บท
ตั้งค่า

11.ไม่ต้องอาย

ฟอสเตอร์ยกมือถูที่แก้มของเขาเบาๆ เขากำลังยืนอยู่ที่ด้านหน้ากระจก และกำลังทอดสายตามองรอยแดงที่แก้ม ซึ่งมันเริ่มจะจางหายไปบ้างแล้ว

เพราะเกิดมาจากสายเลือดอันศักดิ์สิทธิ์ นั่นทำให้แม้แต่มดตัวเล็กๆ ก็ไม่มีสิทธิ์มากัดเขา แล้วแม่มดผู้นั้นกล้าดีอย่างไรนางถึงมาต่อยเขาน่ะ! กล้าดีอย่างไรถึงได้ทำให้เขาต้องพบเจอกับสภาพที่น่าอับอายเช่นนั้น!!

เปลวไฟแห่งโทสะกำลังแผดเผาในใจของเขา ดวงตาคมทอประกายกล้าโหดเหี้ยม..

“อัศวินบอนกำลังทำอะไรอยู่..”

นักบุญระดับล่างมีท่าทีตัวสั่นเล็กน้อย

“กำลัง..สวดภาวนาอยู่ครับ ตั้งแต่วันนั้นท่านอัศวินก็ไม่ออกมาจากห้องสวดภาวนาเลย..ดูท่าว่าท่านอัศวินจะรู้สึกผิดมากจริงๆ”

ความรู้สึกขุ่นเคืองกำลังอัดแน่นเต็มอก ฟอสเตอร์หลับตาลงช้าๆ

“เช่นนั้นก็ให้เจ้านั่นสวดภาวนาต่ออีกหน่อยเถิด..ให้เขาล่วงรู้ว่าอัศวินของวิหาร ไม่มีสิทธิ์ใดๆ ที่จะแสดงความลุ่มหลงต่อแม่มด เจ้านั่นไม่ควรกระทำตัวไร้ยางอายเช่นนั้นอีก”

ท่านอัศวินบอนประพฤติตนอย่างดีมาเสมอ เรื่องที่ท่านคาดินันกำลังโกรธนั้นทำให้เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าท่านอัศวินจะไปอยู่กับแม่มดเช่นนั้น..

“ครับ..ข้าเองก็หวังว่าท่านคาดินันจะให้อภัยท่านอัศวินในเร็ววัน”

ฟอสเตอร์ปรายสายตามองหน้าของนักบุญ

“..ข้าเองก็ภาวนาเช่นนั้น ขอให้ตัวเองหายโกรธอัศวินบอนเร็วๆ”

ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ไม่มีทางที่เขาจะหายโกรธเคืองน้องชายต่างมารดาง่ายๆหรอก ในเมื่อมีโอกาสมาให้เขาเล่นงานหมอนั่นทั้งที เขาจะยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปได้อย่างไรกัน

หรือว่าเขาควรจะใช้โอกาสนี้ในการขับไล่หมอนั่นออกไปจากที่วิหารนี้ดีนะ ไหนๆ ก็ชื่นชอบความต่ำทรามของแม่มด เช่นนั้นก็ปล่อยให้หมอนั่นไปมีชีวิตในแบบที่ตัวเองคู่ควรก็แล้วกัน

.....................

“น้ำร้อนไปรึเปล่าครับ”

น้ำไม่ร้อนแต่ตัวเธอกลับร้อนจนรู้สึกเหมือนว่าจะเป็นไข้เนี่ยนะสิ

“ไม่เลย ไม่ได้ร้อนไปเลยสักนิดเดียว..”

สายตาของเขากวาดผ่านร่างกายเธออย่างช้าๆ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกกลืนกินด้วยความปรารถนาที่แรงกล้า อันที่จริงการห้ามใจไม่ให้ตัวเองพุ่งเข้าไปหาเขามันก็ไม่ง่ายเหมือนกัน แต่ว่า..ในใจของคามีย์กลับยังมีความหวาดกลัวอยู่ เธอแค่อยากแน่ใจว่าเขาไม่ได้รังเกียจการทำเรื่องเช่นนั้น อยากแน่ใจมากกว่านี้อีกหน่อยว่าการทำเรื่องเช่นนั้นของเรามันจะมาจากความต้องการของเขา..เธอแค่อยากแน่ใจอีกหน่อยก็เท่านั้น

เรื่องของเรามันไม่มีตรงไหนเลยที่ต้องรีบร้อน..ค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ น่าจะดีมากกว่า

อูแบร์ซบใบหน้าลงมาบนมือของเธอ เขาช้อนสายตามองมาที่คามีย์อย่างเย้ายวน สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยว่ามันอันตรายมากๆ ก็คงหนีไม่พ้น การรู้จักตัวเองเป็นอย่างดีของอูแบร์ เขารู้ดีว่าต้องทำเช่นไรสตรีที่กำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าถึงจะใจอ่อน

“..ทำไมท่านคามีย์ถึงได้ใจแข็งกับข้านักล่ะครับ ความพยายามทั้งหมดของข้านั้นดูเหมือนจะสูญเปล่าไปเสียหมด เมื่อข้านั่งอยู่ต่อหน้าท่าน..”

ทำไมถึงไม่หวั่นไหวไปกับเขาเลยล่ะ หรือเพราะว่าในอดีตเขาคือนักระบำอย่างนั้นหรือ เพราะว่าในอดีตเขาทำงานรับใช้สตรีมามากมาย ท่านคามีย์ผู้งดงามก็เลยรังเกียจเขาอย่างนั้นสินะ

เมื่อความคิดอันแสนน่าน้อยเนื้อต่ำใจผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ แววตาแสนหวานนั้นก็เริ่ม..โศกเศร้าขึ้นมา

“การห้ามใจไม่ให้ปรารถนาในตัวของเจ้ามันทำไม่ง่ายเลยอูแบร์ จนถึงตอนนี้ข้าก็รู้สึกต้องการเจ้าแทบบ้าแต่ทว่า..เพราะข้าต้องการให้เจ้าแน่ใจอีกหน่อย ให้เจ้าแน่ใจว่าเจ้าจะไม่มีวันเสียใจที่เลือกทำเช่นนี้ ข้าให้เวลาเจ้าหนึ่งปีนั่นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่ข้าอยากให้เจ้านำทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นมา ไปตกผลึกในหัวใจจริงๆว่าที่แท้จริงแล้ว เจ้าต้องการทำเรื่องเช่นนั้นกับข้าเพราะเจ้าต้องการมันจริงๆ หรือเป็นเพราะว่าเจ้าทำไปด้วยความรู้สึกที่อยากจะตอบแทนข้า..”

อูแบร์ขบเม้มริมฝีปากไปมา

“หรือว่าท่านคามีย์..รังเกียจข้าอย่างนั้นหรือครับ”

ร่างกายนี้มันช่างสกปรก โสมมและน่าขยะแขยง..เพราะแบบนั้นเธอก็เลยหาทางปฏิเสธอย่างนั้นสินะ

“ข้าไม่มีทางคิดแบบนั้นอยู่แล้ว..อา..ให้ตายสิ ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าสกปรก หรือว่าอะไรเลย เพราะข้าเข้าใจว่าเจ้าถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องทำเรื่องเช่นนั้น..”

“แต่ครั้งนี้..ข้าไม่ได้ถูกบังคับ”

เธอสั่นเล็กน้อยเมื่อสายตาของเขาจ้องมองเธออย่างเข้มข้น ดวงตาคู่นั้นมันอัดแน่นไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่ไม่อาจซ่อนเร้นอีกต่อไป..

ปลายนิ้วของคามีย์สัมผัสลงไปบนสันกรามที่นูนเด่นขึ้นมาของเขาอย่างเชื่องช้า

“ข้าไม่ใช่คนที่มีความอดทนมากมายนัก”

“ข้าไม่เคยบอกกล่าวให้ท่านคามีย์อดทนสักหน่อย หากท่านไม่ต้องการข้าก็จะไม่ทำจนถึงขั้นสุดท้าย..แต่ข้าแค่อยากสัมผัสท่านและทำให้ท่านรู้สึกดีก็เท่านั้น..”

อันที่จริงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกมองในสายตาเช่นนี้ เป็นครั้งแรกเลยที่มีผู้อื่นมองมาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ..

การผลักไสเขามันเหนื่อยมากทีเดียว และเธอเองก็ไม่คิดจะผลักไสเขาอีกแล้วล่ะ..ไหนๆก็ไหนๆหากว่าเขาไม่ได้รู้สึกว่าตนเองกำลังถูกบังคับ หากว่าเขาเต็มใจที่จะทำมันแล้วละก็..จะรออะไรล่ะ

เธอดึงรั้งใบหน้านั้นเข้ามาจูบ ก่อนจะออกแรงดึงร่างกายของเขาให้ตกลงมาในอ่างน้ำ

“ตู้ม!!”

เขาล้มลงแต่ทว่าเขายังไม่ยอมละริมฝีปากออกไปจากปากของเธอ ขณะที่เรากำลังจูบ มือของคามีย์ก็รีบปลดกระดุมเสื้อของเขาออกไปในเวลาเดียวกัน

“จะมาโทษข้าไม่ได้นะ..”

“ข้าไม่คิดโทษท่านคามีย์เลยครับ..ข้าเต็มใจ”

เขาพรมจูบลงไปบนมือของเธอ ขบงับเบาๆ ที่ปลายนิ้วด้วยความมันเขี้ยว

ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาเพื่อพรมจูบไปตามใบหูและลำคอ..ปลายลิ้นนั้นคล้ายจะสำรวจให้ทั่วและชิมรสของเธอจากทุกส่วนของร่างกาย

อา..กลิ่นลาเวนเดอร์อย่างนั้นสินะ ครั้งที่แล้วเธอไม่ได้กลิ่นแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะได้กลิ่นเลือดของเขาอย่างชัดเจนเลย นี่ช่างเป็นกลิ่นที่เหมาะกับเขามากจริงๆ

กลิ่นหอมหวานละมุน เหมือนกับใบหน้าที่ช่างสวยหวานของเขา

ยังไม่ทันที่คามีย์จะได้ตั้งตัวเขาก็อุ้มเธอขึ้นมาวางที่ขอบอ่าง ก่อนจะจับเรียวขาทั้งสองข้างแยกออก..

แน่นอนว่าท่านี้มันน่าอายชะมัด ดวงตาของเขากำลังจับจ้องลงไปยังส่วนที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครมอง

“ไม่ต้องอายหรอกนะครับ เพราะจากนี้ไปการมองดูส่วนนั้นของท่านคามีย์มันจะเป็นเรื่องที่ข้าต้องทำบ่อยๆ..นั่งพิงผนังเอาไว้นะครับ ข้าจะลองลิ้มรสท่านสักหน่อย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel