บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ฉันคือลู่เจียวมี่

อือ.....เจ็บจังที่นี่ที่ไหนนะ ทำไมทั้งเล็กทั้งแคบ แถมยังเหม็นอับอีก หญิงสาวได้แต่โอดครวนในใจ

โอ้ย ! ปวดหัวจัง

อะไรกันภาพพวกนี้ ภาพความทรงจำมากมายถาโถมดุจเกลียวคลื่น ผ่านไปราวๆ 1 เค่อทุกอย่างก็จบลง เจียวมี่ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นดูก่อนจะตกใจจนแทบสิ้นสติ

เง้อออออ! นี้ฉันทำเวรทำกรรมอะไรมาเนี้ย ไหงพอตายทั้งทีไม่ไปอยู่ในร่างคุณหนูแสนสวยลูกผู้ลากมากดี แต่ดันมาอยู่ในร่างคุณหนูตกอับ ตัวดำยิ่งกว่าถ่านก่อไฟ ให้ตายสิสรรค์จะใจร้ายกันเกินไปแล้วนะ เจียวมี่ได้แต่บ่นกับตัวเอง

“พี่ใหญ่...ฟื้นแล้ว  พี่ใหญ่ฟื้นแล้ว”

เด็กชายหน้าตามอมแมมใส่เสื้อผ้าเก่าๆมีรอยเย็บขาดๆหลายที่วิ่งเข้ามาหาด้วยอาการดีใจ

“ในที่สุดพี่ก็ฟื้นแล้ว ฮือ ฮือ ...ข้ากลัวพี่ใหญ่ไม่ฟื้นเหลือเกิน...”

เจียวมี่มองเด็กชายตัวน้อยที่เอาแต่ร้องไห้ข้างๆอย่างสงสัย

"จริงสิ พี่ฟื้นแล้ว ข้าจะไปตามท่านแม่ ท่านแม่รู้ต้องดีใจมากแน่ๆเลย" ไม่พูดเปล่า ลู่เจียวซิ่นก็รีบวิ่งออกจากประตูไป"

“เดี๋ย...ว!. สิ ยังไม่ทันได้ถามเลย”

เจียวมี่ย้อนนึกในความทรงจำที่ได้รับมา ถึงได้คำตอบว่า เจียวมี่เป็นบุตรีอนุ แม่ที่แสนดีของเจียวมี่ เดิมเป็นบุตรบุญธรรมของ คหบดีที่ร่ำรวยผู้หนึ่ง ชื่อลู่เพ่ย (แซ่ลู่ ของคหบดี ชื่อคำเดียวว่า เพ่ย) ที่ต้องการจะผูกมิตรกับเสนาบดีกรมคลัง เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องจ่ายภาษีเต็มจึงติดสินบนโดยส่งบุตรสาวบุญธรรมแต่งเป็นอนุ เนื่องจากลูกเพ่ย เป็นสตรีผิวพรรณงดงามขาวผุดผ่อง ใบหน้างดงามดุจนางจิ้งจอก ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล เอวคอดได้รูป ทำให้เสนาบดีกรมคลัง หลงเป็นอย่างมาก

หลังนางลู่เพ่ย แต่งงานมาได้ 3 เดือน ก็ได้ตั้งครรภ์

ทำให้ฮูหยินใหญ่ เกิดความริษยา เพราะนอกจากจะหน้าตางดงามแล้วยังได้ให้กำเนิดทายาท ในใจคิดเพียงแค่นางแพศยาชั้นต่ำ

ฮูหยินใหญ่วางแผนวางยาในสำรับอาหารหวังให้ ลู่เพ่ยแท้งอยู่หลายหน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะนอกจากลู่เพ่ยจะไม่เป็นอะไรแล้ว ยังหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งไป

จนภายหลังสืบทราบว่า ลู่อีเหนียงเป็นผู้ใช้โอสถ จึงวางแผน เพื่อที่จะใช้ยาดับวิญญาณ ขโมยพลังจิตวิญญาณ เพื่อให้บุตรชายตนเองจะสามารถหลอมโอสถได้

ต้องทราบก่อนว่า ผู้ใช้พลังจิตวิญญาณ สายหลอมโอสถนั้น หายากแทบจะพลิกแผ่นดิน ผู้สามารถหลอมโอสถได้ นอกจากจะเป็นที่นับหน้าถือตา ทุกคนสรรเสริญ ยกย่องแล้วนั้น ฮ่องเต้ยังให้ความสำคัญ เรียกได้ว่า ฮ่องเต้ยังยอมให้ 3 ส่วน

ฮูหยินเอกจึงไปบอกเรื่องนี้กับเสนาบดี หลังจากเสนาบดีได้ยินก็ดีใจเป็นอย่างมากตัดสินใจ จะให้ลู่อีเหนียงขึ้นเป็นฮูหยินรอง  ฮูหยินเอกจึงให้เหตุผลไปว่า"ทำไมเราถึงไม่ให้พลังวิญญาณนั้น มาอยู่กับบุตรชายของเราเพราะอย่างไรเสียเขาก็สามารถทำให้วงศ์ตระกูลเจริญได้ ผิดกับฮูหยินรองที่อยู่ได้แค่ในบ้านไม่สามารถนำเกียรติยศมาให้กับตระกูลได้"

"ท่านพี่ถ้าหลงเอ๋อร์ สามารถ หลอมโอสถได้ นอกจากฮ่องเต้จะยอมให้ 3 ส่วนแล้ว ฝ่าบาทอาจจะยก องค์หญิง 6 ที่พระองค์รักนักรักหนาให้เป็น ฮูหยินเอกของหลงเอ๋อร์ก็ได้ ไหนจะเกียรติยศมากมาย ตระกูลเราจะยิ่งใหญ่มากยิ่งกว่าเดิม

เสนาบดีหลี่ ได้ฟังก็คิดตาม จึงตัดสินใจเสาะหา ยาเม็ดดับวิญญาณ( ยาเม็ดดับวิญญาณนั้น ไร้สีไร้กลิ่นยากที่จะตรวจพบ ผู้ที่มีพลังจิตวิญญาณ หากได้ทานยานี้เข้าไป จะทำให้ พลังจิตวิญญาณเหือดแห้ง แต่ถ้าหากมีผู้กรีดเลือดของผู้ใช้พลังจิตวิญญาณ และผู้ใช้ปราณ ผูกรวมกัน พลังของผู้ใช้พลังจิตวิญญาณ จะถูกถ่ายเทให้กับผู้ใช้พลังปราณจนหมดสิ้น)

จนในที่สุดวันเวลาผ่านไป ลู่เพ่ยก็โดนขโมยพลังจิตวิญญาณสำเร็จ และตระกูลหลี่ก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนลู่เพ่ย กลับถูกทิ้งลืมที่ท้ายจวน แม้แต่บ่าวชั้นต่ำก็ยังไม่ให้ความเคารพ อยู่ไม่ต่างจากทาสในเรือน

จนในที่สุดก็คลอดบุตรออกมา 2 คน ชาย 1 หญิง 1 แต่เพราะถูกขโมยพลัง ทำให้เด็กที่ออกมานั้นตัวดำยิ่งกว่าถ่าน หน้าตาหม่นหมอง มองอย่างไรก็ไม่น่ารักเอาเสียเลยยิ่งทำให้เสนาบดีหลี่รู้สึกสะอิดสะเอียน และไม่เหยียบเข้าเรือนนี้อีกเลย

ตลอดมาฮูหยินเอกหาทางกลั่นแกล้ง ทุกวิถีทาง จนในที่สุดเมื่อเด็กทั้งสองอายุครบ 5 ขวบต้องทำการทดสอบพลังปราณปรากฎว่าเด็กทั้งสองไม่สามารถฝึกปราณได้ เป็นขยะไร้ค่าในจวน จนในที่สุด ฮูหยินเอก ก็ขับไล่สามแม่ลูกออกจากจวนได้สำเร็จ

สามแม่ลูกถูกขับไล่ออกจากจวนและไม่ให้เงินติดตัวแม้แต่อีแปะเดียวเดินทางรอนแรมจนเจอหมู่บ้านป่าปีศาจ ที่ขึ้นชื่อสัตว์อสูรดุร้ายที่สุด 3 แม่ลูกไม่มีทางเลือก จึงขอหัวหน้าหมู่บ้านเพื่ออยู่อาศัย หัวหน้าหมู่บ้านให้ไปอยู่บ้านร้างท้ายหมู่บ้าน

ผ่านมาสองปีเด็กทั้งสองอายุ 7 ขวบ หาเช้ากินค่ำโดยการเก็บสมุนไพรและของป่าบริเวณรอบนอกป่า ล่าสุดเก็บสมุนไพรไปขาย ถูกโจรปล้นระหว่างทางทำให้สมุนไพร และเงินที่ขายได้ 300 อีแปะ โดนชิงไปมิหนำซ้ำ เจี่ยวมี่ยังโดนทำร้ายบาดเจ็บสาหัส นอนสลบไปหลายวัน จนเมื่อเช้า แม่ลู่เพ่ย ไปเก็บสมุนไพรบริเวณป่ารอบนอก เพื่อนำมาปรุงยา ให้เจียวมี่ทาน แต่เพราะยังเป็นเด็กทำให้ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจไปเมื่อคืน แต่ไม่รู้เพราะอะไร ถึงเจียวมี่จะสิ้นใจแต่ร่างกายนั้นยังคงอุ่นอยู่ เหมือนรอบางอย่าง จนสายของวันนี้กู้เจียวมี่ จึงมาอยู่ในร่างของ ลู่เจียวมี่ ที่ใช้แซ่ลู่ เพราะเสนาบดีหลี ไม่อนุญาตให้ เด็กทั้งสองคนใช้แซ่หลี่ เพราะนอกจากจะไม่มีพลังแล้ว ยังตัวดำเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ จึงไม่ได้ถูกขึ้นชื่อในลำดับวงศ์ตระกูล

ตอนนี้ฉันคือลู่เจียวมี่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel