ตอนที่ 2
เขานึกจินตนาการถึงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ชาวไทยที่อยู่ในรูปถ่าย ซึ่งมารดาเคยให้ดูเมื่อเริ่มการอุปการะ ตัวเล็กๆ ผอมๆ ปากนิดจมูกหน่อย นี่เหรอสวย สำหรับชาร์ลแล้วรูปร่างที่ดีคือต้องมีเนื้อนมไข่ให้กอดแล้วหายหนาวต่างหาก
“ผมจำได้ว่าตัวเล็กผอมมาก เห็นทีจะสู้นักร้องเสียงใสดีกรีแชมป์จากยุโรป ที่เมื่อคืนมาร้องเพลงพิเศษให้ผมฟังตัวต่อตัวไม่ได้หรอกมั้งครับ”
"แหม ทำเป็นพูดไป ถ้าเห็นตัวจริงไม่แน่จะเปลี่ยนคำพูดว่านางฟ้าเดินดินดีๆ นี่เอง แล้วก็ไม่ต้องเอาหนูเมย์ไปเปรียบเทียบกับบรรดาสาวๆ ทั้งหลายที่มาร้องเพลงเดินแบบส่วนตัวให้ลูกหรอกนะ หนูเมย์ไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น" มาลัยรัตน์ชื่นชมอย่างออกนอกหน้า
"ครับๆ ผมไม่กล้าแตะเด็กของมัมแล้ว" ชาร์ลพูดทีเล่นทีจริง
"มานี่ แม่มีรูปหนูเมย์ให้ดูก่อนเห็นตัวจริง" มาลัยรัตน์ทำท่าจะเปิดโทรศัพท์ให้ดูรูป
"ไม่ดีกว่าครับ มัมเก็บไว้ชื่นชมคนเดียวเถอะ" เขาส่ายหน้าไม่คิดจะสนใจดูเด็กของมารดาแม้แต่น้อย ชาร์ลไม่นิยมผูกสัมพันธ์กับคนใกล้ตัวให้เป็นปัญหา
มาลัยรัตน์เลื่อนรูปในโทรศัพท์ดูรูปของสาวน้อยที่กำลังจะเดินทางมาถึงในวันพรุ่งนี้ ยิ่งดูเมขลาก็ยิ่งสวยยิ่งน่ารัก ดวงหน้าแสนหวานชวนมองตลอดเวลา รอยยิ้มอันแสนสดใสให้คนที่อยู่ใกล้รู้สึกสดชื่นหัวใจ นางเลือกรูปที่คิดว่าเมขลาสวยน่ารักที่สุดเพื่อที่จะส่งให้ลูกชายสุดที่รักดูว่า เด็กในการอุปการะสวยและเก่งแค่ไหน แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเมื่อเกิดความคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาในหัวสมอง
"ชาร์ล เรามาเดิมพันกันสักตั้งไหมว่า ผู้หญิงที่ชาร์ลบอกมีอยู่จริงในโลก” มารดาเอ่ย
“เดิมพันทำไมครับ” บุตรชายย้อนถาม
“แม่อยากทำหน้าที่แม่ ช่วยหาเมียให้ลูกชายอีกสักครั้ง”
“โธ่ มัม” ชาร์ลถอนหายใจเบาๆ
“แม่ขออีกแค่ครั้งเดียว ถ้าคราวนี้ไม่สมเร็จอีก ต่อไปแม่จะไม่พูดเรื่องแต่งงานอีกเลย”
“มัมพูดจริงนะครับ แล้วมัมจะไม่โกรธไม่น้อยใจผมเรื่องนี้อีกนะ” เรื่องที่เขาห่วงคือกลัวว่ามารดาจะโกรธและน้อยใจที่ไม่สามารถทำตามความต้องการได้ แต่ถ้าเดิมพันครั้งนี้ทำให้ยอมรับและไม่พูดเรื่องนี้อีกมันก็น่าสนใจ
“แน่นอน” มารดาตอบรับแข็งขัน
“กติกาคืออะไรครับ” ชาร์ลตอบรับทันที
“กติกาคือ แม่จะไปตามหาผู้หญิงที่ชาร์ลต้องการมาให้รู้จัก ถ้าภายในหนึ่งเดือนเธอไม่สามารถทำให้ลูกแม่อยากแต่งงานได้ ถือว่าชาร์ลชนะ เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก แต่ถ้าเธอสามารถทำให้ชาร์ลพูดคำว่ารักออกมาได้ บ้านเราจะมีงานแต่งงานทันทีโดยไม่มีข้อแม้ ตกลงไหม”
“ไม่มีปัญหาครับ” ชาร์ลรับคำอย่างว่าง่าย ดีเหมือนกันเขาจะได้ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดเวลาถูกถามเรื่องแต่งงาน และมารดาจะได้ไม่ต้องกังวลว่าเมื่อไรลูกชายสุดที่รักจะแต่งงานอีก
มาลัยรัตน์ยิ้มออกเมื่อแผนการแรกสำเร็จไปหนึ่งขั้น แผนต่อไปจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่ช้า นางจะทำให้เจ้าลูกชายตัวดีรู้ว่า ผู้หญิง ความรัก ที่เป็นเสมือนอากาศให้หายใจคือใคร
เช้าวันรุ่งขึ้น
รถหรูเลี้ยวเข้ามาในอาณาเขตของคฤหาสน์ช้าๆ ราวกับรู้ใจคนที่นั่งอยู่ในรถว่าต้องการดูบรรยากาศที่เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกในชีวิต ทันทีที่รถจอดนิ่งสนิทคนขับรีบวิ่งมาเปิดประตูให้พร้อมกับโค้งคำนับเพื่อแสดงความเคารพตามหน้าที่ ร่างเล็กก้าวลงมาด้วยความตื่นตาตื่นใจรีบก้มคำนับรับความเคารพแทบไม่ทัน
"ไม่ต้องทำขนาดนี้ค่ะ ฉันต้องขอบคุณมากกว่า" สาวน้อยส่งรอยยิ้มคืนกลับให้ และไม่ลืมที่จะพนมมือไหว้อย่างอ่อนช้อยเพื่อแสดงความขอบคุณกลับไป
"เชิญทางนี้ครับ มาดามรออยู่ข้างใน" พลขับคนเดิมทำหน้าที่เดินนำหญิงสาวเข้าไปด้านใน
ร่างระหงทรุดตัวลงกราบที่ตักของหญิงวัยกลางคนซึ่งนั่งรออยู่ในห้องรับแขก มาลัยรัตน์สวมกอดสาวน้อยด้วยความดีใจ เพียงแค่เห็นแว่ปแรกนางก็นึกถึงพ่อลูกชายตัวดีที่ตั้งแต่เช้ายังไม่เห็นหน้า เมขลาสวยน่ารักกว่าในรูปที่ส่งมารายงานความเคลื่อนไหวตามหน้าที่
"ดีใจด้วยนะจ้ะ ที่เรียนจบแล้ว" มาลัยรัตน์ประคองเมขลาให้ลุกขึ้นมานั่งข้างๆ
ยิ่งพิศดูใกล้ๆ นางก็ยิ่งพอใจในรูปลักษณ์ที่งดงามของหญิงสาว ปากนิดจมูกหน่อยดวงตาที่มีความสดใสร่าเริงอยู่ตลอดเวลา รอยยิ้มที่ทำให้คนรอบข้างมีความสุข กริยาท่าทางที่จะลุกจะนั่งก็ถูกใจไปเสียทุกอย่าง
หัวใจของมาดามสมิธมีความคิดบางอย่างเกิดขึ้นในใจ นึกเปรียบเทียบเองว่าหากชาร์ลมีสาวน้อยตรงหน้าเคียงข้างจะเป็นอย่างไร เมื่อหัวใจมีคำตอบว่าสมกันราวกิ่งทองใบหยก แค่นี้รอยยิ้มที่แสนมีความสุขก็ปรากฎขึ้น
"นี่ค่ะ ผลการเรียนของเมย์" เมขลาวางซองเอกสารสีน้ำตาลไว้ตรงหน้า
ผลการเรียนเกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วยคะแนนสูงลิบลิ่ว สาขาจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศไทย และจดหมายรายงานความประพฤติจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เมขลาอาศัยอยู่ ยิ่งทำให้มาลัยรัตน์รู้สึกพึงพอใจมากขึ้นไปอีก
คุณสมบัติของเด็กในอุปการะครบถ้วนทุกอย่างทั้งรูปสมบัติและคุณสมบัติ ที่จะเป็นปัญหาก็มีอยู่เพียงเรื่องเดียวคือชาติกำเนิดที่ติดตัวมา แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับการที่จะก้าวเข้ามาเป็นศรีสะใภ้ของตระกูลสมิธ ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตชาร์ลล้วนมีชื่อเสียงในสังคมทั้งสิ้น แต่กลับไม่มีใครเลยที่สามารถกุมหัวใจบุตรชายนางได้ ไม่แน่ว่าความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของเมขลา อาจจะสามารถสั่นคลอนหัวใจของท่านประธานหนุ่ม ให้รู้จักคำว่ารักและก้าวสู่คำว่าครอบครัวก็เป็นได้
"เมย์กราบขอบพระคุณท่านมากนะคะ ถ้าไม่มีท่านคงมาไม่ได้ถึงวันนี้" เมขลาก้มลงกราบอีกครั้งด้วยความซาบซึ้งใจ
เด็กกำพร้าที่ไม่รู้อนาคตได้รับโอกาสหยิบยื่นให้จนเรียบจบ พระคุณที่ยิ่งใหญ่หาสิ่งใดมาตอบแทนได้ เมขลาตั้งใจแล้วว่าหากมีอะไรที่ผู้มีพระคุณต้องการ หรือปรารถนาใช้แรงกาย แรงใจหรือสติปัญญาอันน้อยนิดของตนแล้ว ต่อให้บุกน้ำลุยไฟลำบากแค่ไหนก็จะต้องทำให้สำเร็จจงได้ ขอเพียงแค่เอ่ยปากมาให้รู้เท่านั้น
"อย่าพูดอย่างนั้น หนูทำให้ฉันภูมิใจมากต่างหาก" นางกล่าวด้วยความชื่นชม
ยิ่งพิศยิ่งมองเมขลาใกล้ๆ ก็ยิ่งทำให้เห็นความงดงามน่ารักที่ไร้การแต่งเติมใดๆ นอกจากสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมา หญิงสาวตรงหน้าผิวพรรณสะอาดสอ้าน ใบหน้ารูปไข่รับกับเครื่องหน้าเหมาะเจาะปากนิดจมูกน้อย ผมยาวดำมันขลับถึงกลางหลัง ดวงตากลมโตนัยน์ตาสีน้ำตาลเป็นประกายสดใส รูปร่างเพรียวระหงสมส่วนแม้สวมใส่เพียงแค่เสื้อยืดธรรมดากับกางเกงยีนส์
นางฟ้าเดินดินตรงหน้ากำลังจะทำให้ความฝันของนางเป็นจริงได้ในเร็ววันนี้ หากว่าสามารถทำให้เมขลาเดินเข้าสู่แผนที่วางไว้ได้ นางฟ้าเดินดินของมาลัยรัตน์คนนี้แหล่ะ ที่จะกระชากหัวใจพ่อเทพบุตรสุดหล่อจอมเรื่องมากอย่างชาร์ลให้รู้จักคำว่ารัก และยินดีก้าวสู่การแต่งงานได้ตามใจหวัง ไม่เชื่อก็คอยดู งานนี้มาดามสมิธขอทุ่มเต็มที่
"เรียนจบแล้วจะทำอย่างไรต่อ" หญิงวัยกลางคนเอ่ยถาม พลางกดกริ่งสัญญาณที่อยู่บนโต๊ะเพื่อเรียกให้คนที่ได้ยินออกมาพบ
"ตอนนี้สมัครงานไว้หลายที่ค่ะ มีบางที่เรียกสัมภาษณ์แล้วรอฟังผล พอดีว่าต้องเดินทางมาที่นี่เสียก่อน"
"เหรอจ้ะ" นางพยักหน้ารับทราบ สายตาเหลือบไปเห็นว่าคนที่ต้องการพบมาหยุดยืนรอฟังคำสั่งอยู่ข้างๆ แล้ว
"ไปตามชาร์ลมาพบฉันที"
"นายน้อยออกไปแต่เช้าแล้วค่ะ" สาวใช้คนดังกล่าวตอบเสียงดังฟังชัด
"ไปไหน ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง"
เมื่อวานบุตรชายนอนค้างเป็นเพื่อนและสัญญาว่าจะอยู่รอพบเด็กในอุปการะด้วย แต่เอาเข้าจริงกลับหายตัวไปโดยที่ไม่บอกไม่กล่าว
"ไม่ได้บอกไว้ค่ะ บอกแต่ว่าตอนเย็นจะกลับมากินข้าวเป็นเพื่อนมาดาม" สาวใช้คนเดิมรายงานตามที่ได้รับคำสั่ง
"ถ้างั้นไปตามมาเรียมาพบฉัน ด่วนที่สุด อ้อ ให้แอนนามาด้วยเลยทีเดียว" หญิงวัยกลางคนสั่งอย่างรวดเร็วแล้วหันมาคุยกับสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าต่อทันที
เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นพร้อมกับสาวน้อยในชุดเดรสสั้นสีแดง เดินนวยนาดเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มหย่อนสะโพกอวบอิ่มนั่งลงบนตักของชาร์ลอย่างคนคุ้นเคย
"คิดถึงค่ะ" เจ้าหล่อนยิ้มหวานโน้มใบหน้าลงมาจูบที่ข้างแก้มสาก ก่อนจะส่งสายตาที่เผยความรู้สึกที่มีมากกว่าคิดถึงให้รู้
"คิดถึงอะไร เพิ่งจะเจอกันเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วเอง" ชาร์ลอมยิ้มที่มุมปาก พลางขยับตัวเล็กน้อยเมื่อหญิงสาวโผซบลงมาที่อกกว้าง
"แหม ตั้งสองอาทิตย์เชียวนะคะ ชาร์ล เอมี่คิดถึงคุณจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไรคุณจะเลิกไปนิวยอร์กเสียทีคะ" เอมิลี่ คาร์ตันนางแบบสาวคู่ควงคนล่าสุดของท่านประธานหนุ่มออดอ้อน
"เห็นจะไม่ได้" ชายหนุ่มแกล้งทำเสียงเข้ม
"ทำไมคะ ที่นั่นมีอะไรที่ทำให้คุณต้องไปบ่อยขนาดนั้นคะ" นางแบบสาวเงยหน้าขึ้นมาทันที
"คุณก็รู้ว่าผมเพิ่งจะลงทุนทำโรงแรมเมื่อสองเดือนก่อน ตอนนี้ก็ต้องเทียวไปเทียวมาดูแลให้เข้าที่ ปกติผมก็เดินทางอยู่แล้วไม่เห็นจะมีอะไรแปลก"
"แต่ว่าเอมี่คิดถึงคุณนี่คะ" นางแบบสาวส่งสายตาออดอ้อน
"คิดถึงทำไม ตอนนี้ผมก็อยู่ตรงหน้าคุณแล้วนี่" ชาร์ลเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
