บทที่ 1.3 เทอมแรกใจว้าวุ่น
เพื่อนต่างรับรู้แล้วว่าแอ้กับพราวนั้นกำลังจีบกันอยู่ แต่คู่นี้ไม่ได้ออกตัวแรงเหมือนคู่อื่นๆ เดินคุยกันยังไม่กล้าจับมือกันเลย ไปกินข้าวที่โรงอาหารก็นั่งห่างกันพอควร ได้แต่มองหน้ากันแล้วเขินอายแบบที่เขาเรียกว่าป๊อปปี้เลิฟ
“ทำไมไม่กินผัก มันมีประโยชน์รู้ไหม๊” พราวเขี่ยผักไว้ข้างจาน เมื่อโดนบ่นพราวก็ย่นจมูกเบ้ปากใส่
“ไม่ชอบกิน แลกกันไหม๊ล่ะ เอาไก่ทอดมาแลกกับผัก”
“ไม่เอา ของใครของมันสิ เด็กไม่กินผักร่างกายไม่แข็งแรงแถมจะอ้วนด้วย”
“อ้วน นี่ว่าเราอ้วนเหรอ” พราวเง้างอนลุกเดินออกจากโรงอาหาร แล้วตรงไปหาเพื่อนที่นั่งคุยกันอยู่ที่ใต้ต้นไม้
“หน้าย่นมาเชียว”
“คนไม่ใช่หมาจะหน้าย่น แล้วนี่คุยอะไรกันอยู่”
“อืม วันไหว้ครูปีนี้ยังหาคนถือพานไม่ได้เลย”
“แกก็ถือเองสิ หัวหน้าห้องถือเองได้...ไม่ต้องมองมาเลยนะ เราต้องเล่นดนตรี ซ้อมแค่ดนตรีก็เหนื่อยจะแย่แล้ว”
“บอกว่าแย่แต่หน้าเนี่ยบานเชียวนะ ไม่คิดเลยว่าพราวกับแอ้จะคบกัน เห็นเป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน” เมย์พูดขึ้น
“คะ คบอะไร ยังแค่คุยๆ กันอยู่ แอ้มันชอบกะล่อน เดี๋ยวนี้พูดจาหมาหยอกไก่ตลอด ออกแนวเจ้าชู้”
“ไม่หรอก ไม่เคยเห็นมันมองใครเลย มองแต่พราว...แต่พราวก็ไม่สนใจ” พราวนิ่งคิดตามที่เมย์พูด เพื่อนอีกหลายคนก็เห็นด้วย
“นั่นไง เดินมาแล้ว” พราวมองตามที่เพื่อนชี้บอกก็เห็นว่าแอ้เดินออกมาจากโรงอาหารพร้อมน้ำหวานหนึ่งแก้ว
“น้ำหวาน ดื่มซะจะได้หายงอน”
“แค่น้ำหวานเนี่ยนะทำให้หายงอน”
“อืม ดื่มสิ” เธอรับแก้วน้ำแล้วดูดจากหลอด ความหวานเย็นชื่นใจทำให้เธออารมณ์ดีจริงๆ
“หวานกันไม่พอต้องเอาน้ำหวานเติมอีก มดมันจะกัดฉันแล้วเนี่ย” เบียร์พูดแซว พราวยิ้มน้อยๆ
“ไปซ้อมดนตรีกัน” แอ้ พราว เบียร์ เดินขึ้นไปบนอาคารเรียน ส่วนเพื่อนอีกสามคนนั่งคุยกันที่เดิม มีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้เวลาเข้าเรียน
“เบียร์ ทำไมช่วงนี้วงเรามันดูแปลกๆ มันเหมือนมีอะไรกัน ไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเดิมกันเลย”
“คิดว่าเบียร์รู้สึกคนเดียว พราวก็รู้สึกเหรอ สงสัยอยู่เหมือนกันนะ” เป็นจริงอย่างที่ว่าเพราะภายในห้องซ้อมต่างคนก็นั่งประจำที่ของตัวเอง ผิดปกติมาก เพราะเดิมๆ จะวิ่งเล่น หรือไม่ก็จับเข่านั่งคุยกันเป็นกลุ่ม
“ใกล้วันงานแรกของเราแล้ว คนอื่นอาจจะเตรียมพร้อมก็ได้อย่าไปคิดมากเลยน่า” แอ้บอก แล้วเดินไปที่ประจำของตัวเอง เขานั่งอยู่คนละฝั่งกับพราวค่อนไปทางด้านหลัง ส่วนพราวนั่งคนแรกแถวสอง ต่อด้วยฝนและปัด
“เอาโน้ตเพลงใหม่ไปแจกกันนะ เราจะต่อเพลงใหม่สำหรับเดินเท้า” เดินเท้าคือเดินในขบวน เดินพาเหรดเป็นเพลงที่เป็นจังหวะเดียวกันเพื่อควบคุมระยะการเดิน
“ดูโน้ตแล้วจะเริ่มซ้อมเลย ให้เวลาดูห้านาที” เหล่าทโมนทั้งหลายฮือฮา เพราะล้วนแล้วแต่มือใหม่ไม่คล่องเรื่องอ่านโน้ต จะใช้เขียนกำกับเอาไว้
ครั้งแรกเล่นผิดเล่นถูกแต่มาสเซอร์ก็ดูภูมิใจในฝีมือของนักดนตรีมือใหม่ ปีนี้ใหม่เกือบครึ่งวง เลยต้องทุ่มเทให้การซ้อมกันยกใหญ่ หลังซ้อมเสร็จก็แยกย้ายกันไปเรียน พราวกับแอ้เดินไปพร้อมกัน
“ฝน ทำไมไม่ไปซ้อมล่ะ”
“ทำงานไม่เสร็จ เลยต้องมานั่งทำตอนพักเนี่ย” แอ้นั่งลงข้างหน้าของพราว เขาหันมาหยิบปากกาในมือพราว
“ของตัวเองล่ะ”
“อยากใช้แท่งนี้ ยืมหน่อยนะ” เสียงอ้อนเบาๆ ก่อนที่ครูจะเดินเข้ามา ยังมิวายหันมาขยิบตาให้อีก พราวก็หน้าแดงทันที
“หยอกกันน่ารักดีนะเนี่ย อิจฉา” ฝนพูดแซว
แอ้กับพราวคบกันได้เกือบเดือนแล้ว โลกทั้งใบเป็นสีชมพู เขาทำให้พราวยิ้มได้และสนใจฟลุคน้อยลง ช่วงวันหยุดทั้งสองไปนั่งที่ร้านเค้ก ร้านโปรดของพราว แอ้จัดการสั่งเค้กสองชิ้นแบบที่เธอชอบกับน้ำผลไม้ปั่น
“รู้ได้ยังไงว่าชอบเค้กช็อกหน้านิ่มแบบนี้”
“บอกแล้วว่าเป็นแฟนคลับพราวมาหลายปี”
“จริงเหรอ งั้นบอกหน่อยว่าพราวชอบหนังเรื่องไหนมากที่สุด” พราวลองเชิงคนที่อวดอ้างว่ารู้ใจเธอ
“ความจริงพราวไม่ชอบดูหนัง พราวชอบอ่านหนังสือ แต่ถ้าชอบก็น่าจะเป็นหนังสือที่มาทำเป็นหนัง มีภาคต่อเยอะๆ พระเอกเป็นพ่อมดใส่แว่น” พราวอ้าปากค้างเล็กน้อย
“รู้ได้ยังไงเนี่ย เก่งจริงนะ แต่พราวไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแอ้เลย”
“ไม่หรอกน่า อะไรที่พราวชอบเราก็ชอบ...ชอบทุกอย่างที่เป็นพราว” หายใจไม่ทั่วท้องอีกแล้ว เธอขยับตัวน้อยๆ ตักเค้กใส่ปาก สายตาของเขายังมองอยู่แถมยิ้มให้ด้วย
“กินสิ อยากกินไม่ใช่เหรอ”
“ป้อนสิ นะป้อนหน่อย” เขาอ้าปากยื่นมาใกล้ ทำให้คนสวยต้องตักเค้กใส่ปากให้คำใหญ่ “อืม ใหญ่ไป เต็มปากเคี้ยวไม่ได้” เขาบ่นหลังจากพยายามเคี้ยวขนม
“ก็อยากกินไม่ใช่เหรอ กินให้หมดด้วยนะชิ้นนั้นอะ” พราวจัดการเค้กพลางมองออกไปนอกกระจกเห็นชายหญิงคู่หนึ่งเดินผ่านไป เธอจำได้ว่าเป็นฟลุคกับรุ่นน้องคนหนึ่ง ประโยคสนทนาของฟลุคกับนุ่มวันก่อนย้อนกลับมาหาเธออีกครั้ง “ไหนว่าไม่มีอะไร เจ้าชู้”
“พราวว่าอะไรนะ ใครเจ้าชู้”
“อะ เอ่อ เจ้าชู้อะไร เราบอกว่าอยากดูหนังต่างหาก แต่ไม่กล้าพูดเลยบ่นเบาๆ”
“เอ้า แล้วก็ไม่บอก งั้นเดี๋ยวพาไปนะกินเค้กให้หมดก่อน”
ทั้งสองกินเค้กแสนอร่อยกันจนหมดก็ไปดูหนังที่โรงหนังใกล้ๆ ร้าน ความจริงพราวไม่ได้อยากจะมาดูหนัง แต่เมื่อมาแล้วก็ต้องดู เธอยังเห็นฟลุคกับรุ่นน้องควงกันมาดูหนังที่โรงเดียวกัน
“อยากดูเรื่องนี้จริงๆ เหรอ เค้าบอกว่าน่ากลัวนี่นา”
“อืม น่ากลัวสิดีจะได้กระโดดเกาะคนข้างๆ” แอ้ยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบของพราว
แม้จะดูเรื่องเดียวกัน แต่พราวกับฟลุคก็นั่งห่างกันพอควรและอีกฝ่ายก็ไม่เห็นเธอด้วย คงเพราะมัวแต่หยอกล้อกันอยู่กับรุ่นน้องเป็นเด็กน่ารัก หน้าตาดี ขาวสวย ผิวดีมาก หุ่นดี ตัวเล็กกะทัดรัด ดูเหมาะสมกับหนุ่มเท่ห์ดาวโรงเรียน
