมอบเสบียงให้แก่ทหารที่ไปออกรบ ท่านเอิร์ลแห่งโรสเบลนำทหารกล้าบุกพระราชวังของอาณาจักรรันเดล ท่านประกาศก้องว่าจะจบการศึกครั้งนี้ในสามสัปดาห์ อีกราวๆ หนึ่งเดือนท่านน่าจะกลับมาถึงแกบาร์แล้วนะครับ น่าอิจฉาพี่จังเลยนะครับที่พี่ได้ทำงานรับใช้วีรบุรุษสงครามอย่างท่านเอิร์ล..ข้าขอไปหาพี่บ้างได้ไหม ข้าเองก็อยากจะเห็นหน้าของท่านเอิร์ลผู้เก่งกาจสักครั้ง”

แค่ได้ยินชื่อของเขา ใบหน้าของเธอก็ชาหนึบไปหมด รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้างาม ดวงตาทั้งสองข้างฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด

ไหนว่าอีกหกเดือนถึงจะกลับมา แล้วทำไมมันถึงได้เป็นอีกหนึ่งเดือนไปได้ล่ะ

นี่อลันฟังผิดมารึเปล่า? ถึงแม้อยากจะถามแต่ว่าเธอไม่อยากจะเผยพิรุธให้น้องชายได้เห็น

“เอาไว้พี่ทำงานที่นั่นนานกว่านี้อีกหน่อยเจ้าค่อยไป อย่าลืมสิว่าถึงพี่จะเคยทำงานที่นั่นมาก่อน แต่ตอนนี้พี่ถือเป็นสาวใช้คนใหม่นะ พี่เกรงใจท่านพ่อบ้านด้วย”

เธออยากจะเก็บซ่อนอลันจากสายตาของนายท่านเดเมี่ยน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ในใจของเธอถึงหวาดกลัวเขามากเหลือเกิน อาจจะเป็นเพราะว่าเขาคือคนที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองบรรลุเป้าหมาย..

อย่างเช่นครั้งแรกที่เราพบเจอกัน

“อาลีนอย่างนั้นสินะ น้องชายของข้าค่อนข้างขี้อายหวังว่าเจ้าจะทำให้เขายินยอมเปิดใจให้เจ้าสอนเขาด้วยความเต็มใจนะ”

ราวกับตกอยู่ในภวังค์ ใบหน้านั้นของนายท่านเดมี่ยนทำให้เธอรู้สึกสับสนและประหม่าไปหมด

“ค่ะนายท่าน ฉันจะตั้งใจทำงานสอนคุณชายน้อยให้ดีที่สุด”

ปลายนิ้วของเดเมี่ยนกำลังเคาะโต๊ะเบาๆ ราวกับว่าเขากำลังใช้ความคิด

“อันที่จริง ข้ามีบางเรื่องที่ยังกังวลอยู่ เพราะพึ่งได้รับบรรดาศักดิ์เอิร์ลมา..แน่นอนว่าข้าหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมงานเลี้ยงที่เมืองหลวงมิได้ หากไม่เป็นการรบกวนมากจนเกินไป ข้าอยากให้ท่านอาจารย์มาสอนเรื่องมารยาทพื้นฐานะของบุรุษให้อีกสักครั้ง จริงอยู่ที่ข้าเคยเรียนมันมาแล้ว แต่อาจารย์คนเก่าที่สอนข้านั้นเป็นเพียงแค่อาจารย์แก่ๆ ในแกบาร์ อาจารย์ที่มาจากเมืองหลวงน่าจะสอนข้าได้ดีมากกว่าใช่ไหมครับ ข้าจะจ่ายค่าจ้างพิเศษให้..แค่เจ้ามาหาข้าที่ห้องทำงานชั้นสอง..ในตอนหนึ่งทุ่มทุกวัน”

ในตอนนั้นเธอยังไม่อายุสิบแปดเลยด้วยซ้ำ อีกสามเดือนถึงจะครบกำหนดวันเกิดของเธอ อาลีนในช่วงเวลานั้นยังถือว่าเป็นเด็ก

ส่วนท่านเดเมี่ยนอายุยี่สิบสอง เขามองเห็นความไร้เดียงสาของกวางตัวน้อยที่แสนงดงามตัวนั้น เขาจึงพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อหลอกล่อกวางตัวนั้นด้วยผลไม้แสนหวาน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel