9
กลับสู่ปัจจุบัน
โยศิตาเก็บงานสุดท้าย ด้วยการใส่ต่างหูระย้าให้เข้ากับชุดประกายเพชรประดับนิล ก่อนเอียงซ้ายขวา...สำรวจตัวเองอีกครั้ง
งานนี้เธอตั้งใจรับแบบไม่ได้พิจารณาให้ถ้วนถี่ แม้รู้ทั้งรู้...ว่าการออกงานในช่วงที่มีกระแสโจมตีหนัก ไม่ได้เป็นผลดีกับตัวเองสักเท่าไหร่
"แกไม่เคยรับงานอีเว้นท์" ผู้จัดการจำเป็น ติงตามประสาของคนที่มักกังวลอยู่ตลอด แต่ก็ยังปลีกงานสำคัญออกมาเป็นเพื่อนเธอได้
"งานของบริษัทเก่าทั้งที...ไม่รับ ก็จะกลายเป็นเด็กอกตัญญูเอา"
"แกก็รู้...ว่าอีตาผู้จัดการฝ่ายการเงินอะไรนั่น มันจงใจเลือกเชิญแกไปเปิดตัวที่นอนยางพาราแบบนุ่มพิเศษ เพราะอยากให้พวกนักข่าวสัมภาษณ์แกสดๆ"
"ใจเย็นน่า...ฉันอยู่นี่แกจะกลัวอะไร" ริชชี่ผู้เดินเข้ามาด้วยความมาดมั่นเกินเบอร์ หมุนตัวไปมา เตรียมความพร้อมมายืนเคียงข้างเพื่อนรักเต็มที่
"อยากออกมาช่วยเพื่อนหรืออยากดังเอาจริงๆ"
"อยากดังสิ เอ้ย! ช่วยเพื่อนสิยะ! คือตอนนี้เพื่อนกำลังเป็นกระแส ฉันขออาสายืนเคียงข้างตลอดการสัมภาษณ์ย่ะ!" โยศิตาส่ายหัวให้ความเป็นห่วงของเพื่อนอย่างไม่ถือสา
การกลับมาที่บริษัทเล็กๆ ที่กำลังจะเติบโตนี้ น่าสนุกดีไม่น้อย...
"ลูกสาวเธองามหน้าไปทั่วบ้านทั่วเมือง ภูมิใจลงอยู่มั้ยล่ะจ้ะ...โยธกา" ทิพย์ภมณเพื่อนรักผู้หายหน้าไปพักใหญ่ จำต้องวนกลับมาเจอกันในงานพบปะสังสรรค์ของเพื่อนในกลุ่ม ที่นานๆ จะเจอกันที
แผนที่หมายจะให้ลูกของทั้งคู่มาลงเอยกัน คนที่ทำมันพังไม่เป็นท่า...คือแม่ลูกสาวตัวดี
นั่นคือเหตุผล...ที่นับจากวันนั้น เพื่อนรักก็หน้าหักใส่กันมาตลอด
ทิพย์ภมณมิอาจให้อภัยความโอหังถือดี กล้าดีของลูกสาวเพื่อน แถมยังคอยตามติดชีวิตอยู่ตลอด
"ปวดหัวล่ะสิไม่ว่า...ตั้งแต่ผันตัวไปเป็นนางแบบนี่นะ ขยันหาเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน" คนตรงไปตรงมาอย่าง โยธกา ไม่ได้เบี่ยงเบนความอับอายออกจากใบหน้า แถมยังยอมรับแต่โดยดี
"แล้วตกลง ลูกสาวเธอเป็นเด็กของใคร นี่นักสืบเอาข่าวมาลง ยังให้คำตอบไม่ชัดสักคน หรือว่า...คั่วไปทีละหลายๆ คน" เพื่อนช่างเมาท์ที่ไม่ได้สนิทสนมเท่าไหร่ จีบปากจีบคอพูด...จนโยธกาหน้าม้าน อับอายก็อับอาย จะชักสีหน้าใส่ก็กลัวเสียมารยาท
"ฉันขอตัวก่อนนะยะ จะไปเข้าห้องน้ำ ฮึ่ม" หัวอกคนเป็นแม่ที่รักลูกเสมอ ทนเห็นคนอื่นว่าลูกไม่ได้ แต่จะให้แก่ต่างแทนให้ก็ไม่มีข้อมูลอะไรเลย
นับตั้งแต่วันนั้น...ที่โดนไล่ออก โยศิตาก็ไม่เคยแวะกลับมาที่ร้าน รู้อีกทีก็เห็นลูกโด่งดังไปเสียแล้ว
แถมโด่งดังในทางเสียหายอีกด้วย!
"อีเว้นท์เปิดตัวที่นอนยางพาราชนิดหนานุ่ม แต่นอนให้ตายยังไงก็ไม่ปวดหลังของเราในวันนี้ ได้รับเกียรติจากนางแบบชื่อดัง ที่กำลังมีกระแสอยู่ในตอนนี้นะครับ... ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักเธอครับ ขอเชิญพบกับคุณปั้นหยา นางแบบรับเชิญของเราในวันนี้ครับ!" พิธีกรหนุ่มพูดอย่างตื่นเต้นต้อนรับการมาของนางแบบสาว ที่มาในชุดเดินแบบเข้ารูป ที่เน้นไปในโทนสง่า...
ชุดประกายเพชรแวววับ...ขับผิวของเธอให้เปล่งประกายมากยิ่งขึ้น
ใบหน้าสวยหวานลงตัวเชิดขึ้นเล็กน้อย ระบายยิ้มพอเป็นระเรื่อ เธอเดินไปบนพรมยางพารา ที่ถูกจัดสรรเอาไว้เป็นอย่างดี
สายตาคู่หนึ่ง...มองมาที่เธออย่างไม่วางตา แววตาคมเข้มฉบับหนุ่มใต้ทอประกายแสงอ่อน
จมูกโด่งคมงุ้มเล็กน้อย ส่งเสริมให้เขาดูน่าเกรงขาม การมองกวาดไปทั่วบริเวณงานของคนทำหน้าที่
สะดุดเข้ากับแววตานั้นเพียงครู่ ก่อนเบือนหนีไปตามธรรมชาติ มุมปากอิ่ม...กดลงเล็กน้อย
เหยื่อได้ติดเบ็ดตามที่หวังแล้ว!
"ขอบคุณนะคะ...ที่กันนักข่าวเอาไว้ให้ปั้นหยา" เธอยกมือไหว้ขอบคุณหนุ่มรุ่นพี่ที่น่าจะอายุมากกว่าเธอไม่เกินสองปี
"จะต้องขอบคุณอะไรกันล่ะครับ...คนกันเองทั้งนั้น นี่พี่เพิ่งทราบนะครับ ว่าน้องปั้นหยาเคยทำงานให้กับบริษัทในเครือของเรามาก่อน" ธนาธร เอ่ยอย่างที่ใจคิด เหมือนเขาจะไม่รู้ว่ามารดาของเขานั่นแหละ ที่ทำให้เธอเป็นได้แค่พนักงานเก่า
"ความสามารถปั้นหยาไม่มากพอน่ะค่ะ ก็เลยไม่ผ่านช่วงทดลองงาน" ใบหน้าหวานเจือความเศร้าที่ปั้นแต่ง แววตาทอประกายมุ่งมั่นสลดลง...จนเขาแทบจะลงไปกอบโกยมันขึ้นมาจากพื้น
ทิพย์ภมณเคยเล่าเรื่องของเธอให้เขาฟัง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ จนมาเจอเธอในงานเดินแบบงานหนึ่ง เขาก็เลยสั่งให้ลูกน้องเชิญเธอมาร่วมงาน เพื่อได้พบเจอตัวจริง ของเธอสักครั้ง
"ผมอยากจะย้อนไปดูประวัติเสียจริงๆ นะครับ ว่าใครกัน ที่ไม่ยอมให้คุณผ่านงาน" เขาพูดทีเล่น
"เอาสิคะ ปั้นหยาเองก็อยากจะทราบเหมือนกัน..." เธอพูดทีจริง...ก่อนจะหัวเราะร่วนออกมาอย่างน่ารักพองาม
จริตพวกนี้ เธอใช้เวลาฝึกมันพอสมควรเลยแหละ แถมยังรู้สึกหมั่นไส้ตัวเองทุกครั้ง เวลาที่ต้องทำมัน
"ผมทำให้จริงนะ...ถ้าคุณต้องการ" โยศิตาไม่ตอบ ก่อนที่จะเลือกหยิบน้ำส้มที่เขายื่นให้มาจิบแก้เขินแทน
"ถ้าไม่รังเกียจ ทานข้าวกับผมสักมื้อได้ไหมครับ?"
"ใครจะไปกล้ารังเกียจ...เจ้านายเก่าของตัวเองได้ลงละคะ"
"ถ้าอย่างนั้น เราแลกเบอร์ติดต่อกันไว้...ว่างตรงกันเมื่อไหร่ แล้วค่อยหาร้านไปทานกันแบบชิลๆ ดีมั้ยครับ" เธอยิ้มออกมาอย่างชอบใจ คนอย่างธราธรฉลาด เขาคงศึกษาเรื่องของเธอมามาก
ไม่เช่นนั้นคงจะด่วนสรุปหาวันให้เธอซะเรียบร้อย หรือเร่งรัดเหมือนที่ผู้ชายทั่วไปเขาทำกัน
จริงๆ แล้ว...เธอก็ไม่อยากจะทำแบบนี้ ไม่อยากจะมาล้อเล่นกับความรู้สึกของคนดีๆ อย่างเขา
แต่ช่วยไม่ได้...แม่เขาดันมาทำเธอก่อน เธอมีความจำเป็นที่จะต้องทำแบบนี้!
"ตายแล้ว...โอกาสออกกล้องของฉัน ดับ! จบ! หมดสิ้น!" ริชชี่ครวญครางเมื่อเห็นเพื่อนรักถูกลากออกไปคุยฉอเลาะในโซนวีไอพี
ปรียาดาชะงักอยู่พักใหญ่...เธอไม่คาดคิดว่า ผู้ชายคนนี้ จะคือเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยางพารา
และไม่คาดคิดอีกว่า เขาจะมาพึงพอใจเพื่อนรักของเธอ
"ดูสิยัยปลี! เจ้าชายขี่ม้าขาว...มาฉกชิงเพื่อนฉาวของแก ให้รอดพ้นจากการสัมภาษณ์อันอุกฉกรรจ์!"
"อือ...ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ"
"จะดีได้ยังไง ฉันอด ออกกล้องเลยเห็นมั้ยยะ คนกำลังจะดังแล้วมาโดนดับ..." แววตาจริงจังตวัดใส่แบบไม่มีเล่นนั้น ทำเอาเพื่อนสาวสองเบรกเอี๊ยด!
"ซีเรียสเหรอ?"
"ฉันขอตัวกลับก่อนนะ ตอนนี้ปั้นหยามันคงไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไรแล้วแหละ"
"อ้าว! เดี๋ยวก่อนสิ...อ้าวๆๆ เอาไงดีวะ" ริชชี่หันซ้ายทีขวาที ไม่รู้จะวิ่งตามเพื่อนรักอีกคนไปดี หรืออยู่ช่วยคุ้มกันเพื่อนอีกคนที่อยู่อีกโซนห่างออกไป
"ทำไมต้องรอนานขนาดนั้นด้วยละคะ เย็นนี้เลยก็ได้นะคะ ถ้าคุณธนาธรว่าง" น้ำเสียงใสว่าเชิงเกรงใจ...ขัดกับบุคลิกเฉี่ยวคมในชุดอวดทรวดทรงในวันนี้
"ใคร" วิดีโองานเดินแบบของบริษัทคู่ค้า ยางพาราโปรดักชั่น นำเสนองานมาให้คนที่เป็นหัวเรือใหญ่ได้รับชม
ธุรกิจนี้ต้องการที่จะมาผ่านท่าเรือส่งออกของเขา ซึ่งค่อนข้างจะคัดสินค้า...ก่อนจะตีเข้าสู่น่านน้ำ
ความมาตรฐานสูงของภูมินทร์เป็นที่เลื่องลือ ไม่ว่าจะเป็นความเด็ดขาดและน่าเกรงขาม
หรือการอ่านเกมส์ออกในทุกสถานการณ์ของเขา ทำให้ทุกคนที่อยากจะร่วมงานกับเขา ต้องรอบคอบและมีมาตรฐานเช่นกัน
"ลูกชายคนเดียวของนายหัวเด่นชัยกับคุณทิพย์ภมณครับ"
"ฉันเคยสนใจผู้ชายเหรอ" การติดตลกเชิงเข้มนี้ มิได้ทำให้ใครกล้าหัวเราะออกมา
"นางแบบคนนี้...ประวัติไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับนาย"
"พูดอย่างกับฉัน ชอบของดี" เขาขยี้บุหรี่ในมือทิ้งอย่างเครียดๆ ไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ ว่าแท้ที่จริง วิดีโอต้องการนำเสนออะไร
เพราะตอนนี้...สัดส่วนพอดีมือน่าขย้ำนั่นต่างหาก ที่ทำให้เขาสนใจแบบผละออกไม่ได้เสียแล้ว
"ของดี...ก็น่าจะดีอยู่ครับ แต่เป็นของต้องห้าม"
"เคยมีอะไรบนโลกนี้...ที่ห้ามฉันได้ด้วยรึ" ทรวงอกเต็มเต็งที่โดดเด่น เคลื่อนไหวพองาม แต่เขาก็ไม่อาจจะละสายตาจากมันได้
"เดี๋ยวผมจะจัดการให้เองทั้งหมดครับนาย" ลูกน้องอีกคนชิงพูดเอาใจ
"ดี" ว่าแค่นั้น แบบไม่ใคร่ได้ใส่ใจ คนอย่างเสี่ยภูมินทร์ อยากได้อะไรต้องได้...และไม่เคยหวั่นเกรงว่าจะผิดหวังเพราะเขารู้ว่าสำหรับเขา มันจะไม่มีวันนั้น!
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา...หลังจากที่นางแบบที่กำลังมีกระแส ได้ออกเดตกับหนุ่มนักธุรกิจอนาคตไกล
ผู้ติดตามข่าวของโยศิตาแบบอดหลับอดนอน จ้องภาพและวิดีโอการออกเดตบนชั้นดาดฟ้าสุดหรูแบบไม่ให้ตากะพริบ
'ตาเถร! ไม่นะ!!' ความคิดเห็นเนืองแน่น กำลังถล่มโพสต์นั้น
บ้างก็เห็นด้วย...บ้างก็คัดค้าน ซึ่งโดยมากคัดค้านเป็นส่วนใหญ่
'ผู้หญิงดีดีมีไม่ชอบ ชอบผู้หญิงหยำฉ่า!'
'ผู้หญิงชอบคนเลว ผู้ชายชอบคนแรด!'
'ทำตัวแบบเนี้ย เสี่ยไม่ว่าหรอออ'
"จะเอาอย่างงี้จริงดิวะ?" มือหนึ่งเรื่องเครือข่ายออนไลน์หันมาถามเพื่อนรักอีกหนแบบลังเล
"ถ้าไม่เอาจริง ฉันจะให้แกไปตั้งกล้องถ่ายรูปและวิดีโอพวกนี้มาเพื่อ"
"คุณธนาธร...เขาเป็นคนดีมากนะเว้ย ฉันกลัวโดนไล่ออกว่ะ" โยศิตาส่ายหัวให้กับความขี้ขลาดของเพื่อน
"เชื่อฉัน เรื่องแค่นี้ไม่กระเทือนขนหน้าแข้งเขาหรอก เอาให้หนัก...เอาให้สุด ตอนนั้นแกเคยโกรธที่ฉันโดนไล่ออกไม่ใช่เหรอ นี่ไง ฉันกำลังเอาคืนอยู่นี่ไง"
"เออ ถ้าฉันตกงาน แกรับผิดชอบด้วยนะเว้ย"
"เออ เร็วเข้าเถอะน่า"
#เด็กข้าใครอย่าแตะ! อยู่ๆ ก็มีชายนิรนาม อ้างว่าตนเป็นเสี่ย...โพสต์ขู่ทุกคนที่มายุ่งกับเด็กของเขา
เหล่าสาวกผู้เกาะกระแสของโยศิตาอยู่ แชร์กันแทบไม่ทัน
'เสี่ยทนไม่ไหว ออกมาพูดแล้ว!!'
"ใครคือเสี่ย เสี่ยคนนี้ใคร" คนที่เพิ่งจะมาสนใจเธออย่างภูมินทร์ ได้เสพข่าวนี้เพราะลูกน้องค้นหาให้
"ไม่ทราบครับนาย นักสืบโซเชียลคงกำลังตามหาอยู่ครับ"
"คนของเสี่ยภูมินทร์นี่กระจอกเนอะ ต้องรอนักสืบโซเชียล" ลูกน้องที่ชอบเอาหน้า สะดุดเป็นการใหญ่ รีบวิ่งลุกลี้ลุกลนออกมา หานักสืบ
มือขวาผู้อยู่นิ่งมาตลอด...กระซิบ
"เสี่ยทิพย์ครับท่าน"
"รอดูไปก่อน น่าสนใจดี" เขาทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มของผู้เหนือกว่า
ตลกตรง...ผู้หญิงตัวเล็กๆ ปั่นหัวคนทั้งประเทศได้อย่างแยบยล มันน่าสนใจตรงนี้...
เขาไม่ได้ตื่นเต้นแบบนี้มานานแล้ว!