บท
ตั้งค่า

1.2

การเดินทางหลายพันลี้ เริ่มจากการก้าวเท้าก้าวแรก 2

นางคือคุณหนูสี่ของจวนตระกูลจ้าว...จ้าวเสวี่ยเฟิง

แต่ไหนแต่ไรมาตระกูลจ้าวไร้ทายาทที่เป็นสตรี จ้าวเสวี่ยเฟิงนับเป็นสตรีคนแรกที่ถือกำเนิดในตระกูลแม่ทัพใหญ่แห่งนี้ คนทั้งจวนจึงรักใคร่เอ็นดูนางยิ่งนัก นอกจากนั้นแล้ว คนทั้งไคเฟิง[ไคเฟิงเป็นเมืองในมณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน อยู่ริมฝั่งด้านใต้ของแม่น้ำฮวงโห (หรือแม่น้ำเหลือง) เป็นหนึ่งในเมืองหลวงเก่าของจีน] ก็ย่อมอยากเห็นว่าบุตรีเพียงคนเดียวของแม่ทัพจ้าวนั้นมีหน้าตาเช่นไร

จ้าวจิ่นกวางซึ่งมีรูปร่างสูงโปร่งอยู่ในชุดสีน้ำตาลเข้ม ตรงชายชุดปักลายเมฆเหิน ชายเสื้อสะบัดพลิ้วตามแรงลม ในมือถือพัดประจำกายโบกไปมาดูสง่างาม น่าเกรงขาม และเป็นผู้ใหญ่เกินวัย แม้แต่อาการง่วงเหงาหาวนอนเป็นปกติก็ไม่ได้แสดงออกให้ใครดูแคลน

กระแสลมอ่อนพัดโชยทำให้เส้นผมปลิวไหวเล็กน้อย ขับใบหน้าหล่อเหลาราวหยกสลักและคิ้วกระบี่พาดเฉียงเหนือนัยน์ตาคมให้ดูโดดเด่น ทั้งยังรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักลึก แม้ยังเป็นหนุ่มน้อย ทว่าทุกท่วงท่ากลับเปี่ยมไปด้วยความโดดเด่น สาวน้อยสาวใหญ่ต่างชม้ายชายตามองเป็นระยะ

“ดวงชะตาดอกท้อน่าจะเป็นพี่สามมากว่าพี่รองด้วยซ้ำ” เสวี่ยเฟิงอดค่อนขอดพี่สามของนางไม่ได้

ตลอดการเดินทางสตรีมากหน้าหลายตาพยายามทอดสะพานให้พี่สามของนางเป็นระยะ ส่วนนางที่ต้องปลอมตัวออกเดินทาง จึงทำได้เพียงช่วยไล่สตรีเหล่านั้นให้ออกห่างจากเขา ยังไม่นับเมื่อตอนมาถึงหน้าจวนที่เรียกสายตาจากผู้คนได้ชะงัด

จ้าวจิ่นกวางส่ายหน้าช้าๆ กระซิบข้างใบหูเล็กๆ ของน้องสาวว่า “เจ้าต้องทำใจที่มีพี่ชายหล่อเหลาถึงเพียงนี้ ส่วนตัวเจ้าน่ะ อย่าได้เผลอถูกผู้ใดฉุดกระชากไปล่ะ”

ข้อเสียของบุรุษตระกูลจ้าวคือ หวงจ้าวเสวี่ยเฟิงที่สุด แม้ว่านางจะเป็นเหมือนเด็กสาวที่เจ้าเล่ห์ซุกซน ทว่าดวงหน้าที่มีเค้าโครงความงดงามกลับดึงดูดผู้คนยิ่งนัก คนตาไม่บอดย่อมรู้ว่าเมื่อนางเติบโตจะงดงามล่มเมืองเพียงใด

จ้าวเสวี่ยเฟิงสูงโปร่งกว่าสตรีทั่วไป นางสวมชุดสีเขียวอ่อนปักลายดอกบัว เพราะอายุยังน้อยส่วนที่ควรมีจึงยังไม่เด่นชัด ทว่าเครื่องหน้ากลับมีเค้าความงดงามชัดเจน คิ้วโก่งดังคันศรเหนือดวงตาหงส์คู่โต จมูกโด่งรั้นรับกับริมฝีปากรูปกระจับ ผมยาวสลวยดำขลับมัดด้วยเชือกสีขาวเพื่อไม่ให้ระใบหน้า แม้จะเรียบง่าย ทว่ากลับดูโดดเด่นนักเมื่อเทียบกับเด็กสาวชาวเมืองทั่วไป

ด้วยความที่อายุห่างกันไม่ถึงปี เมื่อมองผ่านๆ ใบหน้าของสองพี่น้องจึงคล้ายกับฝาแฝด

“ลูกหลานตระกูลจ้าวช่างโดดเด่นเหนือผู้คนจริงๆ” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นจากบรรดาผู้คนที่มุงดู

จะว่าไปแล้วเหตุใดนางกับพี่สามจึงต้องยืนรออยู่หน้าจวนให้ผู้อื่นจ้องมองราวกับตัวประหลาดเช่นนี้

“บุตรชายหล่อเหลาสง่างาม ส่วนบุตรสาวก็งดงามอรชร ช่างมีแต่กลิ่นอายสูงศักดิ์ นายท่านจ้าวและท่านแม่ทัพจ้าวช่างมีวาสนายิ่งนัก”

“นับว่าหนุ่มสาวที่ดีมักนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ตระกูล”

ชาวบ้านหลายคนเห็นด้วย ต่างก็เออออตามกันไป จนกระทั่งสองพี่น้องเดินเข้าจวนไปถึงสลายตัว หลังจากนั้นไม่นานข่าวเรื่องคุณชายผู้หล่อเหลาและคุณหนูผู้งดงามก็ดังไปทั่วทั้งเมือง

‘เอาเถิด ถือเป็นการเปิดตัวที่ไม่เลวนัก’ จ้าวเสวี่ยเฟิงได้แต่ทอดถอนใจ

ในจวนตระกูลจ้าว

ฮูหยินผู้เฒ่ากอดรับขวัญหลานสาวกับหลานชายด้วยความดีใจ นายท่านจ้าวจ้างพ่อครัวจากร้านชื่อดังในเมืองเพื่อมาทำอาหารต้อนรับหลานรักทั้งสอง บรรยากาศรอบโต๊ะอาหารจึงเต็มไปด้วยความครึกครื้นและความอบอุ่นของการหวนคืนสู่ ‘บ้าน’

แม้ว่านางกับพี่ชายจะจากบ้านไปตั้งแต่ยังเล็ก จนแทบจะลืมเลือนไปแล้วว่าในครอบครัวมีผู้ใดบ้าง ทว่าท่านแม่ของนางก็ขยันส่งจดหมายหากันทุกเดือน ความสัมพันธ์ในครอบครัวจึงไม่เลวนัก

“ท่านพ่อกับพี่ใหญ่และพี่รองล่ะเจ้าคะท่านแม่” จ้าวเสวี่ยเฟิงถามมารดาพลางใช้ตะเกียบคีบเนื้อตุ๋นให้ท่านย่า ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นการปรนนิบัติของหลานสาวก็ยิ้มตาหยี คิดในใจว่าหลานของนางโตเป็นสาวน้อยที่กตัญญูยิ่ง

“พ่อกับพี่ใหญ่ของเจ้าตอนนี้กำลังรับศึกอยู่ที่หังโจว[ หังโจวตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน บนที่ราบน้ำท่วมถึง ริมฝั่งแม่น้ำแยงซี พื้นที่ส่วนใหญ่ล้อมรอบด้วยเทือกเขา มีทะเลสาบซีหูเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ] เห็นว่าพวกโจรสลัดชุกชุมนัก คราวนี้อาจจะไปนานถึงสองปี” เยี่ยชิงหรูบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล นางเองก็อดเป็นห่วงสามีและบุตรชายคนโตไม่ได้

จ้าวจิ่นกวางเห็นมารดาไม่สบายใจก็รู้สึกไม่ดี จึงปลอบใจนางด้วยน้ำเสียงสดใส “ท่านแม่ ตั้งแต่ท่านอาจารย์รับตัวพวกข้าขึ้นเขา พี่ใหญ่เชี่ยวชาญกลศึกที่สุด ข้าว่าท่านพ่อกับพี่ใหญ่ไม่มีทางพลาดท่าง่ายๆ หรอกขอรับ”

นายท่านจ้าวเห็นหลานชายพูดจามีหลักการก็น้ำตารื้น ภาคภูมิใจที่จ้าวจิ่นกวางเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จนบัดนี้ก็ถึงวัยที่จะทำพิธีสวมหมวก[ พิธีสวมหมวกเป็นพิธีเพื่อแสดงว่าได้บรรลุนิติภาวะ โตเป็นผู้ใหญ่ มีสิทธิและอำนาจในการปกครองคนขั้นต้นแล้ว แต่ก็อย่าหลงลืมตน ยังต้องปรับปรุงพัฒนาตนให้สมกับความเป็นผู้ใหญ่ต่อไป] ตัดสินใจไม่ผิดที่ยอมให้จิวซื่อรับตัวเป็นศิษย์ ทว่าใจของท่านผู้เฒ่าก็กระหวัดนึกถึงหลานชายคนรองที่กำลังศึกษาอยู่ในเมืองหลวงลั่วหยาง อดเล่าเรื่องราวของจ้าวจิ่นติ้งไม่ได้

“พี่รองเจ้าวรยุทธ์เลิศล้ำ งานแสดงฝีมือปีก่อนก็สร้างชื่อให้ตระกูลจ้าว พอเข้าสำนักศึกษาก็มีโอกาสแสดงฝีมือการประลองอีกครั้ง ปีนี้ก่อนหมดภาคการศึกษาก็สร้างชื่อจนจักรพรรดิพอพระทัย ในที่สุดก็ได้แต่งตั้งให้เป็นราชองครักษ์ที่อายุน้อยที่สุด อีกสักปีสองปีหากสอบจอหงวนได้ ก็คงจะได้รับการแต่งตั้งให้รับราชการเต็มตัว”

“แค็กๆๆ” จ้าวจิ่นกวางได้ยินเรื่องพี่รองสอบจอหงวนก็สำลักซุปไก่จนหน้าดำหน้าแดง

“กวางเอ๋อร์เป็นอะไรรึเปล่าลูก” ฮูหยินเยี่ยตกอกตกใจ รีบลูบหลังบุตรชายด้วยกลัวว่าอาหารจะติดคอจนเจ็บป่วย

จ้าวจิ่นกวางโบกมือปฏิเสธ พลางรับผ้าเช็ดหน้าจากท่านย่ามาเช็ดหน้าเช็ดตา ส่วนจ้าวเสวี่ยเฟิงเพียงแต่แอบขำเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้าเก็บอาการได้มิดชิดจนคนทั้งโต๊ะอาหารไม่ทันสังเกต

ใครจะไปคิดว่าคนอย่างพี่รองจะได้ดิบได้ดีถึงเพียงนั้น

ดวงจันทร์โผล่พ้นขอบฟ้า สายลมอบอุ่นของคิมหันตฤดูพัดโชย นานๆ จึงจะทราบการศึกที่หังโจว คนที่ยังอยู่จึงได้แต่สวดมนต์อ้อนวอนสวรรค์ให้คุ้มครองพวกเขา ค่ำคืนแห่งความอบอุ่นจึงผ่านพ้นไป พร้อมกับเสียงพูดคุยไต่ถามความเป็นอยู่ของแต่ละคน

ร่างสูงสง่าร่างหนึ่งยืนพิงกรอบหน้าต่าง มองดูแสงจันทร์เต็มดวงสะท้อนกับสระบัว เขาสวมชุดสีดำเดินดิ้นทอง ภายใต้แสงจันทร์ช่างดูระยิบระยับ ก่อเกิดเป็นภาพที่งดงามเกินบรรยาย นัยน์ตาสีดำคมกริบกลับไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับบรรยากาศแสนงดงามนี้ คิ้วกระบี่พาดเฉียงขมวดแน่น จมูกโด่งเป็นสันทำให้แม้นจะดูพร่าเลือนประหนึ่งภูตพรายใต้แสงจันทร์ ทว่ากลับส่งให้ใบหน้านั้นดูหล่อเหลาและลึกลับไปพร้อมกัน

ข้างหลังเขามีชายคนหนึ่งยืนอยู่ในความมืด

“อีกฝ่ายมีความเคลื่อนไหวแล้วขอรับ” เสียงของชายที่อยู่ในความมืดดังขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคารพ

ชายหนุ่มไม่ได้หันกลับไปมอง เพียงแค่พยักหน้าแล้วพูดด้วยเสียงทรงอำนาจว่า “อย่าได้ทำอะไรเกินกว่าเหตุ เลี่ยงได้จงเลี่ยงซะ ชีวิตคนนั้นสำคัญที่สุด”

“ขอรับ” พูดจบร่างนั้นก็หายไปราวกับภูตผี ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง มือเรียวยาวกระด้างหยิบของบางอย่างออกมาจากในอกเสื้อ เขาจ้องมองมันด้วยสายตาเลื่อนลอย เป็นหยกสลักสีขาวลวดลายมังกรที่ส่องประกายล้อกับแสงจันทร์ ตัวหยกส่องแสงเรืองๆ ตอบรับกับแหวนหยกที่นิ้วมือ ริมฝีปากหนาได้รูปยกขึ้น พลางพึมพำแผ่วๆ

“คงใกล้ถึงเวลาแล้ว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel