6.อยากลองสัมผัสดูรึเปล่า
เปลือกตาปิดลงในขณะที่ริมฝีปากสัมผัสกันอย่างหนักหน่วง ช่างเป็นจูบที่แผ่วเบาราวกับขนนก จนโพรงปากของเธอแทบหลอมละลายด้วยอุณหภูมิจากรสจูบ
ชั่วขณะนั้นยูริชลืมไปเลยว่าเธอควรจะยกมือขึ้นมาแล้วผลักไสเขาออกไป เธอไม่ควรเคลิบเคลิ้มแล้วมีความสุขไปกับรสจูบแสนหวานนั้นสิ
จุมพิตค่อยๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนเธอหายใจไม่ทัน..ยูริชผลักเขาออกเบาๆ ราวกับต้องการกล่าวว่าเธอไม่อาจทนทานต่อรสจูบแสนหวานนั้นของเขาได้อีกแล้ว
เขาใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดที่ริมฝีปากของเธอเบาๆ กลีบปากสีแดงระเรื่อกำลังเผยอออกเล็กน้อยอย่างเย้ายวน และนั่นทำให้แลนซิลล่วงรู้ได้ในทันทีว่าเขาไม่อาจ..หักห้ามใจตัวเองเอาไว้ได้อีกต่อไป
เขาต้องการสตรีเบื้องหน้ามากยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้ มันราวกับว่าเขากำลังกระหายน้ำอย่างรุนแรง แล้วมีเพียงน้ำหยดเล็กๆ เท่านั้นที่หยดลงมาในลำคอของเขา เขาอยากดื่มกินให้มากกว่านี้ ดื่มกินให้ความกระหายอยากมันเบาบางลงในทันทีโดยไม่ต้องรั้งรอ
มือของแลนซิลวางทาบลงไปบนชุดนอนของยูริช เขาบีบนวดก้อนกลมนั้นอย่างเบามือ ในขณะที่สายตากำลังจับจ้องไปยังใบหน้าที่แสนงดงามนั้นอย่างไม่ลดละ..
“ทะ..ท่านดยุคคะ”
ไม่ได้สิ ต้องห้ามเขาเอาไว้..เธอไม่แน่ใจว่าขอบเขตของเขาและขอบเขตของเธอนั้นมันเท่าเทียมกันรึเปล่า ไม่แน่ใจว่าความต้องการของเธอและเขามันจะสิ้นสุดลงจริงๆ หรือไม่ ด้วยเหตุนั้นต่อให้การกระทำของเขามันจะแสนหวานมากแค่ไหน เธอก็ต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้ให้ได้!
นี่มันราวกับมีเนื้อชิ้นงามวางอยู่เบื้องหน้า เธอคือสตรีที่กำลังหิวโหยอย่างถึงที่สุด แต่กลับไม่อาจแตะต้องเนื้อชิ้นนั้นได้เลย.. ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเนื้อชิ้นงามนั้นมียาพิษอาบเอาไว้ รู้อยู่แก่ใจว่าหากเผลอเคี้ยวเข้าไปเธออาจตายตกไปก็เป็นได้ แต่ทว่าถึงอย่างนั้นในใจก็ยังคงร่ำร้องถึงความอยากลองชิมมันดูสักครั้ง
แต่ทว่าการลิ้มรสความหอมหวานของเขา..มันต้องแลกมาด้วยชีวิตของเธอเลยเนี่ยนะสิ..จริงอยู่ที่ก่อนตายอาจได้ขึ้นสวรรค์แต่ทว่านั่นมันคุ้มค่าแล้วอย่างนั้นหรือยูริช
ร่างกายของเธอเริ่มสั่นอีกครั้งเมื่อริมฝีปากของเขาแนบชิดลงมา เขาดูดเม้มปลายลิ้นของเธออย่างนุ่มนวล โพรงปากอ่อนนุ่มของเรานั้นเสียดสีกันอย่างหนักหน่วง จากมือที่ผลักไส แปรเปลี่ยนมาเป็นมือที่โอบกอดเขาเข้ามาโดยไม่รู้ตัว
ต่างคนต่างดูดดึงริมฝีปาก อีกทั้งยังขยับเปลี่ยนมุมเพื่อให้จุมพิตลึกล้ำยิ่งขึ้น
นี่ไม่ใช่จูบที่เร่าร้อนแต่เป็นจูบที่ลึกล้ำ แผ่วเบาและนุ่มนวลทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายในทุกจุดที่ลิ้นของเขาสัมผัส
“..ยูริช..ให้ตายสิดูเหมือนว่าเจ้าจะหวานมากกว่าที่ข้าคิดเอาไว้..”
ใบหน้าของเธอเห่อร้อนจนแทบมอดไหม้ ราวกับจะมีควันพวยพุ่งขึ้นมาจากศีรษะเลย
“ชุดนี่ข้าถอดมันได้รึเปล่า”
เมื่อเขาเอ่ยถามเช่นนั้นเธอก็รีบจับคอเสื้อของตัวเองเอาไว้ในทันที
“มะ..ไม่..ไม่ได้ค่ะ ข้าคิดว่าวันนี้เราควรจะพอเท่านี้ก่อนดีกว่า”
พอเท่านี้? ..นั่นล้อกันเล่นหรืออย่างไร มีอย่างที่ไหนจะมาทิ้งเขาเอาไว้กลางทางเช่นนี่น่ะ
“ยูริช..กับบางอย่างมันทำครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้หรอกนะ ยกตัวอย่างเช่นกับบางสิ่งที่มันตื่นขึ้นมาแล้ว..เจ้าไม่อาจปล่อยให้มันตื่นขึ้นมาแบบเสียเที่ยวได้หรอก..มันจะต้องได้รับการปลดปล่อยเท่านั้นยูริช มันถึงจะสงบลงได้น่ะ”
เขาไม่ได้พูดเปล่า แต่ท่านดยุคจับมือของเธอไปสัมผัสลงบนส่วนนั้นของเขาที่กำลังแข็งตึงขึ้นมาภายใต้กางเกง..
อา..ให้ตายสิ ขนาดมีกางเกงขวางกั้นเช่นนี้ เธอยังสัมผัสได้ถึงความแข็งร้อนที่อยู่ภายในนั้นได้เลย แถมขนาดมันก็..
ยูริชกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก เธอขยับถอยหลังมาในทันทีเมื่อล่วงรู้ถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา
“ทำไมกัน..เจ้ากลัวอย่างนั้นหรือ?”
เธอพยักหน้าเบาๆ สาบานได้เลยว่าเธอไม่ได้กลัวที่ความใหญ่ยาวนั่นหรอกนะ เธอเป็นพวกใจสู้อยู่แล้วจะขนาดแบบไหนก็ทนได้ทั้งนั้น แต่เธอกลัวความตายต่างหาก..หากเธอตั้งครรภ์ขึ้นมาก็นับถอยวันเวลาที่จะมีชีวิตอยู่ได้เลย
“อา..เช่นนั้นข้าควรจะทำอย่างไรกับภรรยาที่หวาดกลัวสิ่งนั้นของสามีดีล่ะ หรือข้าควรให้เจ้าสัมผัสมันทุกวันก่อนนอนเพื่อให้เจ้าทำความคุ้นชินกับมัน.."
นั่นเรียกได้ว่ามันคือการแก้ไขปัญหาอย่างนั้นเรอะ! แล้วภาพลักษณ์ท่านดยุคที่แสนอ่อนโยนของเธอไปไหนแล้วล่ะโว้ย! ในยามนี้ที่ดวงตาทั้งสองข้างของเธอเห็น เธอเห็นเพียงชายหนุ่มผู้หล่อเหลาที่กำลังแสยะยิ้มชั่วร้ายออกมา..
และในวินาทีต่อมา..ท่านดยุคก็ลุกขึ้นแล้วถอดกางเกงของตัวเองออก กางเกงที่เขาสวมอยู่หล่นร่วงลงไปกองบนข้อเท้า
เขายกมือขึ้นมาเสยเส้นผมสีเงินนั้นขึ้นไปด้านบนแล้วจ้องมองใบหน้าของยูริชด้วยแววตาที่เข้มข้นมากกว่าเดิม
หากพรุ่งนี้เธอเจ็บตาหรือว่าเป็นตากุ้งยิงก็ไม่ต้องสงสัยเลย เพราะสาเหตุมันคงเกิดขึ้นมาจากที่เธอมองเห็นท่านดยุคแก้ผ้าอย่างแน่นอน
ยูริชไม่รู้ว่าจะเอาตาไปไว้ที่ไหนด้วยเหตุนั้นเธอจึงหลับตาลงในทันที
“หากหลับตาข้าจะขยับเข้าไปให้เจ้าดูแบบใกล้ชิด เอาแบบที่ให้เจ้าได้เห็นและได้สัมผัสมันไปในเวลาเดียวกันเลยดีไหมยูริช”
สิ้นคำกล่าวนั้นเธอก็ปรือตาขึ้นมาในทันที เพราะคำขู่ของเขามันช่างน่ากลัวอะไรเช่นนี้กันนะ
“ท่านดยุคคะ..”
“ยูริช..เจ้าคือภรรยาของข้านี่ เรื่องเช่นนี้หากไม่ทำกับภรรยาเจ้าจะให้ข้าไปทำกับใครกัน”
หากมองข้ามคำพูดที่แสนจะเย้ายวนของเขานั้น สิ่งหนึ่งที่เธอเห็นได้ชัดคือร่างกายที่ประดุจดังรูปปั้นของทวยเทพที่วิหาร..เขาช่างสมบูรณ์แบบทั้งใบหน้าและร่างกาย กล้ามท้องที่เป็นลอนอย่างสวยงามราวกับคนที่ฝึกฝนร่างกายมาเป็นอย่างดี และ..ส่วนนั้นที่กำลังชี้หน้าเธออยู่..
นี่คือเรื่องปกติของหนุ่มสาวยุคนี้งั้นเรอะ แบบว่าพวกเขาอาจจะอวดโฉมโชว์ร่างกายที่แสนงดงามของตนเอง เพื่อให้สามีและภรรยาได้ดูชมอะไรแบบนั้นสินะ..
แน่นอนว่ามันรับมือได้ยากแต่ว่า.. ร่างกายของเขามันก็ช่างน่ามองจนเธอไม่อยากละสายตาเลย หรือว่าเธอเป็นพวกสตรีที่ชื่นชอบเรื่องแบบนี้งั้นเรอะ..
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอไม่ชอบน่ะ กล่าวคำปฏิเสธไม่ออกเลยจริงๆ
“อยากสัมผัสมันอีกครั้งไหมยูริช..”
เธอขบเม้มริมฝีปากไปมาด้วยความไม่แน่ใจ
“หากเจ้าปฏิเสธ แทนที่ข้าจะให้เจ้าใช้มือสัมผัสมัน ครั้งนี้ข้าจะให้เจ้าใช้ปากเพื่อสัมผัสมันแทนนะที่รัก”
