4.ท้ายที่สุด
“คะ..คือว่าข้าง่วงแล้วค่ะท่านดยุค”
ปลายจมูกของเขากำลังซุกเข้าที่ด้านหลังท้ายทอยของเธอ ก่อนจะสูดดมกลิ่นหอมหวานจากร่างบาง
“ง่วงก็นอนสิยูริช หรืออยากให้ข้ากล่อมเจ้าด้วยไหม”
เขาใช้มืออีกข้างในการจับมือของเธอเอาไว้ แล้วลูบฝ่ามือหนาผ่านทางท้องน้อย เหนือสะดือ ก่อนจะชนกับก้อนกลมบางอย่างเขาจึงหยุดมือลง
“ท่านดยุคคะ! นั่นมันมากเกินไป..”
บอกตามตรงว่าแลนซิลลังเลมากพอสมควร เขาอยากใช้มือบีบนวดลงไปบนก้อนกลมนั่น อยากจะคลำหาตำแหน่งของยอดอกแล้วสะกิดปลายนิ้วลงไป
แต่ร่างกายที่สั่นเทาของยูริชมันบอกให้เขา..หยุดยั้งการกระทำนี้ลงเสีย ไม่อย่างนั้นวันรุ่งขึ้นเธออาจจะมองหน้าเขาไม่ติดเลยก็ได้
“เข้าใจแล้วยูริช..เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”
ทั้งที่เขาบอกว่าจะนอนแท้ๆ แต่ตรงนั้นกลับตื่นเต็มที่แถมยังดุนดันบั้นท้ายของเธออย่างไม่คิดเกรงใจ
ยุบหนอ..พองหนอ..ตั้งสติเอาไว้หน่อยสิยูริช ถึงแม้ว่าจะอยากกินเขามากแค่ไหน แต่เธอจะมาเห็นแก่ความสุขชั่วพักชั่วครู่ไม่ได้นะ..เธอจะตายอย่างแน่นอนหากเธอเผลอมีอะไรกับเขาน่ะ
อันที่จริงก่อนหน้านี้เธอได้ศึกษาเกี่ยวกับยาคุมกำเนิดของยุคสมัยนี้มาบ้างแล้ว แต่ทว่าไม่มียาใดที่คุมกำเนิดแล้วได้ผลเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์เลย นั่นหมายความว่าต่อให้กินสมุนไพรคุมกำเนิดก็ยังต้องมาลุ้นว่ามันจะได้ผลไหม..
ทำไมเป็นเธอมันถึงได้ยากลำบากชะมัดเลยนะ เธอไม่อยากตายสักหน่อย..
เธอชอบเด็กมากๆ และอยากมีลูกด้วย แต่เธอกำลังหวาดกลัว..มันไม่ใช่แค่เธอตายจากเท่านั้น แต่เพราะการตายของเธอมันคือปมใหญ่ในหัวใจของลูก้า เด็กน้อยที่เติบโตขึ้นมาโดยที่ไม่ได้เห็นใบหน้าของท่านแม่ตัวเองเลยสักครั้ง..ถ้าจะน่าสงสารมากขนาดนั้น เธอจะยินยอมให้เขาเกิดมาได้อย่างไรกัน
“...”
เมื่อเห็นว่าทางยูริชเงียบไปพักหนึ่ง แลนซิลก็ลุกขึ้นมาเพื่อมองใบหน้างามของว่าที่ภรรยา เขาได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเธอ..
แลนซิลยกยิ้มขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี เขาล้มตัวนอนอีกครั้งโดยที่อ้อมแขนยังคงโอบกอดเธอเอาไว้
“เจ้าต้องไม่รู้แน่ๆ ว่าข้ารอคอยวันนี้มานานมากแค่ไหน..รักข้างเดียวมันเหนื่อยมากเลยนะยูริช แต่ไม่เป็นไรเพราะข้ารอเก่งมากเลย ข้าจะรอจนกว่าเจ้าจะยินยอมมอบหัวใจให้ข้านะ”
นานแค่ไหนเขาก็จะรอ..เพราะอย่างน้อยที่สุดเธอก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาแล้ว เจ้าพวกแมลงมากมายที่บินรายล้อมรอบตัวเธอจะได้ไม่มีใครกล้ายุ่งเกี่ยวกับเธออีก
.
.
รุ่งเช้า เมื่อยูริชลืมตาขึ้นมา เธอก็ไม่เห็นท่านดยุคแลนซิลแล้ว
ยูริชยกมือขึ้นมากุมใบหน้าของตัวเองเอาไว้ด้วยความเขินอาย เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนหัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่ยอมสงบลงเลย
อา..นี่มันยากจังฟะ!
การห้ามใจต่อความหล่อของพระเอกเรื่องนี้มันไม่ง่ายเลยให้ตายสิ!
“ตื่นแล้วอย่างนั้นหรือคะคุณหนู”
เคทยกอ่างล้างหน้าเข้ามาด้วยรอยยิ้ม
“ท่านดยุคออกไปนานแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“ค่ะ..ท่านดยุคสั่งเอาไว้ว่าห้ามเข้ามาปลุกคุณหนู แต่พอข้าได้ยินเสียงด้านในห้องข้าก็รีบเข้ามาเลย ล้างหน้าล้างตาก่อนนะคะ คุณหัวหน้าสาวใช้แจ้งมาว่า มื้อเช้าจะเริ่มขึ้นในช่วงเวลาแปดโมง และคุณหนูไม่ควรไปสายตั้งแต่วันแรก”
ยูริชพยักหน้า
“เช่นนั้นเจ้าช่วยเตรียมตัวให้ข้าหน่อยสิ..เลือกชุดที่เรียบร้อยที่สุดที่ข้ามีมาด้วยนะ”
เธอมีเสื้อผ้าเพียงสองชุดเท่านั้น ถึงจะน่าขำแต่ชีวิตของยูริชมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เงินที่ได้จากการขายภาพวาด ส่วนหนึ่งเธอเก็บออมเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ และอีกส่วนเธอนำเงินนั้นไปซื้อข้าวสารและขนมปังเพื่อให้คนที่คฤหาสน์เกรย์ไม่อดตาย..
เรื่องชุดเดรสหรือว่าเครื่องประดับใดๆ ยูริชล้วนแล้วแต่ไม่เคยมี และไม่เคยสนใจด้วย
“เรื่องชุด คุณหัวหน้าสาวใช้จัดเตรียมเอาไว้ให้คุณหนูแล้วค่ะ”
เมื่อเคทเปิดตู้เสื้อผ้าออก ก็พบเจอชุดเดรสของสตรีมากมายที่ถูกแขวนเอาไว้ในนั้น แต่ละชุดล้วนทำจากผ้าเนื้อดีและมีราคาสูง ที่สำคัญมากกว่านั้นคือทุกชุดต่างมีขนาดที่พอดิบพอดีกับร่างกายของเธอ
“ช่างมีเรื่อง..ให้น่าทึ่งเต็มไปหมด หากเรานำชุดพวกนี้ไปขายคงได้เงินเยอะเลยว่าไหมเคท”
เคทหัวเราะออกมาเบาๆ
“แต่ข้ามองว่านี่คือความเมตตาจากท่านดยุคนะคะ ดูเหมือนว่าท่านดยุคจะเอ็นดูคุณหนูมากๆเลย อีกทั้งข้ารับใช้ทุกคนของคฤหาสน์ต่างให้เกียรติคุณหนูมากๆ ทั้งที่เรามาจากตระกูลที่ไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าไหร่นัก คุณหนูเองก็ควรจะดีกับท่านดยุคให้มากเพื่อขอบคุณในความเมตตาของท่านดยุคนะคะ”
ดีกับท่านดยุคให้มากอย่างนั้นหรือ? เขาทำท่าทางราวกับว่าเขาชอบเธอจริงๆ อย่างนั้นแหละ หรือว่านี่คือความรู้สึกของพระเอกที่คุณนักเขียนบรรยายเอาไว้กันนะ ตามเนื้อเรื่องแล้วเขาคงจะรักยูริชจริงๆ เพราะหลังจากที่ยูริชตายไป..ท่านดยุคก็ดูเหมือนจะเสียใจและเก็บตัวเงียบอยู่แรมปี
ที่เขาทำดีและมีท่าทีเช่นนี้ก็เพราะมันคือเนื้อเรื่องในนิยายนี่เอง..
เธอจะทึกทักว่าเขาชอบเธอที่ตัวเธอไม่ได้หรอกนะ..เพราะท้ายที่สุดเขาคือพระเอกที่ต้องคู่กับนางเอก ไม่ใช่คู่ตัวประกอบอย่างเธอสักหน่อย
“ไม่ชอบอย่างนั้นหรือคะ ไม่ใช่แค่ชุดเท่านั้นแค่ยังมีเครื่องประดับและรองเท้าอีกมากมายเลยนะคะ มาเถอะค่ะคุณหนู วันนี้ข้าจะทำให้ท่านงดงามยิ่งกว่าใครๆ เลย”
ยูริชทำได้เพียงส่งยิ้มให้เคทเท่านั้น
“ตามใจเจ้าเลยเคท”
“คุณหนูต้องไม่รู้แน่ๆ ว่าข้าใฝ่ฝันอยากจะทำเรื่องเช่นนี้มานานมากแค่ไหน ข้าอยากจะมองเห็นคุณหนูสวมชุดสวยๆ อยู่ในที่ดีๆ และมีชีวิตดีๆ ..”
เราทั้งคู่จับมือฝ่าฟันเรื่องราวมากมายมาด้วยกันจนเคทไม่เหมือนกับสาวใช้แต่เป็นพี่สาวของเธอต่างหาก
“เช่นนั้นในวันนี้ความฝันของเจ้าก็คงเป็นจริงแล้วใช่ไหม”
เสียงหัวเราะดังออกมาจนถึงด้านหน้าห้องที่แลนซิลยืนอยู่ เขากอดอกพร้อมกับยกยิ้มด้วยความพึงพอใจ
“ดูเหมือนว่าคำแนะนำของท่านเซอร์ ฟอร์ตจะใช้ได้เลยนะครับท่านดยุค ท่านว่าที่ดัชเชสดูจะชื่นชอบสิ่งของที่ท่านดยุคมอบให้มากเลย”
แลนซิลพยักหน้า
“ข้าจะให้นางมากกว่านี้..จะให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางต้องการ ทั้งเงินทองหรือแม้แต่ทรัพย์สินส่วนตัว ข้าจะทำให้นางเห็นเองว่าการเป็นดัชเชสของข้า ทำให้นางไม่ต้องเหนื่อยอีกแล้ว จริงสิเจอมัวเจ้าไปจัดเตรียมเรือสำเภาของเราเอาไว้หน่อยสิ..ข้าอยากจะพายูริชไปล่องเรือน่ะ”
คืนแรกนางอาจจะประหม่ามากเกินไป จนทำให้นางไม่อยากแตะต้องเขา แต่ทว่าหากเขาเปลี่ยนบรรยากาศในเป็นเรือที่มีวิวแม่น้ำสวยๆ และมีเพียงเราสองคนเท่านั้น ยูริชน่าจะต้องชอบมันอย่างแน่นอน..และท้ายที่สุดเธอก็จะต้องยินยอมรับอ้อมกอดของเขาแน่ๆ
