บทที่ 6 ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง
บทที่ 6
ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง
หลินอี้ฟางเห็นว่าชุดที่หญิงสาวสวมมาค่อนข้างเก่าอยู่
สักหน่อย นางจึงจัดการหาชุดใหม่มาให้ผลัดเปลี่ยน จากนั้นก็
พามายังจุดหมายที่หญิงสาวต้องการ
“ที่นี่ล่ะเจ้าค่ะ ร้านขายผ้าของคุณชายจ้านกับภรรยา”
หลินอี้ฟางพาจางหนิงฮวามาหยุดอยู่หน้าร้านขายผ้าขนาดใหญ่ที่มีทั้งผ้าผืนใหญ่และเสื้อผ้าที่ถูกตัดเย็บอย่างสวยงามวางขาย
“คนเยอะเช่นนี้ทุกวันเลยหรือ” จางหนิงฮวาเอ่ยถามหญิงสาวข้างกาย เมื่อเห็นว่าร้านค้าตรงหน้ามีผู้คนเดินเข้าออกพลุกพล่านเพียงใด
“เจ้าค่ะ คนเยอะเช่นนี้เป็นปกติเลย เพราะว่าที่นี่เป็นร้านเดียวในเมืองที่มีเสื้อผ้าแบบตัดเย็บเป็นชุดขายเจ้าค่ะ” หลินอี้ฟางเอ่ยบอกออกมาตามจริง
“ดี ยิ่งคนมาก ข่าวลือยิ่งไปเร็วแล้วไปไกล” จางหนิงฮวาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ เนื่องจากนางมีแผนการบางอย่างในใจ
“คุณหนูจะซื้อผ้าหรือเจ้าคะ” หลินอี้ฟางถามอีกครั้ง
เมื่อเห็นหญิงสาวที่มาด้วยกันกำลังจะเดินเข้าไปในร้านค้า
“บอกแล้วอย่างไรว่าไม่ต้องเรียกข้าว่าคุณหนู เรียกข้าว่าอาหนิงก็พอ” จางหนิงฮวาหันไปดุอีกคนที่เอ่ยคำเรียกขานนางอย่างยกย่องเสียทุกคำ ก่อนจะบอกถึงความต้องการของตนเอง
“ข้าไม่ได้อยากได้ผ้าหรอกนะ ข้าแค่จะพาท่านมาหาเรื่องสนุกทำน่ะ”
แววตาซุกซนกับน้ำเสียงร่าเริงของหญิงสาว ไม่ได้ทำให้หลินอี้ฟางรู้สึกดีหรือสนุกด้วยเลยสักนิด กลับกันนางดันรู้สึกว่าหายนะกำลังจะมาเยือนร้านขายผ้าของคุณชายจ้านเสียมากกว่า
“เอ่ออ... หากคิดจะทำการใหญ่ ข้าคิดว่าเรารอนายท่านกลับมาก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ หากท่านถูกคนทำร้ายหรือมีใครรังแก ใครจะช่วยได้เล่า” หลินอี้ฟางยังคงเอ่ยเตือนน้องสาวของผู้มีศักดิ์นายด้วยความเป็นห่วง
ระหว่างทางมาที่นี่ นางพอจะได้รู้เรื่องราวคร่าว ๆ จากหญิงสาวตรงหน้ามาบ้างแล้วว่า ภรรยาของคุณชายจ้านแท้จริงเป็นลูกติดของสตรีหม้ายที่แต่งเข้าจวนท่านหมอจางไปเมื่อหลายปีก่อน
ยามนั้นนางยังเป็นเพียงเด็กขอทานตัวเล็ก ๆ ข่าวเรื่องที่ท่านหมอแต่งสตรีไปเป็นแม่นมของลูกสาวก็ดังอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องข่าวสารบ้านเมืองนัก เพราะแค่ต้องใช้ชีวิตให้อยู่รอดในแต่ละวันก็ยากลำบากมากพอแล้ว จะเอาเวลาไปสนใจชีวิตผู้อื่นให้ปวดหัวอีกทำไม
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ข้าไม่ปล่อยให้ใครทำร้ายเราสองคนได้หรอก ท่านแค่คอยอยู่ข้าง ๆ และทำตามที่ข้าบอกก็พอ”
พอเอ่ยจบ จางหนิงฮวาก็บอกเล่าความต้องการของตนออกมาให้รับรู้ทันที
เมื่อตกลงกับหลินอี้ฟางเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็จูงมือกันเดินเข้าไปในร้านขายผ้าของสองสามีภรรยานั้นทันที
“อ้าวเถ้าแก่เนี้ยหลินวันนี้มาซื้อเสื้อผ้าหรือเจ้าคะ”
ทันทีที่เห็นหน้าหลินอี้ฟาง อี้ลี่อินก็รีบปรี่เข้ามาพูดจา
เสียงอ่อนเสียงหวานทันที และได้มองข้ามจางหนิงฮวาไปเสียสนิท
สาเหตุที่นางไม่สนใจจางหนิงฮวานั้นเป็นเพราะหญิงสาวใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดบังใบหน้าครึ่งล่างเอาไว้ รวมไปถึงเวลานี้นางกลับมามีใบหน้าที่งดงามเสียยิ่งกว่าเก่า ทำให้อี้ลี่อินจำพี่สาวผู้นี้ไม่ได้แล้ว
“อืม วันนี้ข้าพาน้องสาวของสามีมาด้วย นางจะมาพักที่โรงน้ำชาหลายวัน เจ้าหาเสื้อผ้าออกมาให้นางดูหน่อย หากถูกใจ น้องสามีของข้าจ่ายให้เจ้าได้ไม่อั้น”
หลินอี้ฟางที่ได้นัดแนะกับจางหนิงฮวามาเป็นอย่างดีเริ่มทำตามแผนการที่ได้คุยกันไว้ก่อนเข้ามาที่นี่
“จริงหรือเจ้าคะ ขอบใจเถ้าแก่เนี้ยหลินที่เอ็นดูลี่เอ๋อร์
ช่วยหาลูกค้ามาซื้อของที่ร้านของข้านะเจ้าคะ”
อี้ลี่อินรีบประจบประแจงอีกฝ่ายทันที ทุกคนทั่วทั้งเมืองหลวง ต่างเข้าใจว่าโรงน้ำชาที่หลินอี้ฟางดูแลอยู่นั้น เป็นของ
ขุนนางผู้มีตำแหน่งใหญ่โตท่านหนึ่ง และนางก็เป็นภรรยาของ
ขุนนางท่านนั้น
แม้จะไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน หรือเคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของเจ้าของโรงน้ำชาก็ตาม แต่ทุกครั้งที่มีข่าวว่าขุนนางท่านนั้นกลับมา เขามักจะพาภรรยาสาวเข้าไปกกกอดเสียหลายวัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนในเมืองนี้เกรงใจหลินอี้ฟางอย่างมาก
“อาหนิง เจ้าอยากได้สิ่งใดบอกนางได้เลยนะ ข้าจะรอเจ้าอยู่แถวนี้”
หลินอี้ฟางโยนส่วนที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของจางหนิงฮวา ส่วนนางจะไปรอที่หน้าร้าน
“ขอบคุณพี่สะใภ้มากเจ้าค่ะ หากข้าเลือกซื้อของพวกนี้เสร็จแล้ว เราไปเดินดูเครื่องประดับกันต่อนะเจ้าคะ ท่านพี่ให้เงินมาเสียเต็มถุง หากไม่รีบใช้เกรงว่าจะไม่มีที่ให้เก็บเอาน่ะ”
จางหนิงฮวาใช้คำเรียกขานหลินอี้ฟางอย่างโจ่งแจ้ง อีกทั้งคิดว่าสายตาตัวเองไม่เคยพลาด ส่วนที่กล่าวออกมาก็มีความจริงอยู่บางส่วน แต่วาจาโอ้อวดใหญ่โตเรื่องเงินในถุงนั้นหาได้มีความจริงแม้แต่น้อย
นั่นเพราะพี่ชายตัวดีปิดบังเรื่องนี้กับนางตั้งแต่ยังไม่ออกจากเมืองหลวงเสียด้วยซ้ำ นางจึงเข้าใจไปว่าตนและบิดาสิ้นไร้ไม้ตอกเสียแล้ว
“ตามใจเจ้าก็แล้วกัน” เมื่อลงเรือลำเดียวกับน้องสาวของนายท่านแล้วก็ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย
เนื่องจากไม่เคยมีสหายมาก่อน จึงรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้ลองทำอะไรเช่นนี้ เดิมทีหลินอี้ฟางเป็นแค่เด็กน้อยที่ไม่มีใครเหลียวแล นางอาศัยอยู่กับย่าที่แก่ชราจนไม่สามารถทำงานได้แล้ว จึงเลี้ยงหลานสาวด้วยความอดอยาก
ต่อมาไม่นานหญิงชราก็ได้จากโลกนี้ไป ทิ้งให้หลานสาวในวัยห้าขวบต้องไปอาศัยขอทานอยู่ที่ท้ายตลาดเพื่อประทังชีวิต เด็กน้อยเร่ร่อนอยู่สามสี่ปีก็ได้คุณชายสกุลจางรับไปฝากให้เถ้าแก่เนี้ยในโรงน้ำชาเลี้ยงดู
หลายปีต่อมาเถ้าแก่เนี้ยคนเก่าเสียไป คุณชายจางจึงได้ซื้อกิจการโรงน้ำชามาเป็นของตน แล้วยกให้หลินอี้ฟางเป็นคนดูแลต่อ ซึ่งกว่าเรื่องราวจะเข้าที่เข้าทาง นางก็เจ็บปวดมาไม่น้อยและมันไม่ง่ายเลย เพราะคุณชายจางหนิงหลงไม่ยอมให้สถานะใดกับนาง
แต่ก็ทำราวกับว่านางเป็นภรรยาคนหนึ่ง ทั้งให้เงินทองใช้ ทั้งให้กิจการไว้ดูแล แต่ก็ไม่เคยพาเข้าจวน จนเกิดเรื่องกับสกุลจาง ทำให้เข้าใจได้ว่าจางหนิงหลงคิดอย่างไร ส่วนที่เขาไม่บอกใครถึงเรื่องนี้ นั่นก็เพราะความปลอดภัยของนางนั่นเอง
“ทั้งร้านของเจ้ามีผ้าอยู่เท่านี้เองหรือ”
เสียงของจางหนิงฮวาเรียกให้หลินอี้ฟางที่กำลังเหม่ออยู่หน้าร้านต้องหันไปมอง และแม้แต่อี้ลี่อินก็ชะงักไปไม่น้อย เพราะน้ำเสียงช่างคล้ายคลึงกับพี่สาวที่นางชิงชังยิ่งนัก
ทว่าในท้ายที่สุดหญิงสาวก็บอกตนเองว่า สตรีนางนี้แต่งกายด้วยอาภรณ์เนื้อดี แม้จะเรียบง่ายอยู่บ้าง แต่ก็ดูมีราคา และน้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็ดูสดใสกว่าจางหนิงฮวา คงไม่มีทางเป็นคนที่นางเกลียดชังอย่างแน่นอน
“เอ่อ...คุณหนูไม่ถูกใจของเหล่านี้เลยหรือเจ้าคะ” อี้ลี่อินเอ่ยถามเวลานี้สตรีตรงหน้ากำลังเลื่อนมือไปยังผ้ากองใหญ่ที่นางเอาออกมาให้เลือก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ถูกใจสตรีผู้ร่ำรวยนางนี้เลยแม้แต่น้อย
“อย่างนั้นท่านรอข้าสักครู่นะเจ้าคะ ข้าจะให้สามีนำ
ผ้าไหมเนื้อดีที่ได้จากแดนเหนือมาให้ท่านได้ชม”
แม้จะรู้สึกไม่พอใจแค่ไหน แต่อี้ลี่อินก็ทำได้เพียงข่มอารมณ์ไว้ แล้วพยายามเอาใจสตรีตรงหน้าต่อไป
นางเดินกลับเข้าไปทางหลังร้านครู่ใหญ่ก็กลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับจ้านตง ที่ยามนี้แบกผ้าไหมม้วนใหญ่ตามออกมาด้วย
เมื่อจางหนิงฮวาได้เห็นใบหน้าของชายที่เดินตามหลัง
อี้ลี่อินออกมาเต็มตา ก็พาลให้หัวใจของนางบีบรัดด้วยความเจ็บปวด เรื่องราวความรักและความแค้นที่นางมีต่อบุรุษตรงหน้าไหลเข้ามาในหัวของอีกครั้ง
บุรุษผู้นี้ช่างมีใบหน้าเหมือนกับคนรักเก่าจอมทรยศของนางไม่มีผิด ทำให้ตอนนี้ในใจของนางบังเกิดความว้าวุ่นจนยากจะรับงับอารมณ์ไว้ได้
ทั้งเรื่องในชาติภพก่อนที่ชายหนุ่มเคยนอกใจไปคบกับเพื่อนสนิท จนถึงขั้นคิดจะวางยาส่งนางให้กับชายอื่นย่ำยี มาจนถึงชาติภพนี้ที่ชายหนุ่มยังคงหลอกใช้ความรักของนาง เพื่อหวังจะหลอกให้มอบตำรายาสูตรลับของตระกูลจางให้อีก
ยิ่งนึกถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิด ความแค้นในใจของ
จางหนิงฮวาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมาอีกไม่น้อย
‘ยินดีที่ได้พบเจ้าอีกครั้ง ข้ามาตอบแทนความแค้นให้เจ้าแล้ว!!’
หญิงสาวคิดในใจอย่างเคียดแค้น
