บท
ตั้งค่า

1.อารามภบท

ตีสองห้าสิบเก้า

ท่ามกลางความมืดภายในห้องนอนขนาดเล็ก บนเตียงนุ่มขนาดหกฟุตมีร่างผอมบางของหญิงสาวที่กำลังนอนหลับสนิท

เสียงลมหายใจสม่ำเสมอดังอยู่ในความเงียบ เช่นเดียวกับหน้าอกที่สะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะ คลอไปกับเสียงของเข็มนาฬิกาที่แขวนอยู่บนฝาผนัง

ตีสาม

ทว่าในความสงบ ไม่ได้มีเพียงช่วงอกของหญิงสาวเท่านั้นที่ขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ แต่กลับมีก้อนของบางสิ่งปูดขึ้นมาจากหน้าท้องบาง เพราะเธอซึ่งสวมเพียงเสื้อสายเดี่ยวกางเกงขาสั้นนอนแถมยังติดนิสัยถีบผ้าห่ม ตอนนี้จึงแทบไม่มีอะไรคลุมกาย

ก้อนนั้นค่อยๆปูดขึ้นมาจนมีขนาดเท่ากำปั้น มันเคลื่อนวนไปมาอยู่ชั่วครู่บริเวณช่องท้องก่อนจะแตกตัวเป็นเก้าส่วน ไม่นานไอสีดำก็ค่อยๆคืบคลานออกมาจากทวารทั้งเก้า

รูหูทั้งสองข้าง

จมูกสองรู

ปากหนึ่ง

ทวารหนักหนึ่ง

ทวารเบาอีกหนึ่ง

เมื่อออกมาแล้วมันก็ลอยวนเวียนลามเลียไปตามร่างกายขาวผ่อง ก่อนที่ทั้งเก้าส่วนจะพุ่งไปที่ปลายเตียงแล้วรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว มันค่อยๆก่อตัวเชื่องช้าจนเป็นรูปร่างของผู้ชายตัวสูง

จากควันดำเริ่มปรากฏเป็นใบหน้าและลำตัวส่วนบนที่จางเกินกว่ามนุษย์ไปหลายขุม ดวงตาหม่นแสงทว่าแฝงไปด้วยความลุ่มหลงของ ‘มัน’ มองหญิงสาวที่ยังนอนอยู่บนเตียงหวานหยดย้อย

รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นบนใบหน้ายามที่ไล้สายตาไปตามเรือนร่างอรชรงามล้ำน่ามอง ไม่ต่างจากตอนที่อายุสิบแปดปีที่ได้เจอกันครั้งแรก น่าเสียดายที่คืนนี้มันอ่อนแรงจากมนตร์คาถาของอีหญิงวิปริตสาระแนที่เป็นเพื่อนของเธอ จึงไม่อาจทำอะไรได้มาก

ช่างแส่นัก!

แต่แม้อยากกำจัดไปให้พ้นทางก็ทำไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้มีบุญญาธิการมาเกิด มีบารมีมากล้นจุติมาจากภพเทวดา มีของดีคุ้มตัวจนแตะต้องไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ

ไม่เพียงแค่ตัวเอง แต่บางครั้งก็ยังร่ายคาถาใส่เธอจนแทบจะแตะต้องไม่ได้ บางคราวที่มาอยู่ใกล้ตัวมันก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปหลบในเงามืด

“เมียพี่ ”

เสียงทุ้มนั้นเบาหวิวไม่ต่างจากสายลม มันย่อตัวลงขณะที่ไล่สายตามองเรียวขาสวยซึ่งโผล่พ้นกางเกงขาสั้น มือที่ยังเป็นเพียงกลุ่มหมอกควันยื่นเข้าไปแตะที่ปลายเท้า ก่อนชะงักเล็กน้อยเพราะความร้อนจากประกายสีทองที่แผดเผา

แต่แม้จะแสบร้อนมันก็ยอมทน ขอเพียงได้ต้องกายนี้แม้ต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าเป็นร้อยเท่าทบทวีก็เต็มใจ แค่ให้มันได้เป็นคู่ชูชื่น ได้มีโอกาสเสพสมและครอบครอง

มากกว่าที่เคยได้ครองมาตลอด

“งามเหลือเกินคนดี ”

แต่อีกไม่นานหรอก เที่ยงคืนวันพรุ่งนี้สิ่งที่มันหวังมาเนิ่นนานก็จะเป็นจริงดั่งใจนึก เมื่อวันเกิดปีที่ยี่สิบห้าของเธอมาถึงจะมีอีนังนั่นสักกี่คนก็ไม่อาจช่วยได้ เข้าสู่เบญจเพสเมื่อใด เธอก็จะตกเป็นของมันแต่เพียงผู้เดียว!!

ช่วงเย็นของวันถัดมา

“อืมถึงแล้ว ฉันซื้ออาหารใต้มาเผื่อด้วยแกจะขึ้นมากินไหม ร้านนี้เจ้าของเป็นคนบ้านเดียวกับฉันเลยนะ อร่อยมากเหมือนที่แม่เคยทำให้กินเลย”

“โอเค รีบมานะ อย่าลืมเอาน้ำเต้าหู้มาให้ด้วยนะ สิบปีแล้วฉันก็ยังไม่ได้กินฝีมือแกเลยเนี่ย”

“เออจ้า รสชาเขียวนะ”

มือขาวลดโทรศัพท์ที่แนบหูลงขณะที่หันไปล็อกประตูเพิ่มอีกชั้นเพื่อความสบายใจ ทออรุญ เดินไปวางกระเป๋าลงบนโซฟาก่อนจะเดินถือถุงอาหารไปวางลงบนโต๊ะ จากนั้นก็เดินไปหยิบจานมาจัดการเทกับข้าวเพื่อรอเพื่อนสนิท

ส่วนตัวเธอนั้นกินมาตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วเพราะว่าพี่ๆที่ทำงานด้วยกันมาหลายปีพาไปเลี้ยงส่ง เนื่องจากวันนี้เป็นวันทำงานในฐานะนักข่าววันสุดท้าย ก่อนที่พรุ่งนี้จะได้มาเป็นนักเขียนอิสระเต็มตัวเสียที

การเป็นนักข่าวโต๊ะอาชญากรรมถือเป็นหนึ่งในความฝันของทออรุณ แรกเริ่มเธอมีแพชชั่นในการทำงานมาก ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆมีไฟในการทำงานอยู่ตลอด สามารถนอนดึกตื่นเช้าหรือไปทำข่าวข้ามวันข้ามคืนได้

ไม่ว่าจะน่ากลัวแค่ไหน สภาพศพแย่เท่าไหร่ก็ไม่เคยหวั่น ลำลากลำบนแค่ไหนก็ไม่เคยบ่นสักคำจนได้ฉายาว่า ‘เต้าหู้ขาลุย’ ในตอนนั้นหลายคนเคยถามเธอว่าเพราะอะไรถึงได้ไม่กลัว หญิงสาวเองก็ตอบไม่ได้ บางทีตอบได้ก็กลัวจะไม่มีใครเชื่อ

ทว่าเมื่อเวลาผ่านมาเข้าปีที่สามพลังเหล่านั้นกลับหายไปโดยไม่รู้ตัว เธอรู้สึกได้ว่าร่างกายที่ใช้มาอย่างหนักอ่อนแรงลง เมื่อร่างกายเริ่มอ่อนแอจิตใจก็พาลห่อเหี่ยวไปด้วย

บวกกับช่วงหลังทออรุณกลับมาเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น ได้ยินสิ่งที่ไม่ควรได้ยินอย่างไม่รู้สาเหตุ ทั้งที่เซ้นส์การเห็นผีของเธอมันหายไปตั้งแต่ตอนอายุสิบแปดหลังเหตุการณ์ครั้งนั้น เวลาผ่านมาหกปีกว่าก็ไม่เคยเห็นอะไรเลย

ทว่ามันกลับมาเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่อเธอไปทำข่าวฆ่าข่มขืนเด็กมัธยมปลายเมื่อราวสามเดือนก่อน ทออรุณที่คิดว่าตัวเองไม่เห็นสิ่งลี้ลับแล้ว ได้เห็นวัยรุ่นผู้หญิงสวมชุดนักเรียนมายืนอยู่หน้าที่เกิดเหตุ

ตอนแรกที่เห็นก็ไม่ได้สนใจอะไรคิดว่าคงเป็นลูกหลานชาวบ้านแถวนั้นมายืนดูตามประสาไทยมุง แต่พอเข้าไปเห็นศพก็ถึงได้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นไม่ใช่คน

หลังจากนั้นไปทำข่าวที่ไหนเธอก็มักจะเห็นวิญญาณอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้การต้องไปทำงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนตายอยู่ทุกวันจึงทำให้ทออรุณทรมานมาก

ด้วยความที่อยากหลุดพ้นจากตรงนั้น เธอจึงปรึกษาเพื่อนสนิทอย่าง บัวบูชา และตัดสินใจเบนสายมาเป็นนักเขียนนิยายตามอีกฝ่าย  แน่นอนว่าเพราะมีพื้นฐานด้านงานเขียนอยู่แล้วทุกอย่างมันจึงง่าย

วันพรุ่งนี้บทใหม่ของชีวิตเธอก็จะเริ่มขึ้นจริงๆแล้ว

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“มาไวจัง” หญิงสาวหน้าหมวยละมือจากถุงแกงคั่วกระดูกหมูที่เพิ่งแกะยางออกเสร็จขระที่เอ่ยประโยคนั้น เธอปัดมือเล็กน้อยขณะที่เดินไปที่หน้าประตู

ทว่าแม้รู้ว่าต้องเป็นเพื่อนแน่ๆทออรุณก็ยังไม่ได้เปิดประตูในทันที เธอเลือกจะส่องตาแมวก่อนเพื่อความปลอดภัย แต่เมื่อไปแล้วหัวคิ้วสวยก็พลันต้องขมวดเข้าหากัน เพราะด้านหน้าห้องนั้นไม่มีใครยืนอยู่เลย

อะไรบางอย่างทำให้ขนบนตัวทุกเส้นลุกเกรียวอย่างไร้สาเหตุ

ทออรุญถอยใบหน้าออกจากประตูเล็กน้อยแต่ก็ยังอยู่ในระยะที่มองเห็น แม้จะรู้สึกกลัวขึ้นมาแต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร เพราะในเหตุการณ์แปลกประหลาดแบบนี้ไม่ทักคงดีที่สุด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel