บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5

คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกที เมขลากำลังจะละลายหายไปในอากาศเมื่อเทพบุตรสุดหล่อลุกขึ้นยืนตรง แต่ปลายจมูกของเขาโฉบเฉี่ยวผ่านแก้มสาวไปอย่างเฉียดฉิว แค่ลมหายใจอุ่นๆ ที่ผ่านไปมาอย่างไม่ตั้งใจ ยิ่งทำให้สาวน้อยแทบประคองสติไว้ไม่อยู่

"ถ้างั้น ให้ผมนั่งเป็นเพื่อนไหม" ชายหนุ่มหาเรื่องเพื่อที่จะอยู่ใกล้ ชาร์ลวางรองเท้าคู่นั้นไว้บนโต๊ะรับแขก หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดหาคนที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้

"คุณชาร์ล" เสียงแอนนาดังขึ้นขัดจังหวะ

"รองเท้าคุณเป็นอะไร ตายจริง" แอนนาเพิ่งเห็นว่าที่ปลายเท้าของเมขลามีรอยแดง

"จัดการไม่ให้รองเท้ากัดซะ แอนนา อ้อ ไปหายามาทาไม่ให้เท้าระบมด้วย" ชาร์ลสั่งการราวกับว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย

"ค่ะ" แอนนารับคำอย่างงุนงงแล้วหันมาหาเมขลาว่า

"คุณเมขลารอแป๊ปนะคะ เดี๋ยวฉันจัดการให้" ว่าแล้วแอนนาก็รีบไปจัดการตามที่ชาร์ลสั่ง และทิ้งให้เมขลานั่งอยู่กับชาร์ลต่อไปเพียงลำพัง

ชาร์ลปรายตามองสาวน้อยที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ นี่หรือเด็กในอุปการะของมารดาที่เป็นเจ้าของงานเลี้ยงต้อนรับในคืนนี้ เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า เด็กของมัม จะทำให้หัวใจรู้สึกผิดปกติได้ถึงเพียงนี้ และมันเป็นความผิดปกติที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อนในชีวิต

ท่านประธานหนุ่มแอบมองเด็กของแม่อยู่เงียบๆ ปากนิดจมูกน้อยเครื่องหน้ารับกันลงตัวจนเรียกว่าสวย ไม่ใช่ซิ สวยมากต่างหาก สวยกว่าแม่สาวๆ ที่เขาเคยได้ใกล้ชิดเสียอีก ยามยิ้ม รอยยิ้มของเธอเหมือนแสงสว่างในหัวใจของชาร์ล ร่างกายของเธอ ผิวกายของเธอ เพียงแค่มือและเท้าหรือเรือนร่างที่ได้สัมผัสเพียงเล็กน้อยเมื่อครู่ ทุกอย่างที่เป็นเธอ เขาต้องการ

หัวใจของชาร์ลเรียกร้องและแสดงความปรารถนาในตัวหญิงสาวอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งมองยิ่งอยู่ใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ หัวใจก็เรียกร้องและหมายมั่นที่อยากจะครอบครองเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น แล้วมันจะยากอะไร

ก็ในเมื่อเธอเป็นเด็กของแม่ก็เท่ากับเป็นคนของตระกูลสมิธ และเมื่อเป็นคนของตระกูลสมิธก็เท่ากับเป็นคนของเขา เป็นผู้หญิงของชาร์ล ชโยดม สมิธคนเดียวเท่านั้น

"เรียบร้อยแล้วค่ะ" เสียงแอนนาเหมือนระฆังช่วยชีวิตเมขลา

จะไม่รู้ว่าเขากำลังจ้องมองอยู่ ถ้าเป็นคนอื่นเมขลาอาจจะเงยหน้าถามตรงไปตรงมาแล้วว่ามีปัญหาอะไร แต่นี่ เขาคือใคร ไยจึงมีอำนาจมากพอที่จะทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองสบตา ได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายพิจารณาตนอยู่ข้างเดียวต่อไป

"ลองดูใหม่ค่ะ" แอนนาค่อยๆ ประคองเมขลาให้ลุกขึ้นแล้วใส่รองเท้าคู่เดิมที่ไปทำมาใหม่ ชาร์ลอยากจะปราดเข้าไปเป็นคนที่ประคองเสียเอง แต่ก็ต้องอดใจไว้ด้วยความเสียดาย

"เป็นไงคะ"

"ดีขึ้นค่ะ ไม่เจ็บแล้ว" เมขลารู้สึกดีขึ้นกว่าแต่ก่อนจริงๆ

"ถ้างั้นไปกันเลยค่ะ มาดามรอนานแล้ว คุณชาร์ลจะออกไปพร้อมกันเลยไหมคะ" แอนนาหันมาถามนายน้อยที่ยังยืนอยู่ที่เดิม

คุณชาร์ล เมขลาหันขวับไปมองพ่อเทพบุตรใจดีของตนในทันที เขาคือชาร์ล สมิธ ลูกชายคนเดียวของผู้มีพระคุณงั้นหรือ หัวใจที่วาบหวามเมื่อครู่มีอันต้องจบลงทันที ผู้ชายคนนี้ต่อให้ดีแสนดีแค่ไหน หรือเธอปรารถนาเพียงไรก็ไม่มีสิทธิ์ ห้ามแม้แต่จะคิดเพราะเขาคือของสูงที่ไม่ควรหมายปอง ที่สำคัญสูงส่งเกินกว่าคนไร้ค่าเช่นตนจะคู่ควรด้วย

"นี่คือคุณชาร์ล ลูกชายของมาดามค่ะ" แอนนาเดาจากเหตุการณ์ว่าเมขลาคงยังไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้คือใคร จึงแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักอย่างเป็นทางการ

"สวัสดีค่ะ คุณชาร์ล" เมขลาพนมมือไหว้ทำความเคารพอีกครั้ง และครั้งนี้รีบหลบสายตาไม่กล้าสู้หน้าแม้แต่นิดเดียว

"นี่คือคุณเมขลา เจ้าของงานในวันนี้ค่ะ"

"รู้แล้ว" ชาร์ลตอบเพียงสั้นๆ พลางปรายตามองเมขลาเล็กน้อย

รู้สึกไม่ชอบใจเท่าไรที่อีกฝ่ายไม่ยอมส่งยิ้มแสนหวานให้เหมือนเมื่อครู่ ซ้ำยังมีท่าทีเหมือนเกรงกลัวไม่อยากอยู่ใกล้ มันทำให้เขาต้องหาวิธีที่จะอยู่ใกล้ๆ โดยไม่เสียภาพนายน้อยผู้ไม่เคยเข้าหาใคร และเพื่อไม่ให้เมขลาต้องเกร็งมากไปกว่านี้

"แอนนา ช่วยขึ้นไปเอาของที่อยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอนให้หน่อย" เขาคิดออกแล้วว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้อยู่ใกล้นางฟ้าแสนสวยต่อไปอีก

"แต่ว่า มาดามสั่งให้ฉันพา..." แอนนาอิดออดเล็กน้อย เพราะมาลัยรัตน์เร่งให้รีบพาเมขลาออกไปได้แล้ว ถ้าหากว่าเธอเสียเวลาขึ้นไปหยิบของอีก เกรงว่าจะทำให้มาดามสมิธเสียเวลาคอย

"ฉันจะเป็นคนพาไปเอง" ชายหนุ่มตัดบทสั้นๆ แล้วยื่นมือมาตรงหน้าเมขลา แอนนาชะงักมองหน้าคนพูดด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยคำถาม หากแต่ชาร์ลไม่ได้สนใจแอนนาเลยแม้แต่น้อย หันมาหาเมขลาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า

"ไปกับฉัน ฉันจะพาไปหามัมเอง"

เมขลาลังเลว่าจะตอบรับหรือรอแอนนาอยู่ตรงนี้ดี แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นดวงตาคู่คมที่มองจ้องมา ทำให้ตัดสินใจยื่นมือไปวางประกบลงบนฝ่ามือที่รออยู่ก่อนหน้าแล้ว

"ฉันจะเป็นคนพาเธอไปปรากฎตัวต่อหน้าแขกที่มาในคืนนี้เอง เธอคือคนของฉัน คนของตระกูลสมิธ เมขลา"

ถ้านี่คือฝัน ก็คือฝันดีที่สุดในชีวิตของเมขลาแล้ว ที่ได้มีโอกาสเดินเคียงข้างเทพบุตรรูปงามนามว่าชาร์ล ชโยดม สมิธคนนี้ ทุกย่างก้าวมีฝ่ามือของเขากุมไว้ให้ความรู้สึกอบอุ่นไปถึงหัวใจอย่างบอกไม่ถูก

แค่ก้าวออกมาจากคฤหาสน์เพื่อเข้าสู่งาน สายตาของแขกทุกคนก็จับจ้องมาที่สาวน้อยหน้าใหม่คนนี้ด้วยความชื่นชม ทำให้คนที่เดินเคียงข้างรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอันมาก ที่ใครๆ ต่างก็พากันชื่นชมยินดีผู้หญิงในความสวยงามราวกับเจ้าหญิงของเมขลา ที่เห็นจะมีความสุขมากกว่าใครทั้งหมดในงานก็คงไม่พ้นมาลัยรัตน์นั่นเอง ในที่สุดนางก็หาจุดอ่อนที่จะทำให้ความฝันของตนเป็นจริงได้แล้ว

งานเลี้ยงต้อนรับเมขลาเมื่อคืนที่ผ่านมาเสร็จสิ้นลงด้วยความเรียบร้อย มาลัยรัตน์มีของขวัญต้อนรับสมาชิกใหม่เป็นเครื่องเพชรน้ำงามที่ทำให้แขกทั้งงานฮือฮาพูดไม่จบ นอกจากนั้นของขวัญที่ทำให้คนทั้งงานตกตะลึงกันไปตามๆ กันอีกอย่างก็คือ ก็คือของขวัญจากชาร์ลที่ทำให้หญิงสาวต้องรีบเอามาคืนแต่เช้าตรู่

"เมย์รับไว้ไม่ได้จริงๆ ค่ะ ของมีค่ามีราคาแบบนี้" เมขลาเอาเครื่องเพชรรับขวัญใส่กล่องเดิมมาคืนวางไว้ตรงหน้า ตามมาด้วยกล่องกำมะหยี่ใบเล็กที่มีแหวนเพชรอีกวงของชาร์ล

"ฉันตั้งใจและเต็มใจให้ หนูรับไว้เถอะ" หญิงวัยกลางคนไม่รับของคืน

"ที่คุณท่านให้มาก่อนหน้าก็มากพอแล้วค่ะ แค่นี้เมย์ก็ชดใช้ให้ไม่หมดแล้ว" เมขลาไม่ได้ต้องการของขวัญหรือสิ่งใดทั้งสิ้น พระคุณที่มาลัยรัตน์มีให้มากเกินกว่าจะตอบแทนหมดด้วยซ้ำ

"รับไว้เถอะนะ ถือซะว่าเป็นของขวัญที่เรียนจบก็ได้" มาลัยรัตน์คะยั้นคะยอยื่นให้ เลื่อนกล่องกำมะหยี่ของตนมาไว้ที่ตรงหน้าสาวน้อย

"ถ้างั้นแหวนของคุณชาร์ล เมย์ฝากคืนคุณชาร์ลด้วยค่ะ เมย์ขอรับแค่ของที่คุณท่านให้แล้วกันนะคะ และขอฝากไว้ที่นี่ก่อน ถ้าจะใช้เมื่อไรค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง"

เมขลาคิดถึงเจ้าของกล่องแหวนเพชร เมื่อคืนนี้เขาคอยจับมือเดินตลอดที่อยู่ในงาน แม้ว่าจะบอกให้ปล่อยแต่ชาร์ลก็อ้างว่ารองเท้าเจ้าปัญหาจะทำให้เธอขายหน้าคนทั้งงานได้ อีกทั้งน้ำเสียงและสีหน้าที่คล้ายกับจะออกคำสั่ง ทำให้ไม่กล้าขัดและต้องยอมให้จับมือไว้อย่างนั้นจนจบงาน

"ฝากได้จ้ะ แต่ว่าของชาร์ล หนูเมย์ต้องเอาไปคืนเองนะ" มาลัยรัตน์เลื่อนกล่องกำมะหยี่กล่องเล็กมาไว้ที่ตรงหน้า

เมขลาก้มหน้าไม่รู้จะทำอย่างไรกับของขวัญกล่องเล็กชิ้นนี้ แค่เมื่อคืนก็ใจสั่นจนนอนไม่หลับมาแล้วคืนหนึ่ง เพราะในหัวสมองมีแต่ภาพของชาร์ล รอยยิ้มของเขา สัมผัสที่ถูกโอบกอด หรือแม้แต่ความอบอุ่นของฝ่ามือที่กุมไว้ตลอดเวลา

หัวใจเมขลาโหยหาและอยากเห็นหน้า มันเต้นรัวทุกครั้งที่ได้ยินชื่อนี้ แต่ต้องบังคับและกดความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ พร้อมทั้งเตือนตัวเองว่าไม่มีสิทธิ์ ห้ามแม้แต่จะคิดและอยู่ห่างๆ ไว้เป็นดีที่สุด เมื่อคิดจะอยู่ห่างๆ กลับยิ่งต้องเผชิญหน้ากันอีก แล้วเธอจะทำหน้าอย่างไรเมื่อต้องเจอเขาอีกครั้ง

"เมย์ฝากคุณท่านคืนให้ด้วยนะคะ อีกไม่กี่วันเมย์ก็จะต้องกลับเมืองไทยแล้ว" เมขลาตัดสินใจไม่พบชาร์ลอีก เธอควรรีบหักห้ามใจเสียแต่วันนี้ อย่างน้อยหลายวันที่อยู่ในคฤหาสน์สมิธ ก็คงต้องมีวันใดวันหนึ่งได้พบเจอเขาบ้าง แต่มันก็คงดีกว่าการที่ต้องไปพูดคุยหรือพบหน้าในสถานที่อื่น

"ใครๆ ก็ไม่อยากรับของที่ฉันให้" น้ำเสียงมาลัยรัตน์บ่งบอกเหมือนว่าน้อยใจในที

"คุณท่านคะ ไม่ใช่อย่างนั้น คือว่า..." เมขลาตกใจเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าหมองของผู้มีพระคุณ

"แค่เครื่องเพชรไม่เท่าไร แต่ความหวังดีที่ฉันมอบให้นี่ซิ ทำไมถึงไม่มีใครรับนะ ฉันคงเป็นคนไร้ค่าที่ไม่มีความหมายกับใครเลยซินะ" นางเสียงสั่นเครือ เมขลาไม่เข้าใจว่าเรื่องอะไร แต่รู้สึกไม่ดีที่เห็นหญิงวัยกลางคนมีท่าทางเช่นนี้

"คุณท่านคะ ใครทำให้คุณท่านไม่สบายใจหรือเปล่า เมย์พอจะช่วยอะไรคุณท่านได้บ้างไหมคะ" หญิงสาวเอื้อมมือมากุมมือของมาลัยรัตน์ไว้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel