2.ทางเลือกที่เดินมาหา
ห้าปีผ่านไป
ฉันกำลังยืนมองหน้าน้องชายตัวดีที่จับมือของสตรีผู้หนึ่งเอาไว้แน่น
“พี่ครับ ข้ากล้าทำกล้ารับผิดชอบอยู่แล้ว เกรซท้องลูกของข้า หลานของพี่อยู่นะครับ..พี่จะผลักไสเราทั้งสองคนไปจริงๆ นะเหรอ?”
ช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมามันเหมือนกับมีเงาของฝันร้ายติดตามตัวของฉันอย่างไม่หยุดหย่อน เงินทองที่ท่านแม่ให้เอาไว้ดูเหมือนจะหมดไปอย่างรวดเร็วมากกว่าที่คิด ฉันหางานไม่ได้เลย ไม่ได้รับจ้างสอนพิเศษของชนชั้นสูงตระกูลไหน อีกทั้งเจ้าน้องชายตัวดีก็ขยันสร้างเรื่องมากเหลือเกิน ต่อยตีกับเพื่อนที่โรงเรียนไม่เว้นแต่ละวัน แถมในยามนี้เขากำลังทำสตรีท้อง
คุณหนูเกรซ เลดี้ตระกูลบารอนด้วย นี่คงไม่ใช่ว่าท่านบารอนจะมาฆ่าเราสองคนหรอกใช่ไหม
“ข้าหนีท่านพ่อมาค่ะ ข้าเองก็รักอลันไม่แพ้กัน เราทั้งสองคนรักกันนะคะพี่สาว..แถมข้าก็อายุสิบแปดแล้วด้วย ข้าพร้อมที่จะแต่งงานและตั้งครรภ์แล้วค่ะ”
อยากจะบ้าตายรายวัน ฉันเห็นใจความรักของเด็กทั้งสองคนแต่ชีวิตมันต้องคำนึงถึงความจริงด้วยสิโว้ย!!
“เลดี้เกรซ เจ้าไม่เสียใจอย่างนั้นหรือที่ลูกของเจ้าจะไม่ได้เป็นเลดี้หรือว่าคุณชายจากชนชั้นสูง ไม่เสียใจหรือคะที่ลูกในท้องของเลดี้จะต้องเติบโตอย่างยากลำบากเพราะพ่อที่ไม่เอาไหนของเขา อลันยังไม่มีงานทำเลยนะคะ เขาพึ่งเรียนจบและข้าตั้งใจว่าปีนี้จะให้เขาสอบเป็นเซอร์ดู ทั้งสองคนจะต้องหมดอนาคตเพราะการไม่มีความยับยั้งชั่งใจ มันสมควรแล้วอย่างนั้นหรือคะ?”
อลันและเกรซมองหน้ากันก่อนที่คนทั้งคู่จะหัวเราะออกมาเบาๆ
“แหมพี่..อย่างกล่าวจริงจังไปหน่อยเลยน่า ถึงอย่างไรเกรซก็ท้องขึ้นมาแล้ว เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนะครับ ข้าแค่อยากอยู่กับนางให้มากกว่านี้จึงพานางมาที่นี่ พี่เองก็อย่าใจแคบไปหน่อยเลยน่า จากนี้ไปข้าจะตั้งใจทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูกของข้าเอง พี่วางใจเถอะ”
วางใจ?..เอาอะไรไปวางใจได้กัน น้องชายของเธอมันไม่เอาไหน เรื่องนั้นเธอรู้ดีมากกว่าใครทั้งนั้น แล้วเธอในตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีงานด้วย จะเอาเงินที่ไหนมาช่วยพวกเขาทั้งสองคน เงินเก็บที่มีก็เริ่มร่อยหรอลงไปทุกวัน
“ข้าต้องการให้เจ้ามาจัดงานแต่งลูกสาวของข้าอย่างสมเกียรติของตระกูลกู๊ด ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าน้องชายของเจ้าจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป หลานของข้านั้น ข้าเลี้ยงเองได้ เมื่อกล้าทำเช่นนั้นน้องชายของเจ้าก็จะต้องกล้ารับผิดชอบ..”
ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก เมื่อท่านบารอนรู้แล้วว่าลูกสาวของท่านตั้งครรภ์กับคนที่ไม่ได้เรื่องอย่างอลัน
คราวนี้จะทำยังไงดี
“พี่ครับ พี่ต้องช่วยข้านะ ข้ายังไม่อยากตาย!!”
อาลีนถอนหายใจออกมาอย่างเหลืออด
“อลัน เจ้ากลัวตายมากกว่าที่จะไม่ได้เห็นหน้าลูกตัวเองงั้นเหรอ? ข้าถามเจ้าจริงๆ เถอะเจ้ารักเลดี้เกรซจริงๆ ใช่ไหม?”
อลันเงียบไปพักหนึ่ง ท่านพี่ของเขานั้นเป็นสตรีที่งดงามมากจริงๆ และตัวเขาเองก็หล่อเหลาถอดแบบมาจากท่านพ่อไม่ผิดเพี้ยน เพราะความหน้าตาดีนี่แหละที่ทำให้มีสตรีมากมายเดินเข้ามาหาเขา บอกตามตรงว่าเขาไม่ได้รักชอบเกรซมากขนาดนั้น แต่นางคือสตรีที่ดีและเข้าใจเขามากกว่าคนอื่นๆ อีกทั้งนางรวย..นางจ่ายให้เขาได้สบายๆ ทั้งค่าของกินของใช้ เขาชอบนางแต่ไม่ได้คิดจะรับนางเป็นภรรยาสักหน่อย หากว่านางไม่ตั้งครรภ์ขึ้นมาเขาก็คงไม่มาลงเอยกับนางหรอก
“ข้า..ขอโทษครับ แต่พี่ต้องช่วยข้าก่อนนะ ข้ายังไม่อยากตาย”
มีความจริงที่ฉันควรจะบอกกับอลันให้รู้ เราไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นไปจัดงานแต่งให้กับท่านบารอนหรอก แค่เงินจะกินยังไม่พอเลยแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจัดงานแต่งแบบสุดแสนอลังการกัน
“เราไม่มีเงินหรอกอลัน พี่ไม่ได้ทำงานมาหลายปีแล้ว เพราะว่าไม่มีคนจ้าง เงินที่ส่งเจ้าเรียนคือเงินที่ท่านพ่อท่านแม่ให้เอาไว้ และในตอนนี้มันกำลังจะหมดแล้ว..เราไม่มีเงินแล้วอลัน”
ความเจ็บปวดของอลันคือเขาคิดเอาไว้ว่าเรายังพอจะมีเงินเพราะแบบนั้นเขาจึงใช้เงินแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่สนใจว่าท่านพี่จะอยู่ในสภาพแบบไหน มิน่าล่ะเขาถึงไม่เห็นท่านพี่ซื้อชุดเดรสชุดใหม่เลย เพราะว่าเราไม่มีเงินแล้วนี่เอง
ความเจ็บปวดของอาลีนคือเธอมันไร้ความสามารถ แค่ปกป้องน้องชายยังทำไมได้เลย เธอพยายามหางานมาโดยตลอดในระยะเวลาหลายปีมานี่ แต่ทว่าก็ไม่มีงานไหนที่จะรับสตรีเช่นเธอทำเลย แม้แต่งานสาวใช้..มันน่าเศร้าที่พอคิดถึงตรงนี้ทีไร ความรู้สึกเก่าๆ ก็หวนกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง เธอทำงานที่คฤหาสน์โรสเบลเป็นที่สุดท้าย..หากวันนั้นเธอไม่ยอมออกมา ป่านนี้เธอจะเป็นยังไงนะ ยังจะได้อยู่กับท่านเดเมียนอยู่รึเปล่า หรือว่าเขาจะเบื่อแล้วเขี่ยเธอทิ้งไป..
อาลีนกอดน้องชายเอาไว้แน่นด้วยความรู้สึกเจ็บปวด
“ข้าขอโทษนะครับท่านพี่ เป็นเพราะข้าเองที่ทำให้ท่านพี่ลำบาก..”
อลันร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ เขากำลังสำนึกในความผิดที่ตัวเองทำลงไปอยู่
“....!!”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาในกลางดึก อลันอาสาจะไปเปิดประตูเองเพราะเขาคิดว่าคงเป็นคนของท่านบารอนที่ย้อนกลับมาเพื่อสั่งการอะไรเพิ่ม
อลันเลิกคิ้วขึ้นสูงเพราะความบุรุษเบื้องหน้าเป็นคนที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
“ข้ามาพบ..อาลีน ครับ ไม่ทราบว่านางอยู่ที่นี่รึเปล่า?”
อลันหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปตามพี่สาวออกมา
“มีคนมาพบพี่ครับ เป็นหนุ่มหล่อซะด้วย..นี่พี่มีแฟนรึเปล่า”
จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงเล่า เธอไม่เคยชายตามองใครหน้าไหนทั้งนั้น อาจจะเป็นคนของคฤหาสน์ที่เธอไปสมัครงานเอาไว้ก็ได้
อาลีนเดินมาที่ด้านหน้าประตูบ้าน เธอช้อนสายตามองหน้าของบุรุษผู้หนึ่งที่เขาเองก็กำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน ในสายตานั้นมีทั้งความคิดถึงและความอาวรณ์อยู่ในนั้น
“มาทำอะไรที่นี่คะคุณชายน้อย”
ดันเต้กำมือแน่น เขากำลังพยายามซ่อนความประหม่าของตัวเองเอาไว้ ห้าปี..ห้าปีแล้วที่เขารอคอยให้เธอกลับไปหาแต่ทว่าเธอก็ไม่กลับไป เขาได้ยินว่าตอนนี้เธอกำลังมีปัญหากับบารอนกู๊ด เพราะแบบนั้นเขาจึงรีบมาที่นี่
“สาวใช้ประจำตัวของข้าลาออก ข้าไม่ชินกับการที่มีสาวใช้แปลกหน้าเดินไปเดินมาอยู่ในห้องเพราะแบบนั้นข้าจึงมาถามท่านอาจารย์ว่าท่านยินดีที่จะกลับไปทำงานที่โรสเบลรึเปล่า คราวนี้ไม่ใช่ในฐานะของอาจารย์แต่เป็นสาวใช้ประจำตัว..อีกทั้งข้ายินดีที่จะจ่ายเงินให้ท่านก่อน สามร้อยเหรียญเพื่อให้ท่านนำเงินนี่ไปจัดงานแต่งของน้องชาย..”
อาลีนกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก เธอกำลังอยู่ในช่วงเวลาไร้ทางเลือก แต่อยู่ๆ ทางเลือกก็เดินเข้ามาซะอย่างนั้น เธอเบนสายตาไปมองหน้าของอลันก่อนจะก้มหน้าลงเพื่อเป็นการขอบคุณคุณชายน้องดันเต้
“ขอบคุณคุณชายค่ะ ฉันยินดีที่จะกลับไปทำงานให้คุณชาย..ในฐานะของสาวใช้หรือว่าอะไรก็ตาม..”
อาลีนไม่รู้เลยว่าการตอบรับในวันนั้นจะเปลี่ยนชีวิตของเธอมากขนาดนั้นอีกทั้ง..คุณชายน้อยที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเธอไม่ใช่เด็กชายวัยสิบห้าที่เธอรู้จัก เขาคือชายหนุ่มอายุยี่สิบปีที่หล่อเหลาและไม่หลงเหลือความอ่อนแอในดวงตาคู่นั้นเลย
