Chapter 4 : หนทางเดียว (2)
'อะ...อ้าว?'
ผ้าในมือของเขาถูกเจียงซินแย่งมาถือไว้ ด้วยใบหน้าที่มองมาอย่างอ่อนล้า
"มันไม่ใช่เรื่องตลกนะ!"
'...'
"ถ้าพลังวิญญาณคุณหมดไป ก็จะกลับคืนร่างไม่ได้แล้วก็..."
'ผมรู้'
ร่างโปร่งแสงลอยออกมาช้าๆ จนตอนนี้อยู่สูงและไกลเกินกว่าที่เธอจะเอื้อมถึงได้
"อย่าใช้พลังพร่ำเพรื่ออีก ถ้าไม่อยากกลายเป็นผีไปจริงๆ"
'ผมขอโทษ'
ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด แต่อารมณ์ที่เดือดพล่านของเธอก็ทำให้ไห่ถังอยากยุติเรื่องในตอนนี้ลง จึงยอมพูดขอโทษออกมากับความดื้อดึงของตน
'ผมแค่อยากช่วย...'
.
.
'ไม่อยากให้คุณเหนื่อยเท่านั้น'
ความรู้สึกผิดตีแสกหน้าของเจียงซินอย่างจัง และตอนนี้ใบหน้าทะเล้นของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อยลงถนัดตา
'ผมอยากอยู่กับคุณ'
ในที่สุดเขาก็หลุดปากคำนั้นออกมาจนได้ คำพูดที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังตกใจ และคนที่ตกใจยิ่งกว่าก็คือเจียงซิน เธอเอาแต่ส่ายหน้าด้วยใบหน้าตื่นตระหนก
"เราอยู่ด้วยกันไม่ได้!"
'เจียงซิน'
"คุณเป็นวิญญาณจะมาอยู่กับฉันได้ยังไง ที่นี่ไม่ใช่ที่พักอาศัยของภูติผีนะ!?"
'ผม...ไม่ได้หมายความแบบนั้น'
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะสายไปเสียแล้ว ที่จะเรียกขวัญของเธอให้กลับคืนมา
'ผมยังยืนยันคำเดิม ว่าจะไม่ไปที่ศาลเจ้านั่น'
"!?"
'และถ้าการมีอยู่ของผม มันทำให้คุณลำบากใจ...'
.
.
'ผมจะรีบหาร่าง และกลับไปที่นั่นโดยเร็วที่สุด'
ฟุบ!!
และร่างโปร่งแสงก็หายวับไปเหลือเพียงความว่างเปล่า และหญิงสาวที่กำลังยืนเคว้งคว้างอยู่ภายในบ้านเพียงลำพัง
'ไห่ถังฉันไม่ได้ใจร้ายนะ...'
.
.
'ทั้งหมดนั่นก็เพื่อคุณต่างหาก'
"คุณเป็นวิญญาณจะมาอยู่กับฉันได้ยังไง..."
.
.
"ที่นี่ไม่ใช่ที่พักอาศัยของภูตผีนะ!?"
คำพูดของเจียงซินยังคงดังก้องอยู่ในหัวของวิญญาณหนุ่ม ในสายตาของเธอเขาคงเป็นผีที่สร้างแต่ความปวดหัวไปวันๆ และความน้อยเนื้อต่ำใจก็ทำให้เขายอมกลืนน้ำลายตัวเอง จนต้องหลบออกมาให้พ้นจากสายตาของเธอ ทั้งที่ตั้งใจว่าจะอยู่ข้างๆ ด้วยกันในคืนนี้แท้ๆ
ความมืดก็เริ่มโรยตัวลงมา ขณะที่เขายังคงเตร็ดเตร่ไปตามสะพานข้ามแม่น้ำที่ไม่คุ้นเคย ในตอนนี้รถยนต์หลายคันกำลังแล่นไปมาคับคั่ง และไฟจากตึกต่างๆ ก็เริ่มสว่างไสว
'เราออกมานานแค่ไหนแล้วนะ...'
ดวงตาหม่นเศร้าแหงนมองดูดวงจันทร์ที่ลอยขึ้นสูง ไม่ว่าจะรู้สึกน้อยใจขนาดไหน แต่การปล่อยให้เจียงซินเข้าไปในห้วงมิติของนรกเพียงลำพัง เขาก็ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้เช่นกัน
ไห่ถังที่กำลังลอยอยู่กลางสะพานข้ามแม่น้ำ ตัดสินใจหันหลังกลับไปทางเดิมที่จากมา และผ่านทะลุร่างของมนุษย์ชายหญิงที่เดินจูงมือสวนมาหลายคู่ จนกระทั่งกำลังจะผ่านร่างของหญิงสาวในชุดนักเรียน ที่กำลังนั่งห้อยขาอยู่บนราวสะพานอย่างหมิ่นเหม่
แม้ว่าแสงจะมืดสลัวขนาดไหน แต่ไห่ถังก็เห็นความสิ้นหวังบนใบหน้าของเธออย่างชัดเจน และเซ้นบางอย่างก็กำลังสะกิดบอกเขาว่า ...เธอกำลังจะกระโดด
ฟิ้วว~
.
.
ตู้มมม!!!
ดวงตาของไห่ถังเบิกกว้างขณะที่ชะโงกไปนอกราวสะพาน ความตื่นตระหนกและเสียใจโหมกระหน่ำใส่ร่างของเขาอย่างหนัก ขณะที่กำลังพยายามจะลอยลงไปเพื่อค้นหาร่างที่อยู่ใต้น้ำ แต่เมื่อมาถึงผิวน้ำเข้ากลับไม่สามารถดำลงไปได้ เมื่อผืนน้ำไหวกระเพื่มเป็นเพียงมิติแบนๆ ที่ทะลุผ่านไปมา และเป็นเพียงมวลน้ำสีดำสนิทไร้แสงสว่างใดที่จะส่องลงมาถึงได้
'บ้าเอ๊ย!!!'
ไห่ถังตีอกชกหัวตัวเองอย่างรุนแรงเพื่อระบายบามโกรธและเสียใจ ขณะที่ร่างของเขาค่อยๆ ลอยกลับขึ้นมาบนสะพานอีกครั้ง พร้อมทั้งแหกปากตะโกนด้วยความคับแค้นใจที่ไม่สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้
ไม่สามารถช่วยหญิงสาวชาวมนุษย์...
ผู้จบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า ต่อหน้าต่อตาของเขาได้เลย
"ไห่ถัง..."
.
.
"พาฉันไปอยู่ในโลกของคุณที"
จู่ๆ ใบหน้าของเจียงซินที่ไร้ชีวิตชีวาในความฝันวันนั้นก็ผุดขึ้นมาบนหัว ส่งผลให้ความกลัวที่แล่นเข้ามาในหัวใจอันเย็นชืดของเขาทวีความรุนแรงมากขึ้น
'เจียงซิน... ไม่นะ'
วิญญาณหนุ่มรีบผละออกมาจากราวสะพาน และมุ่งหน้ากลับไปยังทางเก่าที่เพิ่งจากมาอีกครั้ง โดยหวังใจว่าสิ่งที่เขากลัวที่สุดมันจะไม่เกิดขึ้นในคืนนี้
'อ๊ะ!!!?'
จู่ๆ ร่างของเขาก็หนักอึ้งทำให้ไม่สามารถก้าวต่อไปได้ ไม่ว่าจะออกแรงมากขนาดไหนก็ตาม
'พี่ชายอยากช่วยฉันเหรอ?'
เสียงเล็กที่ดังแว่วมาเอ่ยถามทำให้ไห่ถังรีบหันไปมอง จนในที่สุดก็ล่วงรู้ถึงสาเหตุของแรงฉุดรั้งนี้ ร่างของนักเรียนสาวที่ซีดเซียวเปียกโชกไปด้วยน้ำและเปื่อยย่นจนดูน่ากลัว กำลังกอดรั้งขาของเขาไว้และส่งยิ้มกว้าง จนริมฝีปากที่เปื่อยยุ่ยฉีกขาดจนเกือบถึงใบหู
'!!?'
'ช่วยพาฉัน ไปหาร่างของพี่หน่อยสิ'
ความสยดสยองและความหวาดกลัว ทำให้วิญญาณหนุ่มเผลอใช้พลังเพื่อสลัดผีตนนั้นให้หลุด แต่เพราะความอาฆาตที่กัดกินหัวใจจนยากจะปล่อยวางจากทางโลก เธอจึงมีพลังกล้าแข็งกว่าไห่ถังเป็นอย่างมาก ทำให้เขาไล่เด็กคนนี้ไปไม่สำเร็จ
ส่งผลให้ร่างโปร่งแสงของเขายังคงลอยละล่องไปไม่รู้เหนือรู้ใต้ โดยมีผีตนนี้เกาะติดไม่ปล่อยและสร้างความเจ็บปวดด้วยคมเล็บและฟัน ที่กำลังกัดแทะร่างกายพร้อมดูดกลืนพลังของอีกฝ่าย ทำให้ไห่ถังเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
วูม!!!!!
เสียงบางอย่างที่ดังก้องอยู่รอบกายเมื่อเขาวิ่งเข้ามาในซอยเล็กๆ แห่งหนึ่ง และยังคงวิ่งต่อไปเพื่อสลัดผีร้ายให้หลุด แม้ว่าตลอดทางจะรู้สึกเหมือนกำลังวิ่งฝ่าใยแมงมุมนับร้อยนับพันเส้น ที่ร้อนผ่าวราวกับเส้นด้ายที่ถูกจุดไฟแต่เพียงอึดใจเดียวความแสบร้อนก็หายไป และยังน้อยกว่าความเจ็บจากฟันที่ยังกัดอยู่ตรงน่องของเขา
'กรี๊ดดดดดดดด!!!!!!'
'เหวอ!!?'
ร่างของไห่ถังล้มคะมำพร้อมกับไถลไปบนพื้นอย่างแรง แต่ก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิดและความเจ็บที่น่องก็เลือนหายไปเช่นกัน...
'เอามันออกไปเดี๋ยวนี้!!!'
เสียงแหลมหวีดร้องและตะเกียกตะกายไปบนพื้นด้วยความทรมาน เมื่อร่างของเธอถูกพันไปด้วยใยแมงมุมร้อนๆ ทั้งตัว
สิ่งที่เห็นทำให้ไห่ถังตกใจมากจนต้องรีบก้มลงสำรวจตัวเอง และพบว่าตามตัวของเขาก็มีหยากไย่พันอยู่เช่นกัน แต่ไม่มีเปลวไฟร้อนๆ เหมือนกับผีตนนั้น
"เครื่องราง ทวารประตู และอาณาเขตของสุานที่บางแห่ง จะไม่มีผลต่อวิญญาณคนเป็น"
เสียงของหลวงจีนดังก้องในหัวขณะที่เขากำลังมองดูอาคมขลัง กำลังเผาไหม้วิญญาณร้ายช้าๆ จนร่างนั้นเลือนหายไป เหลือไว้เพียงความเงียบสงัดที่น่าวังเวง และเสียงการจราจรดังมาจากที่ไกลๆ เท่านั้น
ซึ่งเรื่องมหัศจรรย์พันลึกที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้เขาคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้...
'ที่นี่เป็นเขตของเจ้าที่องค์ไหนกัน!?'
คำถามนั้นผุดขึ้นมาในหัวก่อนที่เขาจะรีบดึงหยากไย่ออกจากตัว และคุกเข่าลงบนพื้นเพื่อก้มลงคำนับแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ก่อนจะเงยหน้ามองหาบางสิ่งที่ช่วยชีวิตเขาไว้
...แต่ก็ไม่พบ
'ผมจะไม่ลืมบุญคุณของท่านเลย'
วิญญาณหนุ่มเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับไปยังทางที่เพิ่งจากมา และได้แต่ภาวนาว่าตนจะกลับไปทันก่อนที่เจียงซินจะเริ่มทำพิธี แต่เมื่อฝีเท้าพ้นตรอกนั้นแผ่นหลังที่ยังคงเจ็บร้าวก็ชาวาบขึ้นมา ขณะที่ทอดสายตาไปยังถนนเปลี่ยวร้างเบื้องหน้า
'แล้วตอนนี้...'
.
.
'เราอยู่ที่ไหนเนี่ย?'
