บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

หลังจากเหตุการณ์ ที่เมลดาโชว์พลังสายแมนด้วยการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ให้อันเดรส หนุ่มฮอตก็มาปรากฏตัวที่หน้าบริษัทของเธอบ่อยๆ และนั่นก็ยิ่งทำให้เขาตกเป็นเป้าสายตาอยู่ไม่น้อย กระทั่งเห็นว่าเขามาหาใคร สาวๆ ทั้งหลาย ซึ่งไล่มาตั้งแต่สาวน้อย สาวใหญ่ ทั้งโสดและไม่โสดซึ่งแอบปลื้มอันเดรสอยู่แล้วถึงกับตาค้าง ไม่คิดว่าชายหนุ่มสุดหล่อของตึกจะมาหาเมลดา

“ยัยเม เห็นเงียบๆ แบบนี้ก็ฟาดของดีเหมือนกันนะเนี่ย” ประโยคนี้ดังแว่วมาให้เมลดาได้ยิน แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้สถานะของเธอกับอันเดรสนั้นเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ แต่ก็ยอมรับว่าเธอกับเขาสนิทกันมากขึ้น ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ จนเธอเริ่มจะสับสนในความสัมพันธ์ครึ่งๆ กลางๆ นี้เบาๆ

“จะแฟนก็ไม่ใช่ จะเพื่อนก็ไม่เชิง หรือเราจะเป็นได้แค่กิ๊ก เฮ้อ!” บ่นเสร็จเธอก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ จากวันนั้นถึงวันนี้ นับนิ้วดูแล้วเธอรู้จักกับอันเดรสได้สามเดือนพอดิบพอดี

“สามเดือนอาถรรพ์ไหมน้อ” เมลดาขอบ่นออกมาอีกสักประโยค กระทั่งเห็นอันเดรสเดินกลับมาเธอจึงหยุดเพ้อแล้วส่งยิ้มให้เขา

“นี่ครับ” อันเดรสยื่นผัดไทยกับแตงโมมาให้เมลดา โดยในมือเขาตอนนี้ก็มีผัดไทยอยู่ด้วย จากนั้นคนหล่อก็หย่อนตัวลงนั่งข้างๆ เธอ

ทั้งสองคนนั่งกินผัดไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยกัน บรรยากาศตอนนี้ดูเหมือนจะโรแมนติกหน่อยๆ แต่คิดแล้วเมลดาก็งง เพราะอยู่ๆ วันนี้อันเดรสก็ชวนเธอออกมาเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ นั่งรถตุ๊กๆ จนเธอนี่ผมฟูเป็นหัวสิงโต แต่คนข้างๆ กลับหัวเราะชอบใจ

เขาพาเธอไปไหว้พระ แล้วยังนั่งเรือข้ามฟากมาหาของอร่อยๆ กินกันที่วังหลัง กินกันทั้งวัน กระทั่งถึงตอนนี้ที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เธอกับเขาก็ยังนั่งกินผัดไทยกันอยู่ก่อนจะตบท้ายด้วยแตงโมหวานฉ่ำ ช่วยดับร้อนและทำให้สดชื่นขึ้นเป็นกอง

“เราเป็นแฟนกันไหมเม” คำขอเป็นแฟนจากอันเดรสที่ดังมาเข้าหู ทำเอาเมลดาถึงกับสำลักแตงโมที่กำลังเคี้ยว

เธอไอแค่กๆ ติดกันหลายครั้ง โดยมีอันเดรสคอยลูบหลังให้อีกต่างหาก และพอตั้งสติได้ ก็หันมามองหน้าคนข้างๆ ด้วยสีหน้างงๆ

“ที่พูดตะกี้ พี่สิงห์เมาแดดหรือเปล่า” สรรพนามที่ทั้งคู่ใช้เรียกกันตอนนี้ก็เปลี่ยนไปจากครั้งแรก เพราะอันเดรสอายุมากกว่าเมลดาถึงห้าปี สรรพนามนี้ทำให้ชมพู่ที่ได้รู้หมั่นไส้มาแล้ว

“เปล่า…พี่ขอเมเป็นแฟนจริงๆ ว่าไงครับ พี่รอฟังคำตอบอยู่” อันเดรสส่งยิ้มมาให้ เป็นรอยยิ้มที่ทำให้เอาเมลดาแทบละลาย หัวใจเธอเต้นแรงมาก และคงมากพอๆ กับอันเดรส เขารู้สึกดีกับเธอมาก มากจนเอ่ยปากขอคบหาด้วย แต่ให้ตายสิ ระหว่างรอคำตอบจากเธอ ทำไมถึงรู้สึกหัวใจจะวายเสียให้ได้

“เอ่อคือว่า…” เมลดาอึกๆ อักๆ นั่นเพราะคิดว่าตอนนี้เธอกำลังฝันอยู่แน่ๆ ใครจะไปคิดว่าวันนี้อันเดรสจะมาเอ่ยขอเธอเป็นแฟน แต่พอหยิกตัวเองแล้วก็เจ็บจนสะดุ้งโหยง บ่งบอกว่านี่มันคือความจริง ความจริงที่เธอเฝ้าฝันหามาโดยตลอด กรี๊ดดดด

“หรือพี่คิดผิด” สีหน้าของอันเดรสแฝงไว้ด้วยความเศร้า นั่นเพราะคิดเองว่ารักครั้งนี้อาจไม่สมหวังเสียแล้ว

“คิดผิดเรื่องอะไรคะ” คนฟังเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัย

“คิดผิดว่าเมเองก็ชอบพี่อยู่เหมือนกัน”

“เอ่อ…คือ” เมลดาสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ เพื่อรวบรวมความกล้า ที่คราวนี้ดูเหมือนจะไล่มาตั้งแต่ตาตุ่ม

“เมก็ชอบพี่สิงห์ค่ะ ชอบ…” คำพูดอื่นใดของเมลดานั้นหายกลับเข้าไปในลำคอ เมื่ออันเดรสคว้าตัวเธอเข้าไปกอดพร้อมกับมอบจูบที่เต็มไปด้วยความรักให้

แม้จะตกใจแต่เพราะรักเขาอยู่เช่นกัน ทำให้เมลดารับสัมผัสที่อันเดรสมอบให้อย่างเต็มใจ เมื่อเดือนก่อน เธอเคยคิดว่าหากได้จูบริมฝีปากหยักของอันเดรสความรู้สึกจะเป็นยังไงบ้างนะ และตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามันนุ่มนวล หอมหวานและซาบซ่านหัวใจมากขนาดไหน

ริมฝีปากหยักของอันเดรสละเลียดสัมผัสริมฝีปากอิ่มที่แสนหวานของเมลดานานแสนนาน นานจนเกือบทำให้เธอขาดอากาศหายใจ แม้จะไม่อยากถอนจูบออกตอนนี้ แต่เขาก็ต้องตัดใจ

“จูบนี่คือคำตอบ ว่าเราเป็นแฟนกันแล้วนะน้องเม”

“แน่ใจแล้วนะคะ ว่าพี่สิงห์ชอบผู้หญิงขี้เหร่อย่างเมจริงๆ” คำพูดถ่อมตัวของเมลดา ทำให้อันเดรสมันเขี้ยว จนต้องยื่นมือมาบีบจมูกโด่งๆ ของเธอเบาๆ

สำหรับเขาแล้ว เมลดาไม่ได้เป็นหญิงสวยมาก แต่เธอเป็นคนน่ารัก มีเสน่ห์น่ามองกว่าผู้หญิงสวยเป็นไหนๆ มองเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกเบื่อ ผิวสีน้ำผึ้งของเธอสวย ตาคมๆ นั่นอีก ส่วนเรื่องความสูงที่อาจจะต่างกับเขาไปมาก แต่มันก็ไม่ใช่อุปสรรค

“แน่ใจสิ พอดีว่าพี่ชอบคนขี้เหร่ จะได้ไม่มีใครกล้ามาแย่งผู้หญิงของพี่”

“จ้ะ…พ่อคนหล่อ คราวนี้เมก็ต้องคิดหนัก กลัวมีคนมาแย่งแฟนหล่อๆ ของเมแทน”

“อย่าห่วงไปเลย เพราะพี่รักเดียวใจเดียว ชีวิตนี้ตายแทนเมได้พี่ก็ยอม” คำพูดของอันเดรส ทำให้ใจของเมลดารู้สึกแปลกๆ มันหวิวๆ บอกไม่ถูก

“อย่าพูดเรื่องตายสิ ไม่ดีนะคะ”

“งั้นเปลี่ยนมาพูดเรื่องของเราดีกว่า เมอยากแต่งงานวันไหนครับ”

“บ้า…พูดเล่นแบบนี้ เดี๋ยวเถอะ” เมลดาเงื้อมือขึ้นสูง พร้อมจะฟาดลงบนตัวคนชอบอำ อันเดรสได้แต่ยิ้ม ก่อนจะรวบมือเธอไปกุมไว้ นั่นเพราะเขาไม่ได้พูดเล่น เขาคิดเรื่องแต่งงานกับเธอแล้วจริงๆ และได้วางแผนไว้หมดแล้ว

ทั้งคู่นั่งดื่มด่ำความโรแมนติกอยู่ริมน้ำเจ้าพระยา อีกสองสามชั่วโมงก็พากันกลับ ตลอดทางที่ขับรถกลับบ้านนั้น มือหนาของอันเดรสกุมมือบางของเมลดาไว้ตลอดเวลา บางครั้งก็ยกขึ้นไปจูบจนเธอเขินแล้วเขินอีก กระทั่งอันเดรสตัดใจไม่จูบ เพราะกลัวมือเล็กๆ ของเธอจะช้ำไปมากกว่านี้

เวลาของความสุขช่างผ่านไปเร็วนัก เพราะอีกไม่เกินห้านาที เขาก็จะถึงบ้านของเมลดาแล้ว แต่จังหวะที่กำลังขับรถอยู่นั้น อยู่ๆ กลับมีรถอีกคันวิ่งสวนเลนมาอย่างกะทันหัน

“พี่สิงห์ ระวังค่ะ”

เอี๊ยดดดด

โครมมมมม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel