บทย่อ
มีบางสิ่งบอกเอาไว้ ความบังเอิญเป็นเรื่องไร้สาระ ถูกผูกมัดด้วยเงื่อนไขประหลาดสามข้อ นั่นก็คือ... ความฝัน ความหวัง และความเป็นจริง! สิ่งที่มองด้วยตาไม่เห็น สัมผัสด้วยมือไม่ได้ แต่ทว่ารับรู้ได้ทางกระแสจิต ความบังเอิญเกิดขึ้นได้เสมอสำหรับทุกคน ทุกที่และทุกเวลา ความบังเอิญในครั้งนี้มันช่างน่ากลัว... ความบังเอิญอันตราย!
บทนำ
มีบางสิ่งบอกเอาไว้ ความบังเอิญเป็นเรื่องไร้สาระ
ถูกผูกมัดด้วยเงื่อนไขประหลาดสามข้อ นั่นก็คือ...
ความฝัน
ความหวัง
และความเป็นจริง!
สิ่งที่มองด้วยตาไม่เห็น สัมผัสด้วยมือไม่ได้ แต่ทว่ารับรู้ได้ทางกระแสจิต
ความบังเอิญเกิดขึ้นได้เสมอสำหรับทุกคน
ทุกที่และทุกเวลา
ความบังเอิญในครั้งนี้มันช่างน่ากลัว...
ความบังเอิญอันตราย!
เสียงฝีเท้าจำนวนหลายคู่ที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ บริเวณซอกมุมตึกในซอยเปลี่ยวที่ซึ่งไร้แสงไฟ สถานที่อันตรายที่ถูกขนานนามว่า ‘ทางลัดนรก’ แต่ทว่าน้อยคนนักจะทราบได้ถึงความหมายของชื่อที่ว่านั้น ใครบางคนที่โง่พอจะกล้าเดินพลัดหลงเข้ามาในบริเวณแห่งนี้ ยกตัวอย่างเช่นฉัน…ผู้หญิงที่ซวยที่สุดในโลก~
กลุ่มชายวัยรุ่นสองกลุ่มที่มีอาวุธครบมือกำลังยืนประจันหน้ากันอย่างดุเดือดเลือดขึ้นหน้า ใบหน้าของทุกคนในตอนนี้นั้นบ่งบอกถึงความพร้อมที่จะกระโจนใส่คู่ต่อสู้ตรงหน้าเต็มที่ และไม่ทันที่จะมีสิ่งใดได้เคลื่อนไหว (รวมถึงฉันด้วย)
ชายวัยรุ่นทั้งสองกลุ่มก็กระโจนเข้าหาพร้อมกับแลกหมัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยหารู้ไม่ว่ายังมีหญิงสาวร่างบางที่กำลังนั่งตัวสั่นน้ำตาคลอด้วยความกลัวอยู่ตรงนี้ ตรงพุ่มไม้ข้างๆ นี้อีกคน และถึงแม้ว่าสถานการณ์อาจจะชุลมุนไปสักนิด แต่ยังไงฉันก็ต้องขอแนะนำตัวซะก่อน ฉันมีชื่อเสียงเรียงนามอันไพเราะเสนาะหูว่าคิมเซรัน บ้านเกิดเมืองนอนฉันอยู่ที่ญี่ปุ่น แต่ฉันมาทำบ้าอะไรที่เกาหลีนี่น่ะเหรอ
เฮ้อ~ เล่าแล้วเรื่องมันจะเศร้า เรื่องมันมีอยู่ว่า…
[ภายในห้องพักครูโรงเรียนมัธยมเลื่องชื่อแห่งหนึ่ง]
“อาจารย์กำลังล้อหนูเล่นอยู่ใช่ไหมคะ” ร่างบางเจ้าของเรือนผมสีดำสลวยตะโกนลั่นพร้อมกับส่ายหัวไปมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง กับสิ่งที่เพิ่งจะได้ยินจากปากของคนตรงหน้า
“เธอได้ยินไม่ผิดหรอกจ้ะนักเรียนคิมเซรัน เมื่อคืนที่ผ่านมานี้มีผู้บุกรุกห้องเก็บข้อมูลลับของโรงเรียน ทางตำรวจตั้งข้อสงสัยว่าคนร้ายอาจจะเป็นนักโปรแกรมเมอร์หรือเว็บมาสเตอร์ทำนองนั้น เพราะข้อมูลที่สำคัญถูกลบออกไปจนเกลี้ยง ไม่เหลือร่องรอยอะไรให้ทางเราตามสืบได้เลย”
“หนูไม่ได้วิ่งขึ้นมาด้วยความเร็วสูงเพื่อมาฟังอาจารย์บอกถึงประวัติคร่าวๆ แต่เล่ายาวของคนร้ายนะคะ ที่หนูสงสัยก็คือว่า...หนูลงชื่อไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศไทย แต่ไหงรายชื่อหนูถึงไปโผล่อยู่ที่ประเทศเกาหลีได้ล่ะคะอาจารย์” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ช้ำชอกและเสียใจแบบสุดๆ
“นั่นเพราะว่านักเรียนที่มีสิทธิ์ไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศไทยจะต้องพูดได้ทั้งสิ้นสามภาษา ทำอาหารอร่อย ยิ้มหวาน มีความอดทนสูงจ้ะ”
“แล้วหนูไม่มีคุณสมบัติข้อไหนละคะอาจารย์” ฉันรีบชิงถามขึ้นอีกครั้งก่อนที่อาจารย์เรมิยะจะได้ทันพูดจบ
“ผลสำรวจออกมาเป็นทางการแล้วจ้ะว่า เธอไม่มีคุณสมบัติอย่างว่าเลยสักข้อเดียว” เถียงไม่ออกเพราะว่ามันคือความจริง ให้ตายสิ! การที่ฉันพูดไม่ได้สามภาษามันทำให้ต่างดาวบุกโลกรึไง แล้วการที่ฉันกินอาหารเก่งมากกว่าทำ มันจะทำให้น้ำท่วมโลกเพิ่มขึ้นอีกรึไงไม่มีใครเก่งมาแต่เกิดหรอกนะจะบอกให้
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ แล้วทำไมรายชื่อของหนูถึงได้ไปอยู่ในบัญชีดำนั่นล่ะคะอาจารย์” เมื่อยังไม่หมดข้อสงสัย ฉันจึงเอ่ยปากถามไปอีกรอบด้วยแววตาที่มีประกายแวววับ มีความหวังว่าฉันจะได้เหตุผลที่ดีพอ
“ต่อจากคำตอบเดิมนั่นแหละจ้ะ เพราะทางโรงเรียนเล็งเห็นว่าเธอไม่มีคุณสมบัติที่จะไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศไทยก็จริง แต่ถ้าเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศเกาหลีแล้วล่ะก็ เธอเป็นคนเดียวที่เหมาะสมที่สุด”
คำตอบของอาจารย์ก็พอจะฟังขึ้นอยู่บ้างล่ะนะ แต่มันดันไปสะดุดไอ้ตรงคำว่า ‘หนึ่งเดียว’ นี่แหละ หนึ่งเดียว ก็หมายถึงฉันคนเดียวน่ะสินะ!
“แล้วโรงเรียนที่หนูจะต้องไปเรียนแลกเปลี่ยนมันชื่อสถาบันอะไรเหรอคะ”
“เซ็นชื่อยอมรับก่อนสิจ๊ะ แล้วครูจะเฉลยให้เธอฟัง” ทำไมต้องมีลับลมคมในให้เรื่องมันยุ่งยากเข้าไปใหญ่ด้วยเนี่ย แต่ถึงจะรำคาญแค่ไหนฉันก็ต้องจำใจเอื้อมมือไปหยิบกระดาษที่ถูกวางไว้ให้ตรงหน้ามาเซ็นอย่างเสียไม่ได้ ทันทีที่เซ็นเสร็จปุ๊บ อาจารย์เรมิยะก็รีบคว้ามันไปจากมือฉันอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยัดใส่ลิ้นชักพร้อมกับล็อกกุญแจอย่างแน่นหนาราวกับว่ากลัวจะมีใครบางคนมาขโมยฉีกมันทิ้งยังไงยังงั้น หวังว่าคนที่ว่าคงจะไม่ใช่ฉันหรอกนะ
“อย่าโกรธครูเลยนะเซรันจัง กฎข้อบังคับการศึกษาแลกเปลี่ยนมันกำหนดมาอย่างนี้ นักเรียนของโรงเรียนมัธยมกังวานจะต้องส่งตัวนักเรียนไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศไทยและเกาหลี ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศที่มีมาแต่นมนาน เธอเองก็น่าจะภาคภูมิใจในการไปเรียนแลกเปลี่ยนครั้งนี้นะ”
“แล้วมันยังไงล่ะคะ อาจารย์ช่วยหยุดพูดอะไรที่หนูฟังแล้วงงทีเถอะค่ะ ชี้ความกระจ่างให้กับหนูที”
“เอางั้นเหรอจ๊ะ”
“.....”
“ก็ได้ๆ ทำใจดีๆ ไว้ล่ะ เพราะสิ่งที่ครูกำลังจะพูดต่อไปนี้มันอาจจะทำให้เธอช็อกตาตั้งได้เลยทีเดียว ครูมีความประสงค์ที่จะต้องแจ้งให้เธอทราบว่า โรงเรียนที่เธอจะต้องไปเรียนแลกเปลี่ยนเป็นระยะเวลาสามเดือนนั้น...”
“คือโรงเรียนมัธยมฮันนัมวานจ้ะ!”
“ฮะ...ฮันนัมวาน!!”

